บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ธุรกิจที่ปรึกษาและผู้ให้บริการด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน เปิดแผนธุรกิจปี 2024 มองการเติบโตของ AI ยังมีต่อเนื่อง ตามกระแสการปรับใช้เทคโนโลยี AI ในองค์กรที่จะขยายตัวในช่วง 3-5 ปีนับจากนี้ โดยที่ภาคธุรกิจจะมีการเร่งทำ AI Transformation เพื่อที่จะช่วยลดต้นทุนพร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ในยุคที่ AI ได้กลายเป็นตัวแปรสำคัญขององค์กรทั่วโลก
พชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bluebik เปิดเผยว่า “Bluebik มุ่งสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งเป้าขึ้นแท่นผู้นำตลาดผ่านกลยุทธ์ผสานทุกบริการหลักเข้ากับ AI หรือที่เรียกว่า Bundled Services ครอบคลุมทุกการพัฒนาด้าน AI ของธุรกิจ รับกระแสการปรับใช้เทคโนโลยี AI และคาดว่าการเติบโตของเทรนด์ AI จะส่งผลบวกต่อธุรกิจและช่วยหนุนให้ผลประกอบการในปีหน้าเติบโตกว่า 20% ตามเป้าที่วางไว้”
ขณะที่ผลประกอบการของ Bluebik ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาของปีนี้ 2024 อยู่ที่ 1,104.19 ล้านบาท โต 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 198.31 ล้านบาท
ปัจจุบัน เทรนด์การใช้ AI ในภาคธุรกิจยังอยู่ในช่วงเริ่มต้น ดังนั้นหลังจากนี้จะเป็นช่วงขาขึ้นของการปรับใช้ AI ในองค์กร จากรายงานของการ์ทเนอร์ ยังพบอีกว่า ความต้องการใช้ AI สำหรับองค์กรทั่วโลกจะโตขึ้นประมาณ 16.9% ต่อปี (ตั้งแต่ปี 2023-2027) และการเติบโตของบริการ GenAI ในตลาดจะแตะ 443,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 15 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2027
และจากจุดนี้ Bluebik มองว่า องค์กรที่เริ่มปรับใช้ AI ได้อย่างมีประสิทธิภาพก่อน จะสามารถสร้างความได้เปรียบเหนือคู่แข่ง และกดดันให้ธุรกิจต้องมุ่งปรับใช้ AI อย่างมีกลยุทธ์ในที่สุด
อย่างไรก็ตาม การทำ AI Transformation นั้นยังคงมีอุปสรรคมากมายที่ทำให้การลงทุนด้าน AI มีโอกาสล้มเหลว ยกตัวอย่างเช่น การลงทุนด้าน AI ที่ไม่สอดคล้องกับกลยุทธ์ขององค์กร องค์กรยังขาดโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่จะรองรับการใช้งาน AI ตลอดจนการพัฒนาโมเดล AI ที่ไม่เหมาะสม ไปจนถึงการขาดมาตรการด้านความปลอดภัย และพนักงานยังขาดทักษะในการนำ AI มาปรับใช้ให้เกิดขึ้นจริงในองค์กร
สำหรับกลยุทธ์ Bundled Services หรือการผสานทุกบริการเข้ากับ AI จะเป็นตัวช่วยสำหรับองค์กรธุรกิจที่ต้องการ Adopt ใช้งาน AI อย่างจริงจัง และต้องการให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งบริการของ Bluebik จะครอบคลุมในหลากหลายด้าน เพื่อตอบรับกับความต้องการของลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้น และเพื่อช่วยให้ลูกค้าเชื่อมโยงระบบการดำเนินการต่าง ๆ ได้ในที่เดียว
และในอีกประมาณ 5 ปีต่อจากนี้ Bluebik จะใช้ AI เป็นแกนกลางในการออกบริการทั้งหมด โดยที่ผ่านมาได้มีการทำงานวิจัยมาโดยตลอด ซึ่งพบว่า ทุกอย่างหันมาทาง AI มากขึ้น
โดย Bundled Services นี้จะช่วยให้แผนงานด้าน AI Transformation ขององค์กรต่าง ๆ ประสบความสำเร็จ ขณะเดียวกันก็ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับ Bluebik เนื่องจากเป็นโครงการที่มีขนาดใหญ่และมีมูลค่าสูงขึ้น ซึ่งบริการต่าง ๆ จะประกอบไปด้วย
ปัจจุบัน ฐานลูกค้าของ Bluebik จะมีทั้งจากภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะองค์กรขนาดใหญ่ในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นภาคธนาคาร พลังงาน ค้าปลีก โทรคมนาคม ไปจนถึงภาคการผลิต และจากแนวโน้มในตอนนี้ ลูกค้ากลุ่มองค์กรภายในประเทศไทยมีความต้องการในการทำ AI Transformation เพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ Bluebik ยังมีการจับมือเป็นพาร์ทเนอร์กับภาคการศึกษา เพื่อเปิดโอกาสมองหาทาเล้นต์คุณภาพจากมหาวิทยาลัยต่าง ๆ และยังมีการร่วมงานบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่หลายเจ้า ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Google และ Amazon และคาดว่าในอนาคตจะมองหาพาร์ทเนอร์กลุ่มสตาร์ทอัพ เพื่อเข้ามาร่วมออกแบบยกระดับบริการต่อไป
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney