หนึ่งในประเด็นที่น่าสนใจในโลกเทคโนโลยีปัจจุบันนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง Blockchain และ Web3 ที่จะเห็นว่าตอนนี้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น และไม่ได้มีการนำมาใช้งานเฉพาะแค่ในเรื่องการเงินหรือการเทรดเพียงเท่านั้น แต่ยังมีการต่อยอดออกไปบูรณาการกับหลายอย่าง
ซึ่งในประเทศไทย คอมมูนิตี้ Blockchain และ Web3 ก็เติบโตขึ้นตามความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน ส่งผลให้มีการเข้ามาของอีเวนต์หรือกิจกรรมต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อสานต่อและคอนเนคกันระหว่างคนที่ให้ความสนใจในเทคโนโลยีนี้
จากงาน “Road to SEABW2025” ที่จัดขึ้นโดย SCBX, Bitazza Thailand, Freedom World และ Cryptomind Group ได้เผยแนวทางของการกลับมาอีกครั้งกับงาน “Southeast Asia Blockchain Week 2025” ที่กำลังจะจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 หลังจากประสบความสำเร็จมาแล้วเมื่อปี 2024 แล้วไฮไลต์ในปีนี้จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง Thairath Money จะพาไปทำความรู้จักและส่องกลยุทธ์ของงานที่จัดในครั้งนี้
Southeast Asia Blockchain Week หรือ SEABW ที่กำลังจะจัดขึ้นนี้ เป็นครั้งที่ 2 ประจำปี 2025 เป็นเวทีสำคัญของการขับเคลื่อนในอุตสาหกรรม Blockchain โดยจะเป็นการเปิดเวทีสำหรับบทสนทนาเกี่ยวกับการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้จริง พูดคุยถึงอนาคตของสินทรัพย์ดิจิทัล และเทคโนโลยีแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Technology)
สำหรับงานนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือ เพื่อตอกย้ำบทบาทงานประชุมด้าน Blockchain และ Web3 ที่ทรงอิทธิพลในระดับภูมิภาค ด้วยการปั้นประเทศไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมและความร่วมมือระดับโลก
นอกจากนี้ งานนี้ยังตั้งเป้าที่จะดึงดูดผู้นำด้าน Blockchain ระดับโลก นักลงทุน ผู้กำหนดนโยบาย และนวัตกร (Innovator) ให้มารวมตัวกัน เพื่อสะท้อนความแข็งแกร่งเศรษฐกิจดิจิทัลของไทยที่กำลังเติบโตและเป็นจุดศูนย์กลางของวงการ Blockchain ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ต่อไป
ภายในงานนี้จะมีการรวบรวมผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม พร้อมกับผู้ที่มีบทบาทสำคัญในวงการมาร่วมแบ่งปันความรู้ และถกกันในประเด็นต่าง ๆ ที่กำลังเป็นเรื่องร้อนในโลก Blockchain และ Web3 โดยที่งาน SEABW 2025 จะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 30 มีนาคม – 5 เมษายน 2568 โดยจะมีการประชุมใหญ่ระหว่างวันที่ 2–3 เมษายน 2568 ณ ทรู ไอคอน ฮอล ไอคอนสยาม (TRUE ICON Hall ICONSIAM) กรุงเทพมหานคร
ซึ่งการประชุมหลักของ SEABW 2025 ในวันที่ 2–3 เมษายน 2025 จะจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “The Southeast Asian Way” สะท้อนบทบาทสำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีต่อวงการ Web3 โดยไฮไลต์ของงานปีนี้ประกอบด้วย 6 หัวข้อหลักครอบคลุมประเด็นสำคัญ อาทิ การกำกับดูแลสินทรัพย์ดิจิทัล ความเชื่อมโยงระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมกับ DeFi อุตสาหกรรมเกม และ NFT ตลอดจนบทบาทของชุมชนใน Web3 การผสาน AI กับ Blockchain และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยี
และนอกจากเวทีเสวนาจากผู้เชี่ยวชาญแล้ว ผู้เข้าร่วมจะได้สัมผัสกับกิจกรรมเวิร์กช็อปแบบที่ได้ลงมือทำจริง การสาธิตเทคโนโลยีจริง และโอกาสสร้างเครือข่ายกับนักลงทุน ผู้พัฒนา และผู้นำอุตสาหกรรม
เมื่อปี 2024 ที่ผ่านมา เรียกได้ว่า งาน SEABW2024 ก็ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดี โดย Ryan Kim ผู้ร่วมก่อตั้ง Hashed และ Hojin Kim ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ShardLab สองโฮสต์หลักของงานได้ออกมาแชร์ข้อมูลความสำเร็จของ SEABW2024 ว่า “ปีที่ผ่านมา มีผู้สนใจมาเข้าร่วมงานกว่า 6,000 ราย โดย 70% ของผู้ร่วมงานคือ ชาวเอเชีย งานครั้งก่อนได้รวบรวมผู้เชี่ยวชาญมาร่วมสนทนาบนเวทีกว่า 200 ราย อีกทั้งยังเป็นงาน Web3 Conference งานแรกที่จัดขึ้นในระดับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อีกด้วย”
ปีที่ผ่านมา บทเวทีต่าง ๆ ในงาน SEABW2024 จะมุ่งเน้นไปที่ความก้าวหน้าล่าสุดในด้าน DeFi, NFTs, กฎระเบียบต่าง ๆ และโซลูชัน Blockchain ที่ยั่งยืน พร้อมกับเปิดพื้นที่ Networking ให้ผู้เข้าร่วมได้มีโอกาสในการสร้างเครือข่ายคุณภาพ พบปะสร้างพันธมิตรใหม่ และสำรวจโอกาสความร่วมมือ ซึ่งสะท้อนถึงความแข็งแกร่งของชุมชนและระบบนิเวศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทั้ง 2 ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “ความร่วมมือระหว่างนักพัฒนาโปรโตคอลระดับโลกและผู้นำในอุตสาหกรรมจะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนอนาคตของเศรษฐกิจดิจิทัลและการเงินแบบกระจายศูนย์ในภูมิภาค และ SEABW 2025 จะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญที่เปิดโอกาสให้นักคิด นักสร้าง และนักลงทุน ได้มาร่วมกันกำหนดทิศทางใหม่ของอุตสาหกรรม Blockchain ในระดับโลก”
อย่างที่ทราบกันดีว่า ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีกำลังอยู่ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในด้านการเมืองและการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ อย่างล่าสุด ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกา ก็ได้มีการลงนามตั้ง Crypto Strategic Reserve ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่งผลให้ตลาดนี้ได้รับความสนใจมากยิ่งขึ้น
สำหรับประเทศไทยเองที่ผ่านมาก็มีการออกกรอบกฎระเบียบต่าง ๆ มามากขึ้น พร้อมกับมีสถาบันการเงินรายใหญ่หลายรายหันมาเดินหน้ากลยุทธ์ในด้านนี้
ธนวัต สุตันติวรคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Bitazza Thailand กล่าวว่า “ปัจจุบันประเทศไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ ทั้งยังได้รับการยอมรับในด้าน Blockchain และการเงินดิจิทัลมากขึ้น ด้วยกรอบนโยบายที่ก้าวหน้าและระบบนิเวศคริปโตฯ ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งงาน SEABW 2025 เองก็จะเป็นเวทีสำคัญในการแสดงศักยภาพของประเทศไทยให้เป็นที่ประจักษ์ พร้อมเปิดโอกาสให้ผู้สร้างสรรค์นวัตกรรมระดับโลกได้เชื่อมต่อกับตลาดไทย”
รวมพร ศิระธนาพันธ์ Blockchain & Digital Asset Lead, SCBX กล่าวว่า “อนาคตด้านหนึ่งของการเงินดิจิทัลจะถูกขับเคลื่อนผ่านความร่วมมือระหว่างการเงินแบบดั้งเดิมและนวัตกรรม Blockchain งานนี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยผลักดันให้เรื่องนี้ดำเนินต่อไป และจะส่งผลดีต่อประเทศไทยที่กำลังอยู่ในช่วงเวลาสำคัญของการกำหนดทิศทางของเศรษฐกิจดิจิทัล ที่มุ่งสร้างนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและระบบนิเวศของการให้บริการทางการเงิน”
ด้าน สัญชัย ปอปลี Group CEO Cryptomind กล่าวว่า “SEABW2025 เป็นจุดนัดพบสำคัญสำหรับนักลงทุน ผู้สร้าง และผู้กำหนดนโยบายในการร่วมกันวางแนวทางสำหรับอนาคตของ Blockchain ไม่ใช่เพียงแค่ในประเทศไทย แต่คือการผลักดันในระดับภูมิภาคที่จะเป็นกุญแจสำคัญในการขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน”
ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney