ฉาวข้ามทวีป! ปธน.อาร์เจนตินาแลกเครดิตกับเหรียญขยะ เบื้องหลังดราม่า Rug Pull เหรียญ Libra

Date Time: 19 ก.พ. 2568 23:49 น.

Summary

ประธานาธิบดี Javier Milei ของอาร์เจนตินา กับดราม่าเหรียญ $Libra มีมคอยน์ที่เกิดเหตุการณ์ “Rug Pull” มูลร่วงอย่างรุนแรงจากมูลค่ากว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญเหลือไม่ถึง 0.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ หลังประธานาธิบดี Milei โพสต์โปรโมทเพียงไม่นาน ส่งผลให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์และถูกเรียกร้องให้มีการถอดออกจากตำแหน่ง

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เกิดปัญหาสะเทือนวงการการเมืองอาร์เจนตินา และกระทบกับวงการคริปโตเคอร์เรนซี หลังจากเหตุการณ์วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ประธานาธิบดี Javier Milei ของอาร์เจนตินา ออกมาโพสต์ผ่าน X ของตัวเองเกี่ยวกับเหรียญ $Libra จนไม่กี่ชั่วโมงต่อมาเกิดเหตุการณ์ “Rug Pull” ที่ราคาเหรียญดังกล่าวร่วงอย่างรุนแรงจากมูลค่ากว่า 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญเหลือไม่ถึง 0.20 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ

เหตุการณ์ดังกล่าวส่งผลให้ประธานาธิบดี Javier Milei ถูกสอบสวนและถูกเรียกร้องให้มีการถอดออกจากตำแหน่ง เพราะอาจจะเกี่ยวข้องกับการโปรโมทเหรียญ หรือมีส่วนได้ส่วนเสียกับเหรียญ $Libra ซึ่งหลังจากราคาร่วงไม่นาน ประธานาธิบดี Javier Milei ก็ได้ลบโพสต์ดังกล่าวออกจาก X ทันที

องค์กร Observatorio del Derecho a la Ciudad ซึ่งเป็นองค์กรอิสระในอาร์เจนตินาระบุว่ามีผู้ได้รับผลกระทบประมาณ 40,000 คน โดยมูลค่าความเสียหายเกิน 4,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังทำให้ดัชนีตลาดหุ้นหลักของอาร์เจนตินาปิดตัวลดลงมากกว่า 5% ในวันจันทร์ที่ผ่านมา

เหรียญ $Libra

เหรียญ $Libra คือ คริปโตเคอร์เรนซีที่มีลักษณะเป็นมีมคอยน์ (Meme Coin) ถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์มชื่อว่า Meteora ที่อยู่บนเชน Solana

สำหรับมีมคอยน์ คือ สกุลเงินดิจิทัลที่บางครั้งอ้างอิงจากมุกตลกบนอินเทอร์เน็ต อย่างเช่น Doge เหรียญหน้าน้องหมา และก่อนเข้ารับตำแหน่ง ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง ได้เปิดตัวเหรียญดิจิทัลของตนเอง ได้แก่ $Trump และ $Melania อย่างไรก็ตาม บางครั้งเหรียญมีมคอยน์เหล่านี้จุดกระแสความไม่พอใจในวงการคริปโตฯ โดยผู้เชี่ยวชาญระบุว่าครอบครัวทรัมป์กำลังทำให้วงการนี้กลายเป็นเรื่องตลก

ส่วนเหรียญ $Libra ถูกสร้างขึ้นตามโครงการ Liberal Argentina โดยประธานาธิบดี Javier Milei ได้โพสต์บน X ว่า “โปรเจกต์นี้จะช่วยให้ชาวอาร์เจนตินาเข้าถึงทางการเงินได้มากขึ้น ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงเงินทุนได้ง่ายขึ้น จะเป็นการช่วยยกระดับเศรษฐกิจของประเทศ ตลอดจนเปิดทางให้ทั่วโลกสนใจหันมาลงทุนในอาร์เจนตินาด้วย $Libra”

หลังจากโพสต์นี้เพียง 45 นาที ราคาของ $Libra พุ่งสูงขึ้นจนแตะจุดสูงสุดที่ 5.54 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ โดยผู้ซื้อรายแรกจ่ายในราคาเพียง 0.216 ดอลลาร์สหรัฐต่อเหรียญ ซึ่งทำการซื้อในช่วงเวลาเดียวกับที่ประธานาธิบดี Milei โพสต์บน X และประมาณ 37 นาทีต่อมา ผู้ใช้รายดังกล่าวสามารถขายโทเคน $Libra ส่วนใหญ่จนทำกำไรสุทธิที่ประมาณ 6.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โพสต์ของประธานาธิบดี Milei ส่งผลกระทบอย่างมหาศาล เพราะทำให้มีการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลนี้เป็นมูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และมีมูลค่าตามราคาตลาด (Market Capitalization) แตะระดับ 4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังพบอีกว่า ผู้ที่ถือเหรียญส่วนใหญ่อยู่ในสหรัฐอเมริกา และเอเชีย ส่วนในอาร์เจนตินามีส่วนน้อยมาก

Hayden Davis อีกหนึ่งบุคคลสำคัญของโครงการนี้ เขาอ้างว่าเป็นที่ปรึกษาให้กับประธานาธิบดี Milei และยังเป็นซีอีโอของบริษัทผู้อยู่เบื้องหลังการสร้าง $Libra โดย Davis ได้ออกมายอมรับว่า เขาทำเงินได้ประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังคงถือครองสกุลเงินดิจิทัลนี้ ซึ่งมีมูลค่าประมาณ 11 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เขายังทำเงินได้อีก 13 ล้านดอลลาร์สหรัฐจากค่าธรรมเนียมในการขายเหรียญอีกด้วย หรือโดยรวมแล้ว Davis เชื่อว่าเขาทำกำไรได้ทั้งหมด 113 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ตามข้อมูลจาก Fernando Molina ผู้เชี่ยวชาญด้านคริปโตของอาร์เจนตินา พบว่า

  • 62.8% สูญเสียเงินระหว่าง 1-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • 8.7% สูญเสียระหว่าง 1,000-10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • 2.9% สูญเสียระหว่าง 10,000-100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ในส่วนของผู้ที่ทำกำไรได้

  • 22.3% ได้กำไรระหว่าง 1-1,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • 2.6% ได้กำไรระหว่าง 1,000-10,000 ดอลลาร์สหรัฐ
  • มีเพียง 0.18% เท่านั้นที่ทำกำไรได้มากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม จากรายงานของ Buenos Aires Herald ชี้ว่า ประมาณ 84% ของเหรียญทั้งหมดอยู่ในมือของผู้ใช้ 3 ราย ซึ่งเป็นสมาชิกในทีมพัฒนา ขณะที่ในโครงการประเภทนี้ นักพัฒนามักจะถือครองเหรียญเพียง 15-20% เท่านั้น ส่งผลให้ผู้ซื้อกล่าวหาว่าผู้สร้างเหรียญมีส่วนเกี่ยวข้องกับแผน “Rug Pull” ซึ่งเป็นกลโกงที่นักลงทุนกลุ่มแรกของสกุลเงินดิจิทัลจะล่อให้ผู้อื่นเข้ามาซื้อเพื่อดันราคาให้สูงขึ้น ก่อนจะรีบถอนเงินออกอย่างรวดเร็ว

เกมการเมือง?

หลังจากเหตุการณ์ Rug Pull ไม่นาน ทางประธานาธิบดี Javier Milei ก็ถูกร้องเรียนมากกว่า 100 รายการ ต่อศาลสูงสุดของประเทศ โดยถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับกลโกงที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล $Libra ซึ่งนักการเมืองฝ่ายค้านประเมินว่า ส่งผลให้มีผู้เสียหายถึง 40,000 คน อีกทั้งยังมีข้อเรียกร้องให้ถอดถอนเขาออกจากตำแหน่ง

ประธานาธิบดี Milei ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนช่วยปั่นราคาสกุลเงินดิจิทัลนี้ โดยการโปรโมตบน X ก่อนจะเลิกสนับสนุน จนทำให้มูลค่าของเหรียญดิ่งลงอย่างรวดเร็ว

Cristina Kirchner อดีตประธานาธิบดีอาร์เจนตินา โพสต์ข้อความยาวบน X ระบุว่า Milei เป็นนักต้มตุ๋นคริปโตฯ พร้อมกล่าวหาว่าเขากำลังเปลี่ยนอาร์เจนตินาให้กลายเป็นคาสิโน และตัวเขาเองเป็นเจ้ามือ

ด้าน Esteban Paulon นักการเมืองจากพรรคสังคมนิยมฝ่ายค้าน โพสต์ข้อความบน X เรียกร้องให้มีการถอดถอน Milei โดยระบุว่า “ประธานาธิบดีต้องมาชี้แจงต่อรัฐสภา เขาไม่สามารถสอบสวนตัวเองได้”

หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ Milei พยายามตีตัวออกห่าง โดยอ้างว่าเขาไม่ได้รับผลประโยชน์จากมีมคอยน์นี้ พร้อมชี้แจงว่า “ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้านี้ ผมได้โพสต์บน X เช่นเดียวกับที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งเกี่ยวกับโครงการเอกชนที่ต้องการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ผมไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ กับบริษัทที่สร้างสกุลเงินดิจิทัลนี้ และไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ”

บัญชี X อย่างเป็นทางการของสำนักงานประธานาธิบดีอาร์เจนตินา ยังออกแถลงการณ์ว่า “จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ประธานาธิบดี Javier Milei ได้ตัดสินใจให้สำนักงานต่อต้านการทุจริต (OA) เข้ามาตรวจสอบว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลแห่งชาติรายใด รวมถึงตัวประธานาธิบดีเอง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือไม่”

ตลาดมีมคอยน์จะเป็นยังไงต่อ?

จากเหตุการณ์นี้ ส่งผลให้มีการยกประเด็นเรื่องมีมคอยน์ขึ้นมาพูด ซึ่งถูกมองว่าเหรียญอย่าง $Trump ที่ถูกสร้างขึ้นมาไม่นานก็มูลค่าร่วงลงถึง 2 ใน 3 ของราคาสูงสุด และยังมีประเด็นของประธานาธิบดีอาร์เจนตินาที่สนับสนุนคริปโตเคอร์เรนซี จนเกิดเหตุการณ์ $Libra

ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน ผู้ร่วมก่อตั้งและที่ปรึกษา FWX แพลตฟอร์ม DeFi และอาจารย์ภาควิชาคณิตศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ให้ความเห็นต่อตลาดมีมคอยน์กับ Thairath Money ว่า “ในปัจจุบันการที่ผู้นำประเทศหรือคนที่มีชื่อเสียงออกมาโปรโมทมีมคอยน์ ดูเหมือนจะเกิดขึ้นหลายที่ทั่วโลก ซึ่งรวมไปถึงการที่ทรัมป์โปรโมท $Trump”

อย่างไรก็ตาม ยุครุ่งเรืองของมีมคอยน์ได้ผ่านมาแล้ว กำลังเข้าสู่ช่วงปลาย ทั้งนี้มีผลมาจากการ Rug Pull ที่เกิดขึ้นบ่อย ๆ ตลอดจนเรื่องที่มีมคอยน์สร้างขึ้นมาได้อย่างง่ายดาย โดยเฉพาะบนเชน Solana ที่การจะ Mint มีมคอยน์ทำได้ง่าย ค่าธรรมเนียมถูก

บล็อกเชน Solana เป็นหนึ่งในระบบบล็อกเชนที่เร็วที่สุด สามารถประมวลผลธุรกรรมได้พร้อมกันถึง 65,000 รายการ ส่งผลให้การทำธุรกรรมของมีมคอยน์ดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ต่ำกว่า Solana จึงเป็นโซลูชันบล็อกเชนที่คุ้มค่ากว่าสำหรับนักพัฒนาและผู้ใช้เมื่อเทียบกับ Ethereum

Solana ยังมีระบบนิเวศที่กว้างขวางและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งประกอบด้วยกระดานแลกเปลี่ยนแบบกระจายศูนย์ (DEXs), ตลาดซื้อขาย NFT และแอปพลิเคชัน Web3 เพราะฉะนั้นการเปิดตัวมีมคอยน์บนแพลตฟอร์ม Solana จึงเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนจากนักพัฒนาและโครงสร้างพื้นฐานกระเป๋าเงินที่ขยายตัว

ผศ.ดร.อุดมศักดิ์ รักวงษ์วาน กล่าวว่า “ตลาดมีมคอยน์ตอนนี้ แทบจะไม่มีผู้เล่นแบบ High Level ลงไปเล่นแล้ว เนื่องจากเกิดการเทขายบ่อย เปรียบเสมือนภูเขาลูกเดียว ที่คนอยู่ตีนเขาถ้าชักช้าก็จะเสีย ส่วนคนที่ขึ้นไปยอดเขาเร็ว ทำกำไรแล้วออกเลยก็จะได้ประโยชน์ หรือเรียกได้ว่า ‘ลุกช้าจ่ายรอบวง’ บางเหรียญระยะเวลาในการถือยังไม่ถึงหลักชั่วโมงเสียด้วยซ้ำ”

ที่มา: Buenos Aires Herald, BI, Wired, FTBBC

ติดตามเพจ Facebook: Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ