ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อ 26 มี.ค.67 กองทุนประกันวินาศภัยได้เผยแพร่คำชี้แจงเรื่องการปรับเปลี่ยนรอบการขออนุมัติการจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย กรณีที่บริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย โดยระบุว่า ปัจจุบันกองทุนได้ชำระหนี้แทนบริษัทประกันภัยที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ทำให้กองทุนมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว 60,000 ล้านบาท และมีเจ้าหนี้ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัยมากกว่า 600,000 ราย แม้กองทุนพยายามเพิ่มช่องทางหาแหล่งเงินทุน เพื่อรองรับสถานะการเงินของกองทุน และให้ได้เงินมาชำระหนี้โดยเร็วที่สุด แต่ยังมีข้อจำกัด ดังนั้น ตั้งแต่ มี.ค.67 เป็นต้นไป กองทุนจำเป็นต้องปรับรอบการขออนุมัติจ่ายเงินให้เจ้าหนี้ ให้มีความสัมพันธ์กับรายได้ และรอบการนำส่งเงินเข้ากองทุนของบริษัทประกันภัยตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งระหว่างรอการอนุมัติจ่ายเงิน จะเร่งพิจารณารับรองมูลหนี้ให้เจ้าหนี้อย่างต่อเนื่อง และหากได้เงินจากช่องทางอื่น เช่น การกู้ยืมเงินหรือออกตราสารการเงิน หรือเงินสนับสนุนจากรัฐบาล จะเร่งชำระหนี้โดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ กองทุนประกันวินาศภัยตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.ประกันวินาศภัยปี 35 เพื่อคุ้มครองเจ้าหนี้ ซึ่งมีสิทธิได้รับชำระหนี้ที่เกิดจากการเอาประกันภัย กรณีที่บริษัทถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ และเพื่อพัฒนาธุรกิจประกันวินาศภัยให้มีความมั่นคงและเสถียรภาพ นับตั้งแต่ตั้งกองทุนมีบริษัทประกันภัยถูกถอนใบอนุญาตฯ 14 บริษัท โดยเฉพาะช่วงโควิดปี 62-65 ทำให้กองทุนต้องชำระหนี้แทนและทำให้กองทุนมีภาระหนี้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุด กองทุนมีเงินเหลือเพียง 3-4 ล้านบาท จึงต้องปรับแผนชะลอการจ่ายหนี้ โดยรอเงินสมทบจากบริษัทประกันที่จะเข้ามาช่วงเดือน ก.ค.67.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่