ตลาดหุ้นไทยปรับฐานรุนแรง ดัชนีลงมาอยู่ที่ระดับ 1,230 จุด ซึ่งต่ำที่สุดในรอบหลายปี ไม่แปลกใจที่ใครหลายคนจะมองว่าเป็นวิกฤติ แต่ในอีกด้านหนึ่งนี่คือโอกาสในการลงทุน โดยเฉพาะการสะสมซื้อหุ้นแบบ DCA
แต่เราจะเลือกหุ้น DCA อย่างไร วันนี้ "Thairath Money" ได้รวบรวมวิธีการเลือกหุ้นสำหรับการลงทุนระยะยาวมาให้ลองศึกษาเพิ่มเติม
DCA คืออะไร
ก่อนที่จะลงลึกถึงการเลือกหุ้น เราต้องมาทบทวนแนวคิดของ DCA กันก่อน โดยกลยุทธ์ DCA (Dollar-Cost Averaging) คือ การลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน โดยลงทุนจำนวนเงินเท่ากันอย่างสม่ำเสมอในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น รายเดือนหรือรายไตรมาส ไม่ว่าสภาวะตลาดจะเป็นอย่างไร วิธีนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคา และช่วยให้นักลงทุนไม่ต้องกังวลเรื่องจังหวะเข้าซื้อที่ดีที่สุด เหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว โดยจะเน้นหุ้นที่มีการเติบโตสม่ำเสมอ
ลงทุนในหุ้น Super Stock
การลงทุนในหุ้นแบบ DCA คือการลงทุนระยะยาว ดังนั้นหนึ่งในวิธีการเลือกหุ้นที่สำคัญ คือ การลงทุนในหุ้น Super Stock หรือหุ้นที่ครองตลาดและสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง หุ้นลักษณะนี้มักมีข้อได้เปรียบด้านการแข่งขันสูง ทำให้ยากที่คู่แข่งรายใหม่จะเข้ามาแทนที่ ส่งผลให้กำไรของธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคง
กำไรเติบโต ปันผลสม่ำเสมอ
แม้จะเลือกลงทุนในหุ้นที่เป็นผู้นำตลาด แต่ในตลาดหุ้นไทยมีหลายบริษัทที่แม้จะมีส่วนแบ่งตลาดสูง แต่กลับมีผลการดำเนินงานขาดทุน หรือไม่มีการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจส่งผลให้ความแข็งแกร่งทางการเงินลดลง ดังนั้นการเลือกหุ้นที่มีกำไรเติบโตสม่ำเสมอ และจ่ายปันผลอย่างต่อเนื่อง จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การลงทุนมีความมั่นคง
ทบทวนการลงทุนอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่บ่อยเกินไป
การลงทุนที่ดีไม่ใช่แค่การทำการบ้านก่อนลงทุน แต่ต้องมีการตรวจสอบหรือทบทวนแผนการลงทุนอย่างเหมาะสม นักลงทุนควรพิจารณาว่าหุ้นที่ลงทุนแบบ DCA ยังคงมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ไม่ควรทบทวนบ่อยเกินไป เช่น ทุกวันหรือทุกสัปดาห์ เพราะอาจทำให้เกิดความกังวลจากความผันผวนระยะสั้นที่ไม่ได้กระทบกับปัจจัยพื้นฐานของบริษัท การทบทวนเดือนละครั้ง หรือไตรมาสละครั้งอาจเป็นแนวทางที่เหมาะสม เว้นแต่ว่ามีปัจจัยสำคัญที่อาจเปลี่ยนแปลงพื้นฐานของบริษัท
กระจายความเสี่ยงอย่างเหมาะสม
บางคนอาจคิดว่าเลือกหุ้นตัวเดียวและทุ่มเงินทั้งหมดไปกับมันจะให้ผลตอบแทนสูงสุดหากหุ้นเติบโตแรง แต่ในโลกแห่งความเป็นจริง มีความเสี่ยงเสมอหากเลือกหุ้นผิด ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงเป็นสิ่งจำเป็น ควรเลือกหุ้น DCA ในจำนวนที่เหมาะสม เช่น 4 หุ้น หากมีเงินลงทุนไม่มาก หรืออาจเพิ่มเป็น 6 หุ้น หากต้องการกระจายความเสี่ยงมากขึ้น การกระจายพอร์ตอย่างเหมาะสมจะช่วยให้พอร์ตมีเสถียรภาพ แม้หุ้นบางตัวจะปรับตัวลงแรง ก็ยังมีหุ้นตัวอื่นที่ช่วยพยุงการลงทุนโดยรวม
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้