UOB ปล่อยสินเชื่อ ESG ให้มิตรผล 1,500 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสู่ความยั่งยืน

Sustainability

Green Finance

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

UOB ปล่อยสินเชื่อ ESG ให้มิตรผล 1,500 ล้านบาท ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสู่ความยั่งยืน

Date Time: 18 พ.ย. 2567 17:05 น.

Video

โมเดลธุรกิจ Onlyfans ทำไมถึงมีแต่ได้กับได้ ? บริษัทมั่งคั่ง คนทำก็รวย | Digital Frontiers

Summary

  • ยูโอบี-มิตรผล จับมือพร้อมสร้างความยั่งยืน ผ่านสินเชื่อ Sustainability-Linked Loan 1,500 ล้านบาท

Latest


ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย อนุมัติสินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืน (Sustainability-Linked Loan: SLL) วงเงิน 1,500 ล้านบาท ให้แก่บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก โดยสินเชื่อดังกล่าวจะใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินธุรกิจของบริษัท

นางสาวพนิตศนี ตั๊นสวัสดิ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บรรษัทธนกิจ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า

“ธนาคารยูโอบีมุ่งมั่นสนับสนุนภาคธุรกิจในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ครอบคลุมการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม สิ่งแวดล้อม และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน การให้ Sustainability-Linked Loan ในครั้งนี้นับเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ช่วยให้ธุรกิจดำเนินงานได้อย่างมีความรับผิดชอบ และยังสอดคล้องกับแนวทางการเติบโตอย่างยั่งยืนของธนาคาร”

ทั้งนี้ธนาคารยูโอบีจะพิจารณาให้สินเชื่อที่เชื่อมโยงกับการดำเนินงานด้านความยั่งยืนแก่องค์กรทางธุรกิจที่ได้มีการตกลงเกี่ยวกับเป้าหมายการปฏิบัติงาน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล)

สำหรับสินเชื่อดังกล่าวนี้ มิตรผลจะต้องได้รับคะแนน S&P Global ESG Scores ในระดับสูง ซึ่งวัดผลการดำเนินงานของบริษัทและการบริหารความเสี่ยงด้าน ESG โอกาสทางธุรกิจ และผลกระทบเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งในอุตสาหกรรมเดียวกัน โดยปัจจุบัน มิตรผลเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร จากผลการประเมินด้านความยั่งยืนขององค์กร หรือ S&P Global Corporate Sustainability Assessment (CSA) ด้วยคะแนน ESG 85 คะแนนในปี 2566 โดยผลการประเมินในแต่ละหัวข้อ มิตรผลได้รับคะแนนด้านสิ่งแวดล้อม 88 คะแนน ซึ่งเป็นผลคะแนนอันดับสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมฯ ที่มีค่าเฉลี่ยประมาณ 28 คะแนน เช่นเดียวกับด้านการพัฒนาสังคม ได้รับคะแนน 87 คะแนน ซึ่งเป็นผลคะแนนอันดับสูงสุดในกลุ่มอุตสาหกรรมฯ ที่มีค่าเฉลี่ยประมาณ 30 คะแนน และในด้านธรรมาภิบาล มีผลคะแนน 80 คะแนน ในขณะที่มีค่าเฉลี่ยของกลุ่มประมาณ 28 คะแนน

นายวีระเจตน์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจน้ำตาลประเทศไทย พลังงาน และธุรกิจใหม่ กลุ่มมิตรผล กล่าวว่า

“เรามีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน เพื่อสร้างการพัฒนาด้านธรรมาภิบาลและเศรษฐกิจควบคู่ไปกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีแผนการดำเนินงานที่ชัดเจนในการก้าวสู่องค์กรที่มีความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2573 และการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2593 และได้มีการยื่นการดำเนินงานอย่างเป็นทางการกับ Science Based Target Initiative (SBTi)”

ปัจจุบันกลุ่มน้ำตาลมิตรผลเป็นผู้ผลิตน้ำตาลรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก โดยมีกำลังการผลิตรวมกว่า 4 ล้านตันต่อปี นอกจากธุรกิจน้ำตาลแล้ว กลุ่มมิตรผลยังขยายการดำเนินงานสู่ธุรกิจพลังงานทดแทน ธุรกิจวัสดุทดแทนไม้ ธุรกิจปุ๋ย ธุรกิจไบโอเบส และธุรกิจโลจิสติกส์ กลุ่มมิตรผลได้รับการคงอันดับเครดิตองค์กร (ทริสเรทติ้ง) ที่ระดับ “A” ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ในเดือนพฤษภาคม 2567

ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่ 
https://www.thairath.co.th/money/economics/thailand_econ

ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้  https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ