การเริ่มต้นลงทุนตั้งแต่วัยเริ่มต้นทำงานเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างความมั่งคั่งระยะยาว ด้วยเวลาที่มากและความสามารถในการรับความเสี่ยงสูง หากเลือกลงทุนอย่างมีแผนและวินัย ย่อมเพิ่มโอกาสให้พอร์ตการลงทุนเติบโตได้อย่างมั่นคง Thairath Money พาไปรู้จัก 4 เทคนิคลงทุนในตลาดหุ้นสำหรับวัยเริ่มต้นทำงาน มีดังนี้
1. เลือกหุ้นที่เติบโตดี (Growth Stock)
จุดเด่นของวัยเริ่มต้นทำงานคือการมีเวลาลงทุนที่ยาวนาน และสามารถรับความเสี่ยงได้สูง การเลือกหุ้นที่เน้นการเติบโต (Growth Stock) จะช่วยสร้างความได้เปรียบให้พอร์ตการลงทุน โดยควรมุ่งเน้นไปที่หุ้นในอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูงประมาณ 10-20% ต่อปี แม้ว่าหุ้นกลุ่มนี้อาจมีอัตราการปันผลไม่สูงนัก แต่มีจุดเด่นในด้านราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นได้มาก หากบริษัทมีพื้นฐานแข็งแกร่ง แม้ราคาจะผันผวนบ้างระหว่างทาง แต่ในที่สุดก็มีโอกาสฟื้นตัวและเติบโตในระยะยาว
2. เน้นลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
แม้วัยเริ่มต้นทำงานจะมีข้อได้เปรียบเรื่องเวลา แต่รายได้ที่ยังไม่สูงนักถือเป็นจุดอ่อน ดังนั้นการลงทุนอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นกุญแจสำคัญ การใช้กลยุทธ์การเพิ่มน้ำหนักการลงทุนอย่างต่อเนื่องจะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่ดี อย่างการลงทุนแบบ DCA (Dollar-Cost Averaging) คือ การลงทุนในหุ้นตัวเดิมอย่างสม่ำเสมอทุกเดือน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด และสร้างความได้เปรียบในด้านต้นทุนของราคาหุ้น หากใครมองว่าการลงทุนแบบ DCA นั้นน่าเบื่อ อาจใช้วิธีการเติมเงินสดในพอร์ตอย่างสม่ำเสมอแทน
3. กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
การกระจายความเสี่ยงเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ นักลงทุนรุ่นใหม่หลายคนมักคิดว่า “All in” คือหนทางสู่ความรวยทางลัด แต่ในความเป็นจริง ตลาดหุ้นมีความผันผวนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ดังนั้นการลงทุนในหุ้นตัวเดียวหรืออุตสาหกรรมเดียวอาจเพิ่มความเสี่ยงเกินไป ควรกระจายพอร์ตด้วยการถือหุ้นหลายตัว (เช่น 4-8 ตัว) และกระจายในหลากหลายอุตสาหกรรม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสในการเติบโตของพอร์ต
4. เช็กพอร์ตและจดบันทึกการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ
การเช็กพอร์ตเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้นักลงทุนสามารถปรับแผนการลงทุนให้สอดคล้องกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้ การจดบันทึกข้อมูลการลงทุนจะช่วยให้คุณเห็นภาพรวมของพอร์ต รวมถึงประเมินว่าหุ้นตัวใดควรถือครองต่อ หรือควรปรับเปลี่ยนเพื่อลดความเสี่ยง
สำหรับวัยเริ่มต้นทำงาน การลงทุนในหุ้นเติบโต การลงทุนสม่ำเสมอ การกระจายความเสี่ยง และการติดตามพอร์ตอย่างใกล้ชิด เป็นเทคนิคสำคัญที่ช่วยให้การลงทุนมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาว
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล