การเติบโตของ Generative AI ได้เปลี่ยนโฉมงานฟรีแลนซ์ในตลาดสายเทค โดยมีประกาศรับสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับ AI เพิ่มขึ้น ขณะที่ฝั่งผู้หางานก็มีการเสิร์ชที่เกี่ยวข้องกับ AI มากขึ้นบนแพลตฟอร์มหางานอย่าง LinkedIn, Upwork และ Fiverr
จากข้อมูลของ Indeed ซึ่งเป็นเว็บไซต์หางานระบุว่าประกาศรับสมัครงานที่เกี่ยวข้องกับ Generative AI บนแพลตฟอร์มมีจำนวนเพิ่มขึ้นเกือบ 250% ตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคม 2021 - กรกฎาคม 2023
ทางด้านตัวแทนจาก Fiverr แพลตฟอร์มจัดหาฟรีแลนซ์กล่าวว่าบริษัทหลายแห่งต่างกำลังเสาะหาช่องทางในการผสาน AI เข้ากับแพลตฟอร์มธุรกิจของตัวเอง และทำงานร่วมกับ Developer อิสระ ที่มีความชำนาญ
และตามข้อมูลจาก LinkedIn อีกหนึ่งเว็บไซต์เครือข่ายสังคมออนไลน์ภายใต้ Microsoft ผู้ลงทุนหลักของ OpenAI ระบุว่าการเข้ามาของโมเดลภาษา Large Language Model (LLM) ได้ทำให้การค้นหาเกี่ยวกับ Generative AI บนแพลตฟอร์มเติบโตอย่างต่อเนื่อง
โดยตั้งแต่ช่วงต้นเดือนเมษายน จำนวนโพสต์ของผู้ใช้ LinkedIn ในสหรัฐฯ ที่พูดถึงคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับ Generative AI นั้นเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบเป็นรายเดือน และในเดือนมิถุนายน คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับ AI อย่างคำว่า ChatGPT, Prompt Engineering และ Prompt Crafting ถูกเพิ่มเข้าไปในโปรไฟล์ของผู้ใช้เยอะขึ้นกว่าในช่วงต้นปีถึง 15 เท่า
นอกจากนี้ LinkedIn ยังระบุว่าความต้องการฟรีแลนซ์ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน AI มีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และจากการสำรวจความเห็นของผู้บริหารพบว่า 44% ของผู้บริหารในสหรัฐฯ ตั้งใจจะขยายการใช้เทคโนโลยี AI ในปีหน้า และอีก 47% คาดหวังว่าจะช่วยเพิ่มผลลัพธ์ของงาน
ขณะเดียวกันก็นับเป็นโอกาสของฟรีแลนซ์ที่มีความเชี่ยวชาญด้าน AI ที่จะใช้ประโยชน์จากการขาดผู้มีทักษะในด้านนี้ เห็นได้จากในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ ในภาคเทคโนโลยี สารสนเทศ และสื่อ ตามการจัดหมวดหมู่ของ LinkedIn พบว่ามีผู้ที่มีความสามารถด้าน AI มากที่สุดเพียง 2.2% ขณะที่ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อย่างกลุ่มค้าปลีกและบริการทางการเงินที่ต้องปรับใช้ AI แต่ยังคงมีอัตราพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญอยู่ในเปอร์เซ็นต์ที่ต่ำ
อ้างอิง