ไปรษณีย์ไทย ลุยธุรกิจดิจิทัล สู้ศึกอีคอมเมิร์ซ ปั้น “Information Logistics” ปรับโหมดขนส่งไทย

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ไปรษณีย์ไทย ลุยธุรกิจดิจิทัล สู้ศึกอีคอมเมิร์ซ ปั้น “Information Logistics” ปรับโหมดขนส่งไทย

Date Time: 22 ส.ค. 2567 13:55 น.

Video

บรรยง พงษ์พานิช แกะปมเศรษฐกิจไทยโตต่ำ ฟื้นช้า พร้อมแนะทางออก

Summary

  • ไปรษณีย์ไทย เดินหน้ารุกธุรกิจดิจิทัลมุ่งสู่การเป็น “Information Logistics” นำเสนอบริการขนส่งตอบโจทย์ยุคดิจิทัลครบวงจรภายในไตรมาสสี่ปีนี้ เปิดแผนการดำเนินธุรกิจครึ่งปีหลัง พร้อมเป้าหมายสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วยหลัก ESG+E ตามวิสัยทัศน์ Delivering Sustainable Growth through Postal Network

ปั้น “Information Logistics” ปรับโหมดธุรกิจขนส่งไทย

ไปรษณีย์ไทย ตอกย้ำการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภารกิจสื่อสารและขนส่ง หนึ่งในโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่อยู่คู่กับคนไทยมายุคต่อยุค ท่ามกลางความท้าทายในตลาดขนส่งที่แข่งขันสูงจากคู่แข่งในไทยและจากต่างประเทศ 

วันนี้ ไปรษณีย์ไทย ครบรอบ 141 ปี ในยุคที่เศรษฐกิจและสังคมขับเคลื่อนด้วยดิจิทัลเต็มรูปแบบ ไปรษณีย์ไทย ยังคงเดินหน้าต่อในยุคที่ขนส่งไทยต้องขับเคลื่อนด้วยพลังของข้อมูลและเทคโนโลยีเพื่อก้าวสู่การเป็น “Information Logistics” ลุยนำนวัตกรรมธุรกรรมขนส่ง อีคอมเมิร์ซ และโซลูชันหลากหลายรูปแบบมาใช้อย่างเต็มสูบภายในไตรมาสสี่ปีนี้ อาทิ 

Prompt Post บริหารจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ครบวงจร ตอบโจทย์ความต้องการยุคดิจิทัล โดยมี 4 บริการหลัก ได้แก่

  • Trust Service การรับรองและลงลายมือชื่อบนเอกสารดิจิทัลด้วยใบรับรองดิจิทัลและกุญแจส่วนบุคคล
  • Digital Postbox การจัดเก็บเอกสารสำคัญได้อย่างรวดเร็วและมีความน่าเชื่อถือ
  • One-stop service การสนับสนุนการให้บริการของภาครัฐ และภาคเอกชน ผ่านช่องทางดิจิทัล ให้ประชาชนสามารถเข้าถึงบริการต่างๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
  • Prompt pass บริการจัดเก็บเอกสารสำคัญส่วนบุคคล เพื่ออำนวยความสะดวกในการส่งข้อมูลระหว่างประชาชนกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน 

Postman Cloud ที่ใช้ความเชี่ยวชาญของบุรุษไปรษณีย์ที่มีกว่า 25,000 คนทั่วประเทศ ให้บริการในรูปแบบ Postman as a Service เช่น Survey บริการเก็บข้อมูลและสำรวจทรัพย์ Express บริการ รับ-ส่ง สิ่งของ แบบ Point to Point ตามความต้องการของลูกค้า/พันธมิตร Matching บริการเชื่อมโยง Demand และ Supply

D/ID (ดีไอดี) หรือ Digital Post ID ทางเลือกใหม่ของการระบุชื่อ-ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือจ่าหน้าแบบใช้รหัส ช่วยปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลระหว่างการจัดส่งสิ่งของ บอกพิกัดแนวดิ่งได้ทำให้สามารถระบุ ที่อยู่สำหรับผู้ที่อยู่ในอาคารสูง และเมื่อผู้ใช้งานมีการแก้ไขข้อมูลที่อยู่ในระบบ D/ID ข้อมูลที่อยู่ซึ่งเดิมไว้ใช้ติดต่อกับหน่วยงานต่าง ๆ ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ไปยังหน่วยงานปลายทางโดยอัตโนมัติ 

ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า นอกจากธุรกิจใหม่ที่ไปรษณีย์พร้อมเดินหน้าแล้ว กลุ่มธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ซึ่งเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลัก ยังเน้นการรักษากลุ่มลูกค้าเดิมและมองหาลูกค้าใหม่ รวมทั้งการเข้าไปเป็นผู้ขนส่งให้กับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น แพลตฟอร์ม Tiktok Shopee และ Lazada 

โดยบริการที่มีการเติบโตโดดเด่นสุด คือ บริการส่งด่วน EMS ในประเทศ ที่มีปริมาณสิ่งของฝากส่งเพิ่มขึ้นจากปี 2566 ถึง 12.92% จากแรงบวกของการค้าออนไลน์ ค้าปลีก และความน่าเชื่อถือของบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย ตอบสนองรูปแบบการส่งได้หลากหลายประเภท และยังเติบโตในด้านเครือข่ายจุดให้บริการที่มีถึง 50,000 แห่งทั่วประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงการเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญของภาคเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ

Delivering Sustainable Growth through Postal Network 

นอกจากนี้ ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ เปิดเผยเพิ่มเติมถึงแผนงานด้านความยั่งยืน ซึ่งไปรษณีย์ไทยได้วางกรอบการดำเนินงานที่จะเป็นผู้ให้บริการขนส่งและสื่อสารที่ขับเคลื่อนระบบงานต่างๆ ด้วยหลัก ESG+E คือ Environment, Social, Governance และ Economy ผ่านแผนงานทั้งในระยะสั้นและระยะยาว 

ด้านสิ่งแวดล้อม ไปรษณีย์ไทย ตั้งเป้ามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี พ.ศ. 2573 และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ ภายในปี พ.ศ. 2593 และในไตรมาส 4 ของปีนี้จะมีการนำยานยนต์ไฟฟ้ามาใช้ในระบบงานไปรษณีย์เพื่อลดการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง โดยมีเป้าหมายปรับเปลี่ยนเป็นยานยนต์ไฟฟ้าให้ได้ 85% ภายในปี 2573 ครบทั้งหมด 100% ภายในปี 2583 และยังอยู่ระหว่างยังศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการนำพลังงานไฮโดรเจนมาใช้กับระบบขนส่งเพิ่มเติม 

ด้านสังคม ไปรษณีย์ไทย เปิดตัวโครงการ “ไปรษณีย์เชื่อมสุข” ที่มุ่งสร้างงาน สร้างอาชีพและเชื่อมโยงเครือข่ายไปยังชุมชนที่สำคัญเพื่อเพิ่มโอกาสการสร้างรายได้ รวมถึงขยายช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้กลุ่มเกษตร กลุ่ม SMEs และกลุ่มเปราะบางทางสังคมผ่านแพลตฟอร์ม “ThailandPostMart” โดยที่ผ่านมาช่วยสร้างรายได้จากการขายสินค้าผ่านช่องทางไปรษณีย์ไทยทั้งรูปแบบออฟไลน์และออนไลน์มากกว่า 600 ล้านบาท/ปี 

โดยตลอดระยะเวลา 3 ปี ได้สนับสนุนเกษตรกรไทย ในการขนส่งผลไม้และพืชผลทางการเกษตร เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 100,000 ตัน ครึ่งปีแรกของปี 2567 นี้มีปริมาณการฝากส่งผลไม้ไทยยอดนิยมผ่านบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทยกว่า 18 ล้านกิโลกรัม 

ด้านการกำกับดูแลกิจการ ไปรษณีย์ไทย ให้ความสำคัญกับการรักษา ปกป้อง และใช้ข้อมูลอย่างมีธรรมาภิบาล เปิดเผยข้อมูลการดำเนินงานอย่างโปร่งใสทุกขั้นตอน พร้อมมุ่งเน้นการสร้างรายได้จากนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนให้แก่องค์กร และพัฒนาธุรกิจเพื่อสนับสนุนการดำรงชีวิตในสังคม
ยุคดิจิทัล 

บทความที่เกี่ยวข้อง 

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ