หลัง ครม. มีมติอนุมัติหลักการมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของประเทศไทย เกิดการจัดตั้งกองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน หรือกองทุน Thai ESG ขึ้น และจะเป็นสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพิ่มเติม จากกลุ่มกองทุนเพื่อการเกษียณทั้งหมด
ซึ่งรูปแบบกองทุน Thai ESG เน้นลงทุนในหุ้นไทยและตราสารหนี้ไทย ที่ดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม บรรษัทภิบาล ตามหลักเกณฑ์ที่สำนักงาน ก.ล.ต. กำหนด เพื่อช่วยพยุงตลาด รวมทั้งสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ โดยที่ไม่กำหนด จำนวนเงินซื้อขั้นต่ำ หรือไม่จำเป็นต้องซื้อทุกปี แต่จะต้องลงทุนระยะยาว
ล่าสุด “ชวินดา หาญรัตนกูล” กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บลจ.กรุงไทย เดินหน้าจัดตั้งกองทุนรวมเพื่อความยั่งยืน หรือ Thailand ESG Fund (Thai ESG) ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ผ่านมา
มองกองทุนจะช่วยสนับสนุนให้คนไทยมีทางเลือกและการลงทุนในระยะยาวเพิ่มขึ้น และยังเป็นการเพิ่มการลงทุนระยะยาวในตลาดทุนไทย อันจะทำให้เสถียรภาพของตลาดทุนไทยในกิจการที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลเพิ่มขึ้น อันจะมีส่วนช่วยให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยคาดว่าจะเสนอขายได้ในช่วงต้นเดือนธันวาคมนี้
“KTAM ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการลงทุนอย่างยั่งยืน เพื่อโอกาสสร้างผลตอบแทนที่สอดคล้องกับจุดมุ่งหมาย ผ่านการลงทุนที่มีส่วนช่วยสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและสังคม โดยกองทุน Thai ESG นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของ ESG (ESG: Environmental, Social and Governance) เป็นหลัก
ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีบริษัทจดทะเบียนกว่า 800 บริษัท แต่มีบริษัทที่ยื่นเอกสารหรือกรอกข้อมูล ESG มีเพียง 210 แห่งเท่านั้น ดังนั้น กองทุนนี้จะช่วยผลักดันบริษัทในประเทศไปสู่สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมภิบาลมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้กับนักลงทุนอีกด้วย”