เปิดศักราชใหม่ตลาดคริปโตฯ 2025 "ปีแห่งสถาบันฯ" จับตาเทรนด์นวัตกรรมการเงินมาแรง โอกาสใหม่โลกลงทุน

Tech & Innovation

Digital Assets

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เปิดศักราชใหม่ตลาดคริปโตฯ 2025 "ปีแห่งสถาบันฯ" จับตาเทรนด์นวัตกรรมการเงินมาแรง โอกาสใหม่โลกลงทุน

Date Time: 1 ม.ค. 2568 12:04 น.

Video

วิเคราะห์อนาคต Google เจ้าแห่งเสิร์ชเอนจิน จะอยู่ยังไง ถ้าไม่ได้ผูกขาด | Digital Frontiers

Summary

  • เปิดศักราชใหม่ตลาดคริปโตฯ 2025 "ปีแห่งสถาบันฯ" จับตาเทรนด์นวัตกรรมการเงินมาแรง โอกาสใหม่โลกลงทุน

Latest


ปี 2024 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของตลาดคริปโตเคอเรนซี โดยมีพัฒนาการสำคัญหลายประการ ทั้งการที่ Bitcoin ได้ทำลายสถิติสูงสุดใหม่โดยทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับที่เพิ่มขึ้นจากนักลงทุนสถาบันและความเชื่อมั่นในศักยภาพระยะยาวของสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการเปิดตัว Bitcoin ETF และ Ethereum ETF แบบ Spot ได้รับความสนใจอย่างล้นหลาม โดย Bitcoin ETF กลายเป็น ETF ที่ประสบความสำเร็จที่สุดในประวัติศาสตร์ มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหาร (AUM) สูงถึง 108 พันล้านดอลลาร์ในปีแรก  

ความสำเร็จดังกล่าวสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนสถาบันทั่วโลก ส่งผลให้เกิดการไหลเข้าของเม็ดเงินลงทุนอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การที่หลายประเทศเริ่มพิจารณาให้ Bitcoin เป็นส่วนหนึ่งของทุนสำรองระหว่างประเทศ ยิ่งตอกย้ำถึงการยอมรับ Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ทางเลือกที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาที่ต้องการลดการพึ่งพาดอลลาร์สหรัฐ

สำหรับแนวโน้มในปี 2025 ผู้เชี่ยวชาญในวงการคาดการณ์ว่าจะเป็นปีแห่งการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของระบบนิเวศคริปโต โดยเฉพาะในด้านนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ อาทิ การทำ Tokenization สินทรัพย์จริง (Real World Assets) การพัฒนาระบบ Re-staking เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการสร้างผลตอบแทน รวมถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในภาคการเงินแบบดั้งเดิมที่จะมีมากขึ้น

มุมมองของกูรูต่อตลาดคริปโตฯปี 2025

สัญชัย ปอปลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด เปิดเผยว่า แนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งผลให้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ

สัญชัย ปอปลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด
สัญชัย ปอปลี ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คริปโตมายด์ กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด

"สภาพคล่องในตลาดการเงินโลก (Global Liquidity) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังจากที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้ารับตำแหน่ง ซึ่งคาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบ" 

ด้านกฎระเบียบและนโยบายคริปโตในสหรัฐฯ มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะโอกาสของกลุ่มการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) ที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนและผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม DeFi ซึ่งตัวที่เด่นๆ จะมีแพลตฟอร์ม Aave มีความน่าสนใจไม่น้อย

นอกจากนี้สัญชัยแนะนำให้จับตาเหรียญ XRP เพราะตอนนี้มีกองทุนยื่นขออนุมัติ กองทุน XRP ETF และมีการใช้งานจริงกับพันธมิตรทางธุรกิจหลายราย แม้ว่าจะเคยมีคดีความกับ ก.ล.ต. สหรัฐฯ แต่สถานการณ์ได้คลี่คลายลงมาก

"ปี 2025 จะเป็นปีของ Altcoin Cycle อย่างเต็มตัว โดยเฉพาะ Ethereum ที่มีนักพัฒนาจำนวนมากเข้ามาพัฒนาโซลูชัน Layer 2 และแอปพลิเคชันกระจายศูนย์ (Dapp) หลังจากที่ปีที่ผ่านมาตลาดเป็น Cycle ของ Bitcoin, Meme coin และ Solana เป็นหลัก" สัญชัยกล่าว

ส่วนเทรนด์ใหม่ๆที่น่าติดตามในปี 2025 นอกจาก DeFi แล้ว จะมีเทรนด์ของสินทรัพย์จริง (Real World Assets - RWA) ที่เชื่อมโยงกับ Stablecoin รูปแบบใหม่ เช่น Ondo Finance ที่ให้บริการแพลตฟอร์มทางการเงินเชื่อมต่อนักลงทุนเข้าถึงตลาดพันธบัตรสหรัฐฯ แบบ On-chain ทำให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยน Stablecoin กับพันธบัตรได้สะดวกยิ่งขึ้น

นอกจากนี้อีกเทรนด์ที่น่าจับตาไม่น้อยเลย คือ การประยุกต์ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในตลาดคริปโต โดยเฉพาะ AI Agent ที่สามารถวิเคราะห์และซื้อขายเหรียญคริปโตได้โดยอัตโนมัติ รวมถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์และมูลค่าระหว่างกันผ่านระบบบล็อกเชน

"DeFi ในอนาคตจะแข่งขันกันที่รายได้จริง (Real Revenue) เป็นหลัก ขณะที่การผสานระหว่าง AI Infrastructure และ AI Agent กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าการลงทุนในคริปโตให้มีประสิทธิภาพและความอัจฉริยะมากยิ่งขึ้น" 

นเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย
นเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย

ด้านนเรศ เหล่าพรรณราย นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย เปิดเผยมุมมองต่อทิศทางตลาดคริปโตในปี 2025 ว่า ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อราคาสินทรัพย์ดิจิทัลคือการเปลี่ยนแปลงนโยบายด้านคริปโตของสหรัฐอเมริกา โดยจากการวิเคราะห์ปัจจัยทางเทคนิค มุมมองสถาบันการเงิน และข้อมูล on-chain คาดว่าราคา Bitcoin จะเคลื่อนไหวที่ระดับ 200,000 บาทโดยเฉลี่ย

"ในปี 2025 ราคา Bitcoin อาจพุ่งทะลุ 200,000 บาท หากมีบริษัทขนาดใหญ่เข้ามาถือเพิ่มเติม เพราะจะเกิดการลงทุนตามกันของบริษัทยักษ์ใหญ่ เช่นเดียวกับกรณีของ MicroStrategy ในอดีต อย่างไรก็ตาม นักลงทุนต้องติดตามนโยบายของ ก.ล.ต. สหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะประเด็นการอนุมัติให้รับผลตอบแทนจาก staking ซึ่งจะส่งผลบวกต่อตลาดโดยรวม" นเรศกล่าว

สำหรับกลยุทธ์การจัดพอร์ตลงทุน แนะนำให้แบ่งการลงทุนออกเป็น 3 ส่วน ส่วนแรกควรถือครอง Bitcoin ซึ่งควรมีเกิน 50% ของพอร์ต ต่อมาอีก 20-30% มองว่าควรมี Ethereum เนื่องจากมีแนวโน้มเติบโตจากการพัฒนา Real World Assets (RWA) บนเครือข่าย ส่วนที่ 3 สามารถกระจายลงทุนใน Altcoin ที่มีสถาบันให้ความสนใจและมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

"สำหรับนักลงทุนมือใหม่ ผมแนะนำให้เริ่มต้นด้วยการศึกษาตลาดและรอจังหวะที่เหมาะสม ไม่ต้องรีบร้อนไล่ราคา เพราะตลาดจะมีการปรับฐานให้เข้าลงทุนเป็นระยะ ควรทยอยสะสมในช่วงขาลงและแบ่งเงินลงทุนออกเป็นส่วนๆ เพื่อบริหารความเสี่ยง" นายนเรศกล่าว

อย่างไรก็ตาม แม้ปริมาณเงินลงทุนจากนักลงทุนรายย่อยในปัจจุบันจะยังไม่เท่าช่วงปี 2020-2021 แต่การเข้ามาของสถาบันการเงินและบริษัทขนาดใหญ่จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดมากขึ้น นักลงทุนควรโฟกัสที่เหรียญที่มีพื้นฐานแข็งแกร่งและได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบัน

"ตลาดคริปโตในปี 2025 จะมีความผันผวนน้อยลงกว่าในอดีต เนื่องจากมีการพัฒนาระบบนิเวศและการยอมรับจากสถาบันมากขึ้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังต้องระมัดระวังเรื่องการควบคุมอารมณ์ ไม่ลงทุนตามกระแส และต้องมีการวางแผนจุดเข้า-ออกที่ชัดเจน" นายกสมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยกล่าว

ธรรมลักษณ์ สิงหพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ ContributionDAO
ธรรมลักษณ์ สิงหพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ ContributionDAO

ด้านธรรมลักษณ์ สิงหพันธ์ ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอ ContributionDAO ให้มุมมองว่า  การยอมรับจากสถาบันการเงินและภาครัฐจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันตลาด โดยเฉพาะการที่ Bitcoin จะได้รับการยอมรับให้เป็นสินทรัพย์สำรอง (Reserve Asset) ของประเทศต่างๆ 

"Bitcoin เดินทางมาไกล คนในวงการตั้งความหวังให้ได้รับการยอมรับจากสถาบันการเงินและภาครัฐ จนวันนี้เราเห็นแล้วว่ามีการอนุมัติ ETF และสถาบันขนาดใหญ่เริ่มเข้ามาลงทุน นอกจากนี้มองว่า Bitcoin มีศักยภาพที่จะกลายเป็นทางออกสำหรับประเทศที่ประสบปัญหาค่าเงินอ่อนค่า โดยอาจถูกใช้เป็นสินทรัพย์สำรองควบคู่กับทองคำ ด้วยมูลค่าตลาดที่มีขนาดใหญ่และการยอมรับที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อว่า Bitcoin ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก" ธรรมลักษณ์กล่าว

สำหรับเทรนด์การลงทุนในปี 2025 ผู้บริหาร ContributionDAO ยังมีกลุ่มที่น่าจับตา คือ เทคโนโลยี Re-staking ที่ช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการถือครองคริปโต และ Meme Coin ที่ได้รับความนิยมจากแนวคิดความเท่าเทียมในการลงทุน

"Meme Coin มีจุดเด่นที่ความเท่าเทียม เพราะไม่มีเจ้าของหรือนักลงทุนสถาบันถือครองตั้งแต่ต้น ต่างจากเหรียญที่มี VC (Venture Capital) เข้าไปลงทุนตั้งแต่ราคาต่ำๆ ทำให้นักลงทุนรายย่อยต้องรอให้กลุ่มทุนทยอยขายออกมา นอกจากนี้ยังเป็นเหรียญที่นักลงทุนเห็นโอกาส ที่สามารถเป็นเครื่องมือ เปลี่ยนเงิน 10 ดอลลาร์เป็น 1,000 ดอลลาร์ได้ภายในวันเดียว แต่ก็มาพร้อมความเสี่ยงที่สูงมาก " ธรรมลักษณ์อธิบาย

นอกจากนี้เขายังเน้นย้ำว่าไม่ควรกู้ยืมเงินมาลงทุน เนื่องจากตลาดคริปโตมีความผันผวนสูง ราคาอาจลดลงได้ถึง 30% ภายในวันเดียว 

"นักลงทุนควรศึกษาและติดตามนวัตกรรมใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง จากเดิมที่เราทำได้แค่ซื้อและถือ Token ไว้ ปัจจุบันมีฟีเจอร์อย่าง Staking และ Re-staking ที่ช่วยสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติม สิ่งสำคัญคือการอยู่ในคอมมูนิตี้ที่ดี ที่เราสามารถเชื่อใจและแลกเปลี่ยนข้อมูลกันได้ และต้องเลือกใช้บริการแลกเปลี่ยนคริปโตที่ได้รับใบอนุญาตจาก ก.ล.ต. เท่านั้น" ธรรมลักษณ์กล่าว


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ