สภาพคล่องขาด รถยนต์โดนไฟแนนซ์ยึดพุ่ง 20% ชี้ NPL เพิ่มหลังหมดการช่วยเหลือ

Personal Finance

Insurance

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

สภาพคล่องขาด รถยนต์โดนไฟแนนซ์ยึดพุ่ง 20% ชี้ NPL เพิ่มหลังหมดการช่วยเหลือ

Date Time: 28 มิ.ย. 2566 19:33 น.

Video

บิทคอยน์ VS เงินในกระเป๋าเกี่ยวกันยังไง ? | Digital Frontiers

Summary

  • บมจ.สหการประมูล (AUCT) เผยตลาดรถยนต์มือสองโตต่อเนื่อง จากอัตราการเติบโตของ NPL คาดรถยึดจากไฟแนนซ์จะทยอยเข้าสู่ตลาดเพิ่มขึ้น 20% ราว 2 แสนคัน จึงเดินหน้าเพิ่มพื้นที่จอดรถทั่วประเทศอีก 10 แห่ง รองรับความต้องการตลาด พร้อมจับมือสมาคมอู่กลางการประกันภัยปั้นโครงการ “อู่เพื่อนประมูล” ยกระดับบริการหลังการขายแบบครบวงจร

Latest


สภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันอาจทำให้ใครหลายๆ คนต้องแบกรับภาระทางการเงินที่หนักจนเกินตัว ‘รถ’ ที่เคยผ่อนได้สบายกลับกลายมาเป็นภาระหนักเกินจะผ่อนไหว จึงสะท้อนให้เห็นทิศทางตลาดประมูลขายทอดตลาดรถยนต์มือสองที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากอัตราการเติบโตของ NPL และปริมาณของสินเชื่อในกลุ่มที่มีความเสี่ยง หรือลูกหนี้ที่ผิดชำระหนี้เกิน 30 วัน รวมถึงอัตราการขยายตัวของสินเชื่อรถยนต์ใหม่ตามข้อมูลของธนาคารแห่งประเทศไทย

คาดมีรถโดนยึดประมาณ 200,000 คันต่อปี

นายวรัญญู ศิลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ (AUCT) เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีข้อมูลของบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (เครดิตบูโร) ระบุว่า ภายใน 4 เดือนนี้คาดว่าจะมีหนี้เสียจากสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้นจำนวน 1,000,000 คันนั้น จากประสบการณ์ดำเนินธุรกิจที่ผ่านมา สินเชื่อรถยนต์มือสองมีแนวโน้มเติบโตมาโดยตลอด และคาดว่าน่าจะมีปริมาณรถยึดประมาณ 200,000 คันต่อปี ส่วนตัวเลข 1,000,000 คันนั้นจะมาจากตัวเลขสินเชื่อในกลุ่มที่มีความเสี่ยงผิดชำระหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างเป็นนัยสำคัญ

แต่ไม่ได้หมายความว่ารถจะถูกยึดถึงจำนวนดังกล่าวเนื่องจากผู้เช่าซื้อส่วนหนึ่งยังอยู่ในแผนปรับปรุงโครงสร้างหนี้จากมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ หรืออยู่ในขั้นตอนของการไกล่เกลี่ยและไถ่ถอนคืน ดังนั้น ปริมาณรถยึดจึงไม่น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เพราะจะส่งผลกระทบเชิงลบต่ออุตสาหกรรมรถยนต์โดยรวมทำให้ราคารถถูกลง รวมถึงกระทบต่อไฟแนนซ์ ผู้ประกอบการรถยนต์มือสอง และผู้เช่าซื้อเดิม ซึ่งจะส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง

และหลังจากสิ้นสุดมาตรการพักชำระหนี้ของสถาบันการเงิน อุตสาหกรรมรถยนต์มือสองเริ่มกลับมาเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 3/2565 สำหรับในปีนี้แม้ว่าตลาดจะมีแนวโน้มที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมั่นใจว่าสถาบันการเงินจะมีวิธีบริหารจัดการกระบวนการยึดรถ โดยไม่ยึดรถยนต์เข้ามาจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้น แต่จะมีลักษณะเป็นการทยอยยึดเข้ามา ซึ่งคาดว่าจะมีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมาประมาณ 20% คือ 1-2 แสนคัน

เทรนด์ตลาดการประมูลรถมือสองเพิ่มขึ้น 10-20%

ทั้งนี้สถานการณ์การยึดรถครึ่งปีหลังมองว่า ในภาพการยึดรถตั้งแต่ไตรมาส 3-4 ในปีที่ผ่านมามีการเติบโตจึงสะท้อนมาในไตรมาส 1 ปีนี้ ซึ่ง NPL ถูกแช่แข็งมาเนื่องจากสถานการณ์พักชำระหนี้ และปรับโครงสร้างหนี้ 1.4-1.6% ตั้งแต่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว แต่ปัจจุบันเมื่อไตรมาส 3-4 ของปีที่ผ่านมา เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.8% ฉะนั้นแนวโน้มยังคงเป็นลักษณะนี้ต่อไป แต่ในภาพของที่เครดิตบูโรระบุไว้ว่า 1 ล้านคันนั้น เนื่องจากมีการพักชำระหนี้อยู่เยอะจึงน่าจะไหลเข้ามาในตลาดเยอะเช่นกัน แต่จะเป็นในลักษณะทยอยๆ เข้ามา

ทั้งนี้ในครึ่งปีหลังจากอัตราดอกเบี้ยที่เริ่มเข้ามากระทบค่างวดของบ้านต่างๆ มองว่าทางไฟแนนซ์จะต้องมีการค่อยๆ ประนีประนอมมากขึ้น เนื่องจากว่าหากยึดมาแน่นอนว่าจะกระทบต่อหลายภาคส่วน ขณะที่ประเภทของรถที่ถูกยึด ภาพรวมตัวเลขคือเป็นรถยนต์ 50% และรถจักรยานยนต์ 50% ซึ่งสะท้อนภาพของการขอสินเชื่อ ส่วนทางด้านราคาตลาดรถมือสองดรอปลงหรือไม่นั้น เขามองว่าจากในปีที่ผ่านมาราคารถมือสองเพิ่มขึ้น ทำให้ในปีนี้เริ่มทยอยลง โดยเป็นไปตามกลไกของตลาด

ขณะที่ทางฝั่งของรถอีวีก็เริ่มมีการทยอยหลั่งไหลเข้ามา แต่จะน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน หรือไฮบริด ด้วยความที่รถอีวีมีการปล่อยน้อยก็จะยึดมาน้อย จึงอยู่ที่ประมาณ 10% บวกลบ แต่ก็ได้มีการเตรียมตัวเพื่อรองรับตรงจุดนี้ทั้งด้านทีมงาน และสถานีชาร์จ 

ทางฝั่งของเทรนด์ตลาดการประมูลรถมือสองเพิ่มขึ้นมากน้อยแค่ไหน เขามองว่าเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมา ซึ่งในไตรมาส 1-2 เทรนด์ยังเป็นประมาณ 10-20% 

ทั้งนี้รถที่เข้ามาหลากหลายมากทั้งรถไม่กี่เดือนจนถึง 10-20 ปี ซึ่งไม่ได้มีเฉพาะรถที่ยึดมาจากรถมือหนึ่งเท่านั้น แต่มาจากการปล่อยสินเชื่อรถมือสองด้วย และหากถามถึงตลาดรถ JDM ที่ปัจจุบันเริ่มเห็นขับกันบนท้องถนนเยอะขึ้น ด้วยความที่รถญี่ปุ่นมือสองจะต้องมีการนำเข้ามาซึ่งจะต้องเสียภาษีในอัตราที่สูง ดังนั้นจึงไม่ค่อยเห็นมากนัก นอกจากว่าเป็นรถที่ที่มีลักษณะพิเศษจริงๆ ส่วนภาพรวมระยะยาวมองว่ารถยนต์ราคาลดลงอยู่แล้ว ฉะนั้นนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมลูกค้าอยากจะขายให้เร็วที่สุด 

และเพื่อเป็นการรองรับการขยายตัวของตลาดที่คาดว่าจะมีการแข่งขันสูง สหการประมูลจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาบริการด้านต่างๆ ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่ม เนื่องจาก AUCT เป็นบริษัทประมูลรถยนต์มือสองที่ครองส่วนแบ่งทางการตลาดสูงสุด ด้วยความเชี่ยวชาญและบริการต่างๆ ที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า รวมทั้งมีพื้นที่จอดรถเพียงพอต่อการเพิ่มขึ้นของปริมาณสินค้า

ชู “อู่เพื่อนประมูล” ยกระดับบริการหลังการขายแบบครบวงจร ก่อนส่งถึงมือลูกค้า

โดยในปีนี้ตั้งเป้าว่าจะเปิดพื้นที่สต็อกหรือจุดบริการรับรถเพิ่มอีก 10 แห่งทั่วประเทศ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ทีมยึดรถของสถาบันการเงินในการส่งรถได้ง่ายขึ้น ในระยะทางที่ใกล้ขึ้น โดยมีการคุยกับฐานลูกค้าว่ามีจุดไหนที่มีความต้องการเป็นพิเศษเพื่อให้ลูกค้าสะดวก รวมทั้งมีโอกาสที่เราจะได้รับสินค้ามากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้ร่วมมือกับสมาคมอู่กลางการประกันภัย จัดทำโครงการ “อู่เพื่อนประมูล” ที่จะยกระดับบริการหลังการขายแบบครบวงจรเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทั้งผู้ซื้อรายย่อยและผู้ประกอบการเต็นท์รถยนต์มือสองที่ต้องการปรับปรุงรถยนต์ให้มีสภาพพร้อมขายและพร้อมใช้งาน โดยมีจุดบริการที่มีคุณภาพและได้มาตรฐานครอบคลุมทั่วประเทศ ที่เป็นสมาชิกของสมาคมอู่กลางการประกันภัย.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ