นายสาระ ล่ำซำ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ MTL เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินงานของเมืองไทยประกันชีวิต ปี 2566 มีเบี้ยรับรวมอยู่ที่ประมาณ 70,000 ล้านบาท เติบโต 2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการเติบโตที่ล้อไปกับค่าเฉลี่ยการเติบโตของอุตสาหกรรมประกัน
โดยมีการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับใหม่ในกลุ่มสินค้าหลัก อาทิ เบี้ยประกันภัยโรคร้ายแรงเติบโต 70% และเบี้ยประกันภัยบำนาญเติบโต 13% ขณะที่ด้านธุรกิจในภูมิภาค CLMV ยังมีผลการดำเนินงานที่โดดเด่นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุน ณ สิ้นปี 2566 สูงกว่า 300% ซึ่งสูงกว่าระดับเงินกองทุนที่ต้องดำรงตามเกณฑ์ที่หน่วยงานกำกับดูแลกำหนดที่ 140%
สำหรับปี 2567 ตั้งเป้ารายรับเบี้ยใหม่โต 20% จากการเติบโตของเบี้ยประกันภัยโรคร้ายแรงเติบโตเบี้ยประกันภัยบำนาญเติบโต และเบี้ยประกันชีวิต สานต่อการเป็นคู่คิดด้านการวางแผนชีวิต และสุขภาพที่คุณวางใจ (No. 1 Most Trusted Partner in Life & Health Planning) จะดำเนินงานผ่าน 2 แนวคิดหลัก
“นอกจากจะเป็น health provider ด้วยการตอบโจทย์ประกันสุขภาพร้ายแรงแล้ว เมืองไทยประกันจะพัฒนาผลิตภัณฑ์ life legacy protection ภายใต้แนวคิด shield life”
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมประกันในปีนี้ MTL มองว่าเนื่องจากเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างแบบไม่ทั่วถึงและเท่าเทียม คาดว่าบริษัทประกันจะได้อานิสงส์จากกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อ ยกระดับการซื้อประกัน และลูกค้าที่มีกำลังจ่ายน้อยจะมีความต้องการประกันมากขึ้น
โดยในช่วง 10 ปี ที่ผ่านมา บริษัทประกันเน้นขายประกันสะสมทรัพย์เป็นหลัก แต่โครงสร้างรูปแบบประกันที่เปลี่ยนไป เนื่องจากผู้บริโภคมีความต้องการประกันสุขภาพเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้ในปี 2566 เป็นปีแรกที่อุตสาหกรรมประกันตีกลับมาเป็นขาขึ้น.
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้