ปัจจุบันเทคโนโลยีการชำระเงินได้รับการพัฒนาให้มีความก้าวหน้าทำให้ธุรกรรมในชีวิตประจำวันเป็นไปได้อย่างสะดวกและรวดเร็วโดยไม่ทันได้รู้ตัว ขณะเดียวกันก็ยังมีความก้าวหน้าของภาคการเงินอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นการเกิดเงินดิจิทัล หรือเทคโนโลยีความปลอดภัยที่ต้องมาควบคู่กัน
และเพื่อให้เห็นภาพที่ชัดขึ้น Thairath Money ได้หยิบยกเทรนด์ชำระเงินในโลกยุคใหม่ที่ถูกพูดถึงในรายงาน “A new payments paradigm” จากธนาคาร HSBC โดยจะเป็นเทรนด์การชำระเงินและเทคโนโลยีที่จะมีบทบาทอย่างมากในยุคดิจิทัล ซึ่งประกอบไปด้วย
- Real-Time Payments - ระบบการชำระเงินแบบเรียลไทม์ที่สามารถทำได้ตลอด 24 ชั่วโมง ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที อย่างเช่นระบบพร้อมเพย์ (PromtPay) ของบ้านเรา ซึ่งต่างจากระบบชำระเงินแบบเดิมที่ต้องใช้เวลาหลายวันกว่าเงินจะถึงผู้รับ
- Digital Wallet/e-Wallet - กระเป๋าเงินดิจิทัลที่ช่วยให้เราเก็บเงินในระบบเพื่อใช้ชำระเงินแบบออนไลน์ หรือตามจุดชำระเงินต่างๆ
- Cryptocurrency - สินทรัพย์ดิจิทัลที่ต้องมีการเข้ารหัสและทำงานอยู่บนเครือข่ายบล็อกเชน (Blockchain)
- Stablecoins - คริปโตฯ ที่ตรึงมูลค่าไว้กับสินทรัพย์ที่มั่นคงอย่างเช่น สกุลเงินประเทศต่างๆ ทองคำ พันธบัตร และคริปโตฯ อย่างเช่นเหรียญ Tether (USDT)
- CBDC - สกุลเงินดิจิทัลที่ออกและควบคุมโดยรัฐบาลกลาง
- DLT - เทคโนโลยีบัญชีแยกประเภทแบบกระจายศูนย์ หรือ Distributed Ledger Technology ช่วยให้ธุรกรรมมีความปลอดภัย โปร่งใส และตรวจสอบกลับได้
- Biometric Security - เทคโนโลยียืนยันตัวตนอย่างเช่นการสแกนลายนิ้วมือ หรือจดจำใบหน้าเพิ่มความปลอดภัยในการทำธุรกรรมแทนการใช้รหัสผ่านแบบเดิม