บริษัทญี่ปุ่นเตรียมเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลปี 2567 ประเดิมเคสแรกใช้ซื้อขายใบรับรองพลังงานทดแทน
Date Time: 12 ต.ค. 2566 17:46 น.
“Summary“
- GMO Aozora Net Bank ธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งจากญี่ปุ่นมีแผนเปิดตัวเงินดิจิทัล “DCJPY” ตรึงมูลค่าด้วยเงินฝาก ภายในเดือนกรกฎาคมปีหน้า ใช้ชำระหนี้ตลอดจนซื้อขายใบรับรองพลังงานทดแทน
GMO Aozora Net Bank ธุรกิจอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งจากญี่ปุ่นซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง GMO Internet Group ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต และ Aozora Bank Group สถาบันการเงินของญี่ปุ่น มีแผนเปิดตัวเงินดิจิทัลบนบล็อกเชนภายในเดือนกรกฎาคมปีหน้า นับเป็นโปรเจกต์แรกของกลุ่มบริษัทญี่ปุ่นที่มีสมาชิกมากกว่าร้อยราย
โดยสกุลเงินดิจิทัลของญี่ปุ่นจะถูกเรียกว่า “DCJPY” ซึ่งค้ำประกันมูลค่าด้วยเงินฝาก และสามารถโอนหรือชำระหนี้ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งการโอนเงินโดยไม่ผ่านระบบข้อมูลของธนาคารจะช่วยลดต้นทุนจากการทำธุรกรรมซึ่งจะเป็นประโยชน์กับการชำระเงินระหว่างบริษัท
สำหรับผู้ที่จะใช้สกุลเงิน DCJPY เป็นรายแรกนั้น ได้แก่ Internet Initiative Japan (IIJ) ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตและโซลูชันแบบครบวงจรของญี่ปุ่น โดย IIJ มีแผนที่จะแปลงใบรับรองการใช้พลังงานหมุนเวียนและหลีกเลี่ยงเชื้อเพลิงฟอสซิลของ Data Center ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล ซึ่งสกุลเงินดิจิทัล DCJPY ก็จะถูกนำมาใช้สำหรับการซื้อขายใบรับรองตัวนี้
ซึ่งลูกค้าที่ใช้ Data Center ของ IIJ บางรายก็จะสามารถชดเชยการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากโรงไฟฟ้าถ่านหินได้ด้วยการซื้อ Non-Fossil Certificates ที่ส่วนมากจะมาในรูปแบบกระดาษและชำระเงินผ่านธนาคาร ซึ่งบริษัท DeCurret DCP จะเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายสกุลเงินใหม่นี้ ขณะที่ IIJ จะจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับ DeCurret DCP และ GMO Aozora ซึ่งกำลังพยายามให้ธนาคารรายใหญ่ยอมรับใช้สกุลเงินนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ IIJ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความพยายามขององค์กรของญี่ปุ่นในการใช้สกุลเงินดิจิทัลโดยเปิดตัวกลุ่มความร่วมมือเมื่อปี 2020 ซึ่งได้เติบโตจนมีสมาชิกธุรกิจและองค์กรรวมมากกว่า 100 ราย ซึ่งรวมถึงธนาคารยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นอย่าง MUFG, SMBC และ Mizuho Financial Group รวมไปถึงธุรกิจจากกลุ่มโทรคมนาคมอย่าง NTT และบริษัทรถไฟ East Japan Railway
นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานภาครัฐร่วมด้วย ตั้งแต่ Financial Services Agency (FSA) ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินและการลงทุนของญี่ปุ่น กระทรวงการคลัง และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เป็นผู้สังเกตการณ์ โดยมี DeCurret DCP ทำหน้าที่เป็นหน่วยบริหาร
ขณะเดียวกันธนาคารรายใหญ่ในญี่ปุ่นต่างมีแนวโน้มจะหันมาออก Stablecoin ที่ตรึงไว้กับเงินเยนและรองรับความผันผวนของมูลค่า ซึ่ง Mitsubishi UFJ Trust and Banking ก็ได้ Spin Off ธุรกิจใหม่เกี่ยวกับ Stablecoin รวมถึงเปิดแพลตฟอร์มออกโทเคน “Progmat” ซึ่งมี NTT Data และสถาบันการเงินหลายแห่งเป็นผู้ลงทุน
อ้างอิง
Author
