หากพูดถึงปัจจัยสี่ที่มีความจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตแล้ว “ยารักษาโรค และการได้รับการรักษาพยาบาลที่ดี” ยามตัวเรา หรือคนที่เรารักเจ็บป่วย ถือเป็นปัจจัยที่สำคัญต่อชีวิต ไม่แพ้ที่อยู่อาศัย อาหาร และเครื่องนุ่งห่ม
แต่จะทำอย่างไรดี เมื่อวันนี้ “ค่ารักษาพยาบาล” ในบ้านเราแพงมาก และยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นเรื่อยๆ หากเราไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อม เกิดเจ็บป่วยไม่สบายถึงขั้นต้องพักรักษาตัวจะทำให้หลายคนเสียโอกาสในการทำมาหากิน หรืออาจต้องกู้หนี้ยืมสินมาเพื่อเป็นค่ารักษา ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของครอบครัวของเราให้ยากลำบากมากขึ้น
และที่สำคัญกว่านั้น “เพราะชีวิตเป็นสิ่งที่เปราะบาง” และมีความไม่แน่นอนสูง เราไม่รู้ว่าวันนี้หรือพรุ่งนี้จะเกิดอะไรกับเราบ้าง ทั้งอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝัน โรคระบาด ปัญหาเศรษฐกิจ โอกาสที่จะตกงานแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว หรือสถานการณ์ทางการเมืองที่กระทบต่อการดำรงชีพ เราจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือกับทุกความไม่แน่นอน เพื่อทั้งตัวคุณเอง ครอบครัว และคนที่คุณรัก
“การทำประกัน” จึงเปรียบเหมือนการมีร่มพกติดตัวไว้ วันไหนฝนไม่ตก ร่มอาจจะไม่สำคัญ แต่เมื่อถึงวันที่เจอกับมรสุม พายุโหมกระหน่ำ การมีร่มจะช่วยดูแลแบ่งเบาไม่ให้คุณเปียกจนหนาวสั่น และลดโอกาสและความเสี่ยงของการเป็นหวัด หรือโอกาสที่อาจเป็นสาเหตุที่จะนำมาสู่โรคร้ายแรงอื่นๆ
การเลือกซื้อประกันที่เหมาะสมกับตัวเอง จึงเป็นสิ่งที่คนไทยจำนวนมากให้ความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งการทำประกันเดี่ยวๆ สำหรับคนที่ประกอบอาชีพอิสระ เป็นนายของตัวเอง หรือซื้อประกันเสริมเพิ่มความคุ้มครองที่ดีขึ้น จากประกันกลุ่มที่เรามีอยู่จากที่ทำงาน หรือสิทธิประโยชน์จากประกันสังคม เนื่องจากเห็นประโยชน์ที่ช่วยลดความเสี่ยงในค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพ และการคุ้มครองชีวิต
ขณะเดียวกัน จำนวนเงินที่คุณจ่ายเบี้ยประกันทุกครั้งยังจะกลายเป็นความคุ้มครองให้ใช้เมื่อยามจำเป็น อย่างเช่น การทำประกันชีวิตพ่วงกับสุขภาพ ซึ่งให้ความคุ้มครองเพิ่มเติม ทั้งการสร้างความมั่นคงทางการเงินให้กับชีวิต สามารถส่งต่อผลตอบแทนเป็นมรดกให้กับคนข้างหลัง การคุ้มครองกรณีคุณต้องเข้ารับการรักษาตัวจากโรคร้ายต่างๆ และยังสามารถลดหย่อนภาษี รวมทั้งยังได้รับผลตอบแทนในระยะยาว
เพราะประโยชน์จากการทำประกันชีวิต คือ เราจะได้รับความคุ้มครอง กรณีที่ผู้เอาประกันภัยถึงแก่กรรม ผู้รับประกันภัยจะจ่ายเงินชดเชยให้ตามจำนวนเงินที่ระบุไว้ในสัญญาให้แก่ทายาทหรือผู้รับประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย เพื่อให้ครอบครัวของผู้เอาประกันมีเงินเลี้ยงชีพต่อไป
ช่วยให้ผู้ทำประกันมั่นใจได้ว่าแม้เราไม่อยู่ ครอบครัว คนอยู่ข้างหลังของเราจะไม่ลำบาก หรือเดือดร้อนแล้ว นอกจากนั้น ประกันชีวิตยังช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในยามเจ็บป่วยหรือทุพพลภาพอีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น การทำประกันยังถือเป็นการสร้างการออม และความมั่นคงทางการเงินให้กับชีวิตของเราได้อีกทางหนึ่ง สามารถใช้เป็นเครื่องมือออมเงินเพื่อไว้ใช้ยามชรา มีเงินใช้ในยามเกษียณ เป็นค่าใช้จ่ายในช่วงสุดท้ายของชีวิต หรือออมไว้เพื่อเก็บเป็นทุนการศึกษาของบุตรหลาน เพราะจะรับผลประโยชน์เป็นเงินก้อนเมื่อกรมธรรม์ครบสัญญา
นอกจากนั้น หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า การทำประกันชีวิตยังเปรียบเสมือนการเตรียมเงินไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เพราะเมื่อกรมธรรม์ครบกำหนดระยะเวลาหนึ่งก็จะมีมูลค่าเงินสด หากผู้เอาประกันภัยมีความจำเป็นทางการเงินก็สามารถขอคืนเงินจำนวนหนึ่งตามหลักเกณฑ์ที่บริษัทกำหนดนำไปใช้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำได้ และผู้ที่ทำประกันชีวิตก็สามารถนำเบี้ยประกันมาใช้ในการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ตามเงื่อนไขของกรมสรรพากรได้อีกด้วย
ขณะที่ข้อดีของการมีประกันสุขภาพ จะช่วยทำให้เราหมดกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เพราะบริษัทประกันจะเป็นผู้รับผิดชอบ ทำให้ไม่กระทบหรือกระทบเงินเก็บของเราน้อยที่สุด แต่ได้รับการรักษาอย่างสบายใจ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะไปโรงพยาบาลไหนดี และยังจะช่วยให้เราได้รับการรักษาอย่างเหมาะสม หรือดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากเกิดโรคร้ายแรงที่เสี่ยงต่อชีวิต รวมทั้งยังสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้ภายใต้เงื่อนไขเป็นไปตามที่สรรพากรกำหนดอีกเช่นกันด้วย
นอกจากนั้น ยังมีประกันสุขภาพเหมาจ่าย หรือประกันสุขภาพที่กำหนดวงเงินรักษาแบบเหมาทุกอย่างรวมต่อปี เช่น คุ้มครองค่ารักษาผู้ป่วยในเหมาจ่าย 5 ล้านบาท วงเงินค่ารักษาจะคิดแบบเหมารวม ไม่แยกเป็นรายการ เช่น ค่าผ่าตัด ค่าแพทย์ตรวจรักษา ได้รับตามเงื่อนไขที่กำหนด คล้ายการจ่ายเงินรับประทานบุฟเฟต์ที่นิยมกันในขณะนี้
ประโยชน์ของการซื้อประกัน จึงช่วยให้เรามี “หลักประกัน” ความมั่นคงในการใช้ชีวิตเพื่อตัวคุณเอง และคนที่คุณรักและครอบครัว ดังนั้นยังไม่สายหากเราจะเลือกทำประกันชีวิตที่เหมาะสมกับเราตั้งแต่วันนี้
หากสนใจศึกษาหาความรู้เรื่องประกันเพิ่ม หรือสนใจเลือกซื้อแบบประกันที่เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์เพื่อสร้างความสบายใจในการใช้ชีวิต “ไทยรัฐ” ของเราได้เตรียมข้อมูลดีๆ ที่น่าสนใจจากบริษัทประกันชั้นนำของประเทศไทย “เมืองไทยประกันชีวิต เอไอเอ ประเทศไทย โตเกียวมารีนประกันชีวิต ประเทศไทย และอลิอันซ์ อยุธยาประกันชีวิต” ที่นำสุดยอดแพ็กเกจประกันชีวิต ประกันภัย และประกันสุขภาพ มาให้ประกอบการตัดสินใจในหน้า 2, 15 และ 16 ในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม 2566