ก.ล.ต. กล่าวโทษ 1000X Limited (1000X) และนายวรวัฒน์ นาคแนวดี ต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.)
ในความผิดกรณีร่วมกันกระทำการเข้าข่ายการประกอบธุรกิจผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 26 ซึ่งต้องระวางโทษตามมาตรา 66
แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแจ้งเบาะแสและตรวจสอบพบว่า ตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2565 1000X เป็นผู้ให้บริการเว็บไซต์ https://www.1000x.live
(เว็บไซต์ 1000x.live) ได้ให้บริการหรือแสดงต่อบุคคลทั่วไปว่า พร้อมจะให้บริการแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในนามของตนเองเป็นทางค้าปกติ โดยกระทำนอกศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล
และมีการชักชวนและประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กเพจชื่อ 1000X Thailand เป็นภาษาไทย
รวมทั้งนายวรวัฒน์ซึ่งเป็นเจ้าของและผู้ดูแลการดำเนินการของ ACTPAY รับทำหน้าที่ให้บริการระบบแจ้งเตือนเมื่อมีธุรกรรมการฝากถอนเกิดขึ้นกับ 5,000 wallet address บนเว็บไซต์ 1000x.live
อันทำให้เว็บไซต์ดังกล่าว มีระบบที่ครบถ้วนสมบูรณ์ต่อการดำเนินธุรกิจ การกระทำของ 1000X และนายวรวัฒน์เข้าข่ายร่วมกันประกอบธุรกิจผู้ค้าสินทรัพย์ดิจิทัลตามมาตรา 3 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ซึ่ง 1000X และนายวรวัฒน์ดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงเป็นการปฏิบัติฝ่าฝืนมาตรา 26 อันมีความผิดและระวางโทษตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ ประกอบมาตรา 83 แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ทั้งนี้ 1000X ยังคงดำเนินการในลักษณะดังกล่าวอยู่ และนายวรวัฒน์มีการดำเนินการในช่วงตั้งแต่วันที่ 12 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2565
ก.ล.ต. จึงกล่าวโทษ 1000X และนายวรวัฒน์ ต่อ บก.ปอศ. เพื่อพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
อนึ่ง การกล่าวโทษของ ก.ล.ต. เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของกระบวนการบังคับใช้กฎหมายทางอาญาเท่านั้น ภายใต้กระบวนการนี้ การพิจารณาวินิจฉัยว่าบุคคลใดเป็นผู้กระทำผิดกฎหมายเป็นขั้นตอนในอำนาจการสอบสวนของพนักงานสอบสวน การสั่งฟ้องคดีของพนักงานอัยการ ตลอดจนดุลพินิจของศาลยุติธรรม ตามลำดับ