ฮ่องกงนำร่องโครงการใหม่ลุยใช้งาน “โทเคนดิจิทัล” หวังปฏิรูประบบการเงินแบบดั้งเดิม

Tech & Innovation

Digital Assets

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ฮ่องกงนำร่องโครงการใหม่ลุยใช้งาน “โทเคนดิจิทัล” หวังปฏิรูประบบการเงินแบบดั้งเดิม

Date Time: 15 ต.ค. 2567 18:22 น.

Video

สาเหตุที่ทำให้ Intel อดีตยักษ์ใหญ่ชิปโลก ล้าหลังยุค AI | Digital Frontiers

Summary

  • ธนาคารกลางฮ่องกง เปิดตัวโครงการใหม่ “Ensemble Sandbox” เดินหน้าโครงการเปลี่ยนผ่านระบบการเงินแบบดั้งเดิมสู่การใช้งาน “โทเคนดิจิทัล” โดยจะร่วมมือกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ในการทดลองใช้งานทำธุรกรรมผ่านสินทรัพย์ที่เป็นโทเคนดิจิทัล (Tokenized Assets) เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ตามเป้าของฮ่องกงที่จะขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลของโลก

Latest


ธนาคารกลางฮ่องกง (Hong Kong Monetary Authority หรือ HKMA) เปิดตัวโครงการใหม่ “Ensemble Sandbox” เดินหน้าโครงการเปลี่ยนผ่านระบบการเงินแบบดั้งเดิมสู่การใช้งาน “โทเคนดิจิทัล” เตรียมทดลองใช้งานโทเคนดิจิทัลในการทำธุรกรรมแทนรูปแบบดั้งเดิม

โดย HKMA จะร่วมมือกับสถาบันการเงินอื่น ๆ ในการทดลองใช้งานทำธุรกรรมผ่านสินทรัพย์ที่เป็นโทเคนดิจิทัล (Tokenized Assets) เพื่อทดสอบประสิทธิภาพของเทคโนโลยีนี้ ตามเป้าของฮ่องกงที่จะขึ้นเป็นศูนย์กลางการเงินดิจิทัลของโลก

Tokenized Assets หรือ สินทรัพย์โทเคน คือ การแปลงสินทรัพย์ที่จับต้องได้ อย่างเช่น อสังหาริมทรัพย์ ทองคำ เครื่องประดับ และที่จับต้องไม่ได้อย่างเช่น หุ้น ตราสารหนี้ กองทุน ทรัสต์ ให้อยู่ในรูปแบบของโทเคนดิจิทัล โดยจะผูกมูลค่าเข้ากับสินทรัพย์นั้น ๆ เพื่อใช้แทนความเป็นเจ้าของ

Eddie Yue ผู้บริหารระดับสูงของ HKMA กล่าวว่า โทเคนดิจิทัลมีศักยภาพที่จะทำให้การทำธุรกรรมทางการเงินมีประสิทธิภาพมากขึ้น โปร่งใสมากขึ้น และมีต้นทุนที่ต่ำลง ซึ่งการเปิดตัวโครงการนี้ จะเป็นการเน้นย้ำถึงแผนการที่จะสร้างอีโคซิสเต็มทางการเงินของฮ่องกงไปเป็นการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัล

ในช่วงเริ่มต้นจะมีการใช้งานในหลากหลายประเภทสินทรัพย์ ซึ่งรวมไปถึงพันธบัตร และกองทุน ที่โดยปกติแล้วการออกพันธบัตรและการโอนกองทุนแบบดั้งเดิมมักจะใช้เวลาประมาณ 2-5 วันทำการ แต่การดำเนินการผ่านโทเคนดิจิทัลจะสามารถทำได้ทันทีแม้ในวันหยุด

นำมาใช้ในการช่วยบริหารจัดการสภาพคล่อง (Liquidity Management) โดย HKMA ชี้ว่า การทำธุรกรรมซื้อคืน (Repurchase Agreement) และตราสารหนี้ (Bonds) จะถูกนำมาแปลงเป็นโทเคนและใช้เพื่อเพิ่มการหมุนเวียนของเงินทุน

ยังมีแผนที่จะดันให้โทเคนดิจิทัลช่วยยกระดับด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน โดยจะนำเอารายได้ของสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัล และเสนอขายต่อนักลงทุน จะเป็นการช่วยส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับ EV พร้อม ๆ กันนี้ จะมีการนำ Carbon Credits มาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัลเช่นกัน เพื่อช่วยแก้ปัญหาการนับ Carbon Credits ซ้ำ

นอกจากนี้ โครงการนี้จะนำมาใช้งานกับใบตราส่งอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic bills of lading) เอกสารการขนส่งในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ โดยจะนำมาแปลงเป็นโทเคนดิจิทัล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่ง และลดความเสี่ยงในการปลอมแปลงเอกสารและฉ้อโกง

ในโครงการนำร่องนี้ ได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินไม่ว่าจะเป็น Bank of China, HSBC และ Standard Chartered ซึ่งทั้ง 3 ธนาคารเป็นผู้ออกเงินดอลลาร์ฮ่องกง รวมไปถึงบริษัทเทคโนโลยี อย่าง Microsoft และ Ant Digital ของ Alibaba Group ในขณะที่ HashKey Group บริษัทจัดการสินทรัพย์ดิจิทัล จะเข้าร่วมในฐานะผู้ออกแบบโทเคนและจะเป็นแพลตฟอร์มที่ช่วยสนับสนุนสภาพคล่องของสินทรัพย์

และหากโครงการนี้ประสบความสำเร็จ HKMA ก็มีแผนเตรียมที่จะออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคาร (CBDC) แต่จะมุ่งเน้นไปที่การทำธุรกรรมแบบ Wholesale สำหรับกลุ่มธุรกิจทางการเงินหรือตลาดหลักทรัพย์

การที่ฮ่องกงเข้ามามีบทบาทในด้านโทเคนดิจิทัลครั้งนี้ สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของจีนที่จะลดการพึ่งพาเงิน “ดอลลาร์สหรัฐ” ที่ปัจจุบันมีอิทธิพลสูงมากในโลกการเงิน แม้ว่าก่อนหน้านี้ จีนจะมีการแบนการซื้อขายและขุดคริปโตเคอร์เรนซี แต่ภายในทราบกันดีว่า จีนเห็นด้วยกับการเปลี่ยนผ่านมาใช้งาน Blockchain ของฮ่องกง

ที่มา: Nikkei AsiaBluebik

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ