ริชาร์ด เทง (Richard Teng) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Binance ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนในงาน “กัลฟ์ ไบแนนซ์ ดิจิทัล แอสเซท ฟอรัม” (Gulf Binance Digital Asset Forum) ถึงมุมมองที่มีต่อพัฒนาการของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย
โดยเผยว่าไทยเป็นตลาดที่มีศักยภาพในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่ง Binance ในฐานะผู้นำด้าน Web3 และบล็อกเชนได้ร่วมกับ Gulf ที่เป็นผู้นำด้านโครงสร้างพื้นฐานและพลังงานใช้จุดแข็งของทั้งสองฝั่งสนับสนุนให้เกิดการใช้บล็อกเชนในไทยซึ่งเป็นประเทศที่มีอัตราการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลอยู่ในอันดับ 10 ของโลกตามดัชนีการใช้คริปโตฯ
ทั้งนี้ ริชาร์ดยังระบุด้วยว่า ไทยมีความแข็งแกร่งใน 3 เรื่องหลักๆ อันประกอบไปด้วย
ทั้งนี้ กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Gulf Binance) ได้ส่งเสริมการเติบโตของคอมมูนิตี้สินทรัพย์ดิจิทัลในไทยอย่างจริงจังผ่านการให้ข้อมูลและการเพิ่มทักษะการใช้งานคริปโตฯ เพื่อเตรียมสังคมให้พร้อมสำหรับนวัตกรรมเทคโนโลยีบล็อกเชนแห่งอนาคต
และทาง Binance เองที่เป็นผู้ถือหุ้นก็พร้อมที่จะให้การสนับสนุน Binance TH เพื่อให้เติบโต และประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจเชิงกลยุทธ์สู่การเป็นผู้นำตลาดในประเทศไทยและไม่จำกัดเพียงแค่การสนับสนุนด้านเงินทุนแต่ยังเป็นการสนับสนุนด้านความรู้ ความชำนาญ และ know-how ต่างๆ
พร้อมกันนี้ Binance ยังระบุถึงความเข้าใจในการดำเนินงานภายใต้สภาพแวดล้อมตลาดที่แตกต่างและซับซ้อนของ Binance TH และให้ทีมบริหารไทยมีอิสระในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ในตลาดประเทศไทยด้วยตัวเอง
โดย Binance เห็นว่าแนวทางการทำงานดังกล่าวจะช่วยให้เกิดความคล่องตัวในตลาดที่มีความเฉพาะตัวมากอย่างตลาดในประเทศไทย
“เรามองเห็นศักยภาพของทีมผู้บริหาร Binance TH และเชื่อมั่นว่าพวกเขาจะนำ Binance TH ไปสู่ความสำเร็จตามที่ได้ตั้งเป้าหมายไว้ ขณะเดียวกัน เราก็มีการทำ Knowledge Transfer การนำเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆ รวมถึงความชำนาญด้านตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่ Binance มีมาสู่ตลาดไทยด้วย”
พร้อมเสริมว่า “เป้าหมายของเราไม่ใช่แค่การแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดไทยเท่านั้น แต่เราต้องการเป็นหนึ่งในแรงขับเคลื่อนที่สำคัญให้กับตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย และสร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม”
ขณะที่ นิรันดร์ ฟูวัฒนานุกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Gulf Binance ได้กล่าวถึงประเด็นความท้าทายในการทำธุรกิจคริปโตฯ ในไทย โดยระบุว่าส่วนใหญ่ความท้าทายจะเป็นเรื่องของ ‘Regulation’ จากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทำให้ความน่าเชื่อถือของอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลไทยลดลง หน่วยงานกำกับดูแลจึงจำเป็นต้องเข้มงวดมากขึ้น ซึ่ง Gulf Binance เองก็ต้องไปสื่อสารพร้อมแบ่งปันข้อมูลเพื่อสร้างความเข้าใจร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแล
ขณะเดียวกัน นิรันดร์ ได้ชี้ให้เห็นถึงความเข้าใจผิดที่หลายคนอาจมองว่าสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นเพียงเครื่องมือทำกำไรหรือแม้แต่เป็นการพนัน รวมถึงการขาดความรู้ความเข้าใจถึงประโยชน์และศักยภาพของบล็อกเชน
และระบุถึงสิ่งที่ไทยยังขาดอยู่ คือ “ผู้นำ” ที่มีความน่าเชื่อถือ “ผู้นำ” ที่มีวิสัยทัศน์ในการผลักดันอุตสาหกรรมนี้ไปยังทิศทางที่ถูกต้องและสร้างสรรค์ “ผู้นำ” ที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดในโลก และมีเทคโนโลยีที่สามารถรองรับธุรกรรมมากที่สุดในโลก
“ผู้นำ” ที่มี Ecosystem ที่กว้างขวาง ครอบคลุมทุกภาคส่วนของ Web3 ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ หรือการพัฒนาความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ รวมไปถึง “ผู้นำ” ที่ให้ความสำคัญในการกำกับดูแลเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับอุตสาหกรรม
อย่างไรก็ตามบริษัท Gulf Binance มีเป้าหมายจะเป็นผู้นำตามที่กล่าวมาข้างต้น ด้วยภารกิจที่มุ่งทำให้สินทรัพย์ดิจิทัลมีการใช้งานอย่างแพร่หลายมากยิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งที่ต้องทำคือการสร้างแพลตฟอร์มที่แข็งแกร่ง น่าเชื่อถือ ใช้งานง่าย ด้วยเทคโนโลยีที่ดีและทันสมัย รวมถึงความปลอดภัยเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ - https://www.facebook.com/ThairathMoney