เพราะ “คน” สำคัญต่ออนาคตองค์กร เจาะกลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มงาน HR ในยุค Gen AI ทำอย่างไรให้เห็นผล?

Tech & Innovation

Digital Transformation

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เพราะ “คน” สำคัญต่ออนาคตองค์กร เจาะกลยุทธ์ทรานส์ฟอร์มงาน HR ในยุค Gen AI ทำอย่างไรให้เห็นผล?

Date Time: 28 ก.ค. 2567 22:34 น.

Video

“ไทยรัฐ โลจิสติคส์” ถอดคราบ “ยักษ์เขียว” มุ่งสู่ขนส่งครบวงจร | Thairath Money Talk

Summary

  • ปฏิเสธไม่ได้ว่า Gen AI จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นในธุรกิจ กับงาน HR ที่เป็นหนึ่งกลไกเบื้องหลังของการขับเคลื่อนธุรกิจ จะมีแนวทางอย่างไรที่จะให้องค์กรทรานส์ฟอร์มงาน HR ผ่านการใช้งาน Gen AI ด้าน Bluebik เผยกลยุทธ์และการเตรียมความพร้อม เพื่อให้การปรับตัวขององค์กรประสบความสำเร็จ

ในปัจจุบันงาน HR หรือ Human Resource ถือเป็นกลไกเบื้องหลังการขับเคลื่อนธุรกิจที่จะขาดไปไม่ได้ เนื่องจากบุคลากร คือ ทรัพยากรสำคัญขององค์กร เมื่อองค์กรเติบโตขึ้น งาน HR จึงต้องพัฒนาให้ทันตามการขยายตัวของธุรกิจ ทำให้ฟังก์ชันงาน HR บางส่วนต้องปรับเปลี่ยนกระบวนการให้รวดเร็วขึ้น มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และสามารถรองรับกลยุทธ์ด้านบุคลากรของธุรกิจได้ในระยะยาว 

สำหรับการขับเคลื่อนงาน HR นั้น เทคโนโลยีใหม่ๆ สามารถเข้ามาเพิ่มขีดความสามารถในกระบวนการทำงานได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะการใช้งาน Generative AI (Gen AI) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่สามารถประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูง 

นายพิพัฒน์ ประภาพรรณพงศ์ ผู้อำนวยการฝ่าย Advanced Insights บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK เผยว่า “แม้ปัจจุบันเทคโนโลยี Gen AI ได้รับการพัฒนาจนสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ แต่สำหรับการนำไปใช้งานภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพนั้น ควรมีการเตรียมความพร้อมและวางกลยุทธ์เพื่อให้ AI สามารถสร้างผลลัพธ์ได้จริง”


เตรียมความพร้อมใช้งาน Gen AI กับ HR อย่างไรให้เห็นผล?


การเตรียมความพร้อมควรมองใน 3 เรื่อง ได้แก่

  1. บุคลากรที่ควรมีทักษะในการถามคำถาม เพื่อป้อนคำสั่งที่เหมาะสมสำหรับให้ AI สร้างผลลัพธ์
  2. กระบวนการที่ต้องมีแนวทางการเก็บข้อมูล หรือมีนโยบายด้าน Data Governance ในการควบคุมดูแลด้านข้อมูลโดยเฉพาะ ในการเอา AI ไปใช้สำหรับการทำงานในส่วนต่างๆ
  3. เทคโนโลยีที่ระบบภายในองค์กรควรเป็น Private System ที่มีการปกป้องดูแลความปลอดภัยของข้อมูลส่วนตัวของพนักงาน 

สำหรับงาน HR นั้น หากมองในภาพรวมแล้ว สามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ด้วยกัน ประกอบด้วย การสรรหาบุคลากร (Talent Acquisition) การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) และการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (Resource Management) ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนั้น Gen AI สามารถนำไปปรับใช้ได้ในทุกกระบวนการ

อย่างไรก็ตาม ก่อนนำ Gen AI ไปใช้จริงสำหรับงาน HR องค์กรควรทำความเข้าใจและเตรียมความพร้อมเรื่องข้อมูลก่อน ซึ่งโดยปกติแล้วข้อมูลในงาน HR แบ่งเป็นข้อมูลภายในองค์กรที่ครอบคลุมตั้งแต่ข้อมูลผู้สมัครงาน ข้อมูลบริษัท นโยบายบริษัท ข้อมูลสิทธิประโยชน์ต่างๆ และระบบการบริหารจัดการด้าน HR อีกส่วนคือข้อมูลภายนอก เช่น เทรนด์ตลาดแรงงาน นโยบายและการรับสมัครงานของบริษัทคู่แข่ง ค่าเฉลี่ยเงินเดือน และทักษะของพนักงานในตำแหน่งต่างๆ 

เมื่อเตรียมพร้อมเรื่องข้อมูลแล้ว องค์กรควรเลือกกรณีการใช้งาน หรือ Use Case ที่เหมาะสมกับธุรกิจ โดยเลือกตามการจัดลำดับความสำคัญ (Use Case Prioritization) ซึ่งส่วนใหญ่แล้วพิจารณาตาม 2 แกนหลัก คือ Business Impact ซึ่งเป็นผลลัพธ์และคุณค่าที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจในแง่ผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment) รวมถึงความสอดคล้องกับกลยุทธ์องค์กร และ Feasibility ที่เป็นความพร้อมในการพัฒนาและใช้งานจริง โดยแนวทางการทำ Use Case Prioritization นั้น สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามวัตถุประสงค์ขององค์กร

สำหรับแนวทางที่ บลูบิค เข้าไปช่วยแนะนำองค์กรธุรกิจในการเลือก Use Case ที่เหมาะสม ประกอบด้วย 4 ขั้นตอนหลัก ดังนี้

  1. สร้าง Use Case โดยพิจารณาจากปัญหาของธุรกิจ เป้าหมาย หรือวัตถุประสงค์ขององค์กร และตัวขับเคลื่อนหลักที่ส่งผลต่อการบรรลุเป้าหมายนั้นๆ (Key Driver)  
  2. รวบรวม Use Case จากการทำ Value Stream Mapping แผนผังที่จะช่วยให้มองเห็นภาพรวมของกระบวนการและกิจกรรมต่างๆ ที่สร้างคุณค่าให้ธุรกิจ แล้ววิเคราะห์ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นต่อธุรกิจและความพร้อมในการดำเนินการ
  3. วางแผนการปรับใช้ Use Case ตามการจัดลำดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จมากที่สุด 
  4. เลือก Use Case ที่เป็น Quick-win ซึ่งสามารถทำได้เร็วและสร้างผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว เพื่อเริ่มดำเนินการก่อน 

แล้ว Gen AI จะช่วย HR ได้อย่างไรบ้าง? 


ในมุมมองของ Bluebik แล้ว จากประสบการณ์ในการเข้าไปช่วยวางกลยุทธ์ Gen AI Use Cases ที่น่าสนใจสำหรับงาน HR ทั้งการสรรหาบุคลากร การบริหารผลการปฏิบัติงาน และการบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล สามารถแบ่งออกเป็น 15 Use case ได้แก่

– การสรรหาบุคลากร (Talent Acquisition) 

  1. Automated Job Description Generation - วิเคราะห์คำอธิบายตำแหน่งงาน ข้อมูลบริษัท และเทรนด์ในภาคธุรกิจ และสร้างคำอธิบายตำแหน่งงานที่เหมาะสมที่สุด 
  2. Targeted Ad Placement - วิเคราะห์ตลาดแรงงานและความสนใจของผู้สมัครงาน จากนั้นให้คำแนะนำในการทำโฆษณารับสมัครงานบนเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย 
  3. Resume Screening - ระบุผู้สมัครที่เหมาะสมที่สุดจากทักษะและประสบการณ์ทำงานแบบอัตโนมัติ เพื่อหาบุคลากรที่เหมาะกับความต้องการขององค์กร  
  4. Skills Matching - จับคู่ผู้สมัครงานที่ตรงกับความต้องการของตำแหน่งงาน โดยอิงจากทักษะและประสบการณ์ทำงาน 
  5. Predictive Personality Assessment - ระบุแนวโน้มลักษณะผู้สมัครงานที่เหมาะสมกับวัฒนธรรมองค์กร

– การบริหารผลการปฏิบัติงาน (Performance Management) 

  1. Skills Gap Analysis - วิเคราะห์ทักษะพนักงานและให้คำแนะนำในการเสริมทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในอนาคต  
  2. Attrition Prediction - วิเคราะห์ข้อมูลและผลการปฏิบัติงานเพื่อหาความเสี่ยงการลาออก
  3. Succession Planning - ระบุตัวพนักงานที่มีศักยภาพได้รับการเลื่อนตำแหน่ง 
  4. Personalized Learning Paths - แนะนำโปรแกรมฝึกอบรมพนักงานที่เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ทักษะ และประสบการณ์ทำงาน 
  5. Knowledge Management - จัดระบบเอกสาร ระเบียบปฏิบัติงานต่างๆ เพื่อให้ง่ายต่อการค้นหาสำหรับพนักงาน  

การบริหารจัดการทรัพยากรบุคคล (Resource Management)

  1. Career Pathing - ช่วยพนักงานในการสร้าง Career Path ที่เหมาะสมกับตัวเอง 
  2. Personalized Benefits - สร้างแพ็กเกจสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคน  
  3. Payroll Automation - เพิ่มประสิทธิภาพของระบบบัญชีเงินเดือน เช่น การคำนวณค่า OT หรือการเข้ากะของพนักงาน 
  4. Compliance Monitoring - ติดตามและแจ้งเตือนความเสี่ยงด้านการปฏิบัติการ  
  5. Chatbots for HR Helpdesk - แชตบอตตอบคำถามเกี่ยวกับ HR ตลอด 24 ชั่วโมง 

สุดท้ายแล้ว การสร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจจาก AI ไม่ใช่แค่การนำเทคโนโลยีมาใช้งาน แต่ต้องมาจากการวางกลยุทธ์และการจัดลำดับความสำคัญ ว่าจะนำ AI ไปใช้สร้างคุณค่าให้องค์กรที่จุดไหน และต้องมีความพร้อมเรื่องข้อมูลสำหรับพัฒนาโมเดล AI ให้สร้างผลลัพธ์ได้ตามความต้องการ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ