"ริชาร์ด เทง" CEO คนใหม่ของ Binance ที่ขึ้นแท่นคุมอาณาจักรคริปโตฯ แทนนายชางเพ็ง เจา (CZ) เป็นอีกหนึ่งผู้บริหารบริษัทระดับโลก ซึ่งเป็นเบอร์หนึ่งในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัล มาเยือนประเทศไทย ในเดือนมีนาคมนี้ โดยเข้าร่วมงาน Binance TH by Gulf Binance Super Meetup Event และ Gulf Binance Digital Asset Forum เพื่อพูดคุยถึงแผนการขับเคลื่อนการยอมรับการใช้งานสินทรัพย์ดิจิทัลและการสร้างเสริมคอมมูนิตี้ รวมถึงความสำคัญของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย
สำหรับ 'ริชาร์ด เทง' ได้เข้ามาปฏิงานในตำแหน่ง CEO ของ Binance โดยมีการประกาศแต่งตั้งอย่างเป็นทางการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566
Binance ภายใต้การนำของริชาร์ดได้ดำเนินงานโดยมีผู้ใช้เป็นศูนย์กลาง ควบคู่กับการสร้างความมั่นคงซึ่งเป็นแนวทางที่ Binance ยึดมั่น โดยปัจจุบัน แพลตฟอร์ม Binance มีการเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยจำนวนผู้ลงทะเบียนใช้บริการกว่า 178 ล้านราย โดยความไว้วางใจที่คอมมูนิตี้ทั่วโลกมีให้กับ Binance ถือเป็นแรงผลักดันสำคัญอันเป็นเบื้องหลังความสำเร็จ
ในช่วงเวลาที่เริ่มดำรงตำแหน่ง ริชาร์ดต้องเผชิญความท้าทายอย่างหนัก เนื่องจากเป็นช่วงเวลาหลังจากการลงมติของหน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ของประเทศสหรัฐอเมริกา แต่อย่างไรก็ดี จากการรายงานของ Bloomberg ซึ่งมีฐานข้อมูลจาก DefiLlama ริชาร์ดก็ฝ่าฝันความท้าทายและอุปสรรคต่างๆ จนทำให้ในช่วงเวลาระหว่างปลายเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้วจนถึงปลายเดือนกุมภาพันธ์ปีนี้มีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ Binance สุทธิมากกว่า 3 พันล้านดอลลาห์สหรัฐ ซึ่งความสำเร็จที่เหนือกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ ในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการฟื้นตัวและปรับตัวของ Binance ท่ามกลางภูมิทัศน์ของตลาดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วได้เป็นอย่างดี
สำหรับ Binance นวัตกรรมยังคงเป็นเรื่องที่ถูกให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดย Binance ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ล้ำสมัยมากมายสำหรับทั้งผู้ใช้งานรายย่อยและผู้ใช้งานสถาบัน ซึ่งนับเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นขององค์กรในการขยายขอบเขตการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลให้เป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น
ภายใต้การดูแลของริชาร์ดตลอดช่วงสามเดือนที่ผ่านมา Binance มุ่งมั่นที่จะปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี โดยบริษัทได้ให้ความสำคัญกับการเดินหน้าขอใบอนุญาตและการอนุมัติการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการหารือเจรจากับหน่วยงานการกำกับดูแลและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั่วโลก โดยหนึ่งในความสำเร็จที่โดดเด่นในปีนี้ คือการเปิดตัว ไบแนนซ์ ทีเอช บาย กัลฟ์ ไบแนนซ์ (Binance TH by Gulf Binance) ศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลและนายหน้าซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลในประเทศไทย ซึ่งเกิดจากการร่วมทุนระหว่าง ไบแนนซ์ แคปปิตอล แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทภายในเครือของไบแนนซ์ และ บริษัท กัลฟ์ อินโนวา จำกัด ภายใต้เครือของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ที่ได้ขยายการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัลไปยังผู้ใช้งานชาวไทยและผู้ที่มีความสนใจในด้านนี้อีกนับล้านคน ด้วยการมุ่งเน้นไปที่การคุ้มครองผู้ใช้เป็นสำคัญ
นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมา ตัวชี้วัดทางอาชญากรรมได้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยริชาร์ดเชื่อว่าแรงผลักดันสำคัญที่อยู่เบื้องหลัง คือผู้นำในอุตสาหกรรมอย่าง Binance ที่ทำงานอย่างหนักเพื่อป้องกันและต่อกรกับการหลอกลวง พร้อมไปกับการรักษามาตรการความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวด ควบคู่ไปกับการเพิ่มพูนความรู้ด้านภัยคุกคามแก่ผู้ใช้ ซึ่งเป็นบทบาทสำคัญที่จะพาเราจับมือร่วมกันต่อกรกับอาชญากรรมที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชน
อย่างไรก็ตาม ภายใต้การบริหารงาน 100 วันแรกของริชาร์ด การสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วโลกยังคงเป็นสิ่งที่ Binance ให้ความสำคัญมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น การฝึกอบรมร่วมกับเจ้าหน้าที่ INTERPOL และการสนับสนุนหลักสูตรขั้นสูงด้านอาชญากรรมโดยกองกำลังตำรวจฮ่องกง ซึ่งเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงความตั้งใจของ Binance ในการสนับสนุนความปลอดภัยในระบบนิเวศของคริปโตเคอร์เรนซี
ริชาร์ด เทง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Binance กล่าวว่า "หนึ่งสิ่งที่ผมได้ทำบ่อยขึ้นหลังจากดำรงตำแหน่ง CEO คือการพบปะ พูดคุยแบบตัวต่อตัวกับผู้คนในคอมมูนิตี้ Binance รวมถึงได้แบ่งปันประสบการณ์ตรงจากผู้คนที่แทบไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินได้มาก่อนในชีวิต แต่กลับได้มีโอกาสด้านอิสรภาพทางการเงินจาก Binance และทำให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตดีขึ้น ซึ่งนี่อาจนับเป็นหนึ่งในรางวัลอันน่าภาคภูมิใจสำหรับการเข้ารับตำแหน่งในครั้งนี้ โดยเรื่องราวต่างๆ จากคอมมูนิตี้ ที่มาพร้อมกับการสนับสนุนที่หลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งที่ทำให้ผมรู้สึกอบอุ่นหัวใจและช่วยสร้างแรงบันดาลใจอย่างยิ่งในการทำงาน"
ในอนาคต ริชาร์ดจะยังคงเดินหน้าส่งเสริมการเติบโตขององค์กรท่ามกลางตลาดที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว พร้อมไปกับการยึดมั่นต่อค่านิยมขององค์กรที่มีผู้ใช้เป็นหัวใจสำคัญ ตลอดจนขับเคลื่อนนวัตกรรมอุตสาหกรรมไปทั่วโลกอย่างมั่นคงและยั่งยืน