Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

เปิด 4 ธนาคาร เอื้อคู่รัก “กู้ร่วม” ไม่จำกัดเพศ LGBTQIAN+ ก็กู้ได้ สานฝันคนอยากมีบ้าน

Date Time: 4 มิ.ย. 2568 13:51 น.

Summary

การร่วมกู้คืออีกหนึ่งโอกาสที่สามารถสานฝันให้การมีบ้านง่ายมากขึ้น แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าการกู้ร่วมไม่ได้มีแค่คู่รักชาย-หญิงเท่านั้นที่สามารถทำได้ เพราะคู่รัก LGBTQIAN+ ก็สามารถจับมือร่วมกู้ได้เช่นกัน โดยมี 4 ธนาคารที่รองรับการกู้ร่วมคู่รักทุกเพศ

“บ้าน” ไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือจุดศูนย์รวมความรักของครอบครัว และคู่ชีวิตที่คิดจะลงหลักปักฐานสร้างความมั่นคงร่วมกัน แน่นอนว่าการมีบ้านสักหลังคือความฝันของใครหลาย ๆ คน แต่การที่จะมีบ้านได้นั้นก็เป็นเรื่องที่ยากเช่นกันโดยเฉพาะเมื่อต้องทำเรื่องกู้บ้าน เพราะบางคนอาจมีวงเงินและคุณสมบัติไม่เพียงพอ แต่จะดีกว่าไหมถ้าเรามี “ผู้กู้ร่วม” เข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระหนี้สินและแชร์ความฝันในการมีบ้านไปด้วยกัน

กู้ร่วม คือการนำสถานะทางการเงินของ 2 คน ที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดมารวมกันเพื่อทำสัญญายื่นกู้สินเชื่อก้อนเดียวกัน และเพิ่มความมั่นใจให้ธนาคารว่าจะผู้กู้จะสามารถผ่อนชำระหนี้ตามกำหนดได้เพราะไม่ต้องแบกคนเดียว

ครอบครัว - คู่รักทุกเพศ สามารถกู้ร่วมได้

การกู้ร่วมสามารถทำได้ทั้งในสินเชื่อธุรกิจ และสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ โดยประโยชน์ของการกู้ร่วมซื้อบ้านนั้นคือ มีโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อง่ายขึ้น ได้วงเงินกู้เพิ่มมากขึ้น รวมถึงการจายความเสี่ยงและเพิ่มความน่าเชื่อถือของผู้ยื่นกู้

โดยปกติแล้ว สินเชื่อบ้านจะมีผู้กู้ และผู้กู้ร่วมได้ไม่เกิน 3 คนเท่านั้น (ผู้กู้หลัก 1 คน และ กู้ร่วมสูงสุด 2 คน) ซึ่งการกู้ร่วมซื้อบ้านจะต้องมีคุณสมบัติ ดังนี้

  1. คนที่มีนามสกุลเดียวกัน เช่น พี่, น้อง, พ่อ, แม่ และ ลูก
  2. พี่ - น้องท้องเดียวกัน แม้ว่าจะคนละนามสกุลก็สามารถกู้ร่วมได้โดยต้องแสดงทะเบียนบ้านหรือสูติบัตรระบุว่ามีพ่อแม่คนเดียวกัน
  3. สามี - ภรรยา บางคู่อาจไม่ได้จดทะเบียนสมรส แต่สามารถแสดงหลักฐานเช่น ภาพถ่าย, การ์ดแต่งงาน หรือหนังสือรับรองบุตร

รวมถึงคู่รัก LGBTQIAN+ ก็สามารถกู้ร่วมได้เช่นกัน เนื่องจากประเทศไทยมี “กฎหมายสมรสเท่าเทียม” ที่คู่รักทุกคู่จะได้รับสิทธิทางกฎหมายอย่างเสมอภาค โดยจะต้องแสดงหลักฐานยืนยันการเป็นคู่รักกันจริง เช่น ทะเบียนบ้านที่มีชื่อทั้งสองคน หรือเอกสารที่กู้ซื้อร่วมกัน เช่น รถยนต์ รวมถึงเอกสารการทำธุรกิจร่วมกัน เพื่อให้ธนาคารพิจารณาวงเงินและคุณสมบัติต่อไป

ปัจจุบัน มี 4 ธนาคารเอื้อคู่รัก LGBTQIAN+ สามารถกู้ร่วมได้ โดยมี

  1. ธนาคารกรุงศรีอยุธยา
  2. ธนาคารกสิกรไทย
  3. ธนาคารยูโอบี
  4. ธนาคารอาคารสงเคราะห์

ทั้งนี้ วงเงินกู้สูงสุดขึ้นอยู่กับคุณสมบัติของผู้กู้ร่วม และความมั่นคงทางอาชีพหรือการเงินของผู้กู้เป็นหลัก

อีกทั้งการเตรียมเอกสารให้พร้อมก็เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน ซึ่งการกู้ซื้อบ้านร่วมกันของคู่รัก LGBTQIAN+ นั้นต้องมี

  1. เอกสารประจำตัวผู้ขอสินเชื่อ (รวมถึงผู้กู้ร่วม) ทั้งฉบับจริงและสำเนา เช่น บัตรประจำตัวประชาชน, ทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรส เป็นต้น
  2. เอกสารแสดงความสามารถทางการเงิน เช่น หนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือน, สมุดบัญชีแสดงรายการเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน เป็นต้น
  3. เอกสารที่แสดงรายละเอียดหลักทรัพย์

ข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจกู้ร่วม

  1. การกู้ร่วมไม่ได้แปลว่าต้องหารหนี้เท่า ๆ กัน แต่ทุกคนต้องรับผิดชอบหนี้สินก้อนนี้ร่วมกัน เพราะหากผิดชำระหนี้หรือถูกยึดทรัพย์ขายทอดตลาด ธนาคารมีสิทธิ์จะเรียกชำระหนี้จากใครก็ได้ที่เป็นผู้กู้ร่วม
  2. การใส่ชื่อเจ้าของกรรมสิทธิ์ในการกู้ร่วม จะมีอยู่ 2 แบบคือ “ใส่ชื่อคนเดียวเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์” แบบนี้ง่ายและสะดวก แต่ผู้กู้ร่วมจะไม่มีกรรมสิทธิ์ใด ๆ ในอสังหาฯ นั้น กับอีกแบบคือ “ใส่ชื่อผู้กู้ร่วมทุกคนเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์” แบบนี้ทุกคนจะมีสิทธิ์เท่าๆ กัน แต่หากต้องการขายอสังหาฯ นั้น จะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ถือกรรมสิทธิ์ทุกคน
  3. สิทธิ์ลดหย่อนภาษี จะหารเฉลี่ยตามจำนวนผู้กู้ จะแบ่งกันเองไม่ได้ แต่จะลดหย่อนรวมได้สูงสุดเพียง 100,000 บาท (ถ้ากู้ร่วม 2 คน แปลว่าลดหย่อนได้สูงสุดคนละ 50,000 บาท)
  4. กรณีผู้กู้ร่วมเสียชีวิต จะต้องแจ้งธนาคาร มิเช่นนั้นสัญญาจะไม่เปลี่ยนแปลง จากนั้นทายาทหรือผู้จัดการมรดกของผู้เสียชีวิต (ที่ธนาคารประเมินแล้วว่าสามารถจ่ายหนี้ได้) จะเข้ามารับช่วงต่อการผ่อนชำระ
  5. ลงชื่อกู้ร่วมซื้อบ้านแล้วยกเลิกได้ไหม? เมื่อผู้กู้ร่วมเปลี่ยนใจสามารถเลือกจะถอนชื่อกู้ร่วมซื้อบ้านหรือคอนโดได้ก็ต่อเมื่อธนาคารพิจารณาแล้วว่าผู้กู้ร่วมที่เหลืออยู่สามารถผ่อนชำระไหว หรือใกล้หมดสัญญาแล้ว แต่ถ้าธนาคารเห็นว่าคนที่เหลืออยู่ผ่อนไม่ไหวต้องหาคนอื่นมากู้ร่วมซื้อบ้านแทน

อย่างไรก็ตาม “การกู้” หมายถึงการสร้างหนี้สินเพิ่มขึ้นให้กับตัวเอง ดังนั้นการวางแผนการเงินจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ต้องกู้เท่าที่ตัวเราจำเป็นและคิดว่าจะชำระคืนไหว ไม่สร้างหนี้มากเกินไปจนเกินตัว เพราะหากมีหนี้เกินจะรับไว้ ไม่ว่าจะมีผู้กู้ร่วมมากเท่าไหร่ก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าจะสามารถแบกหนี้ที่หนักอึ้งไปได้ตลอด


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)