ออกมาตรการแก้หนี้นอนแบงก์ รัฐชี้ช่วยลูกหนี้ 1.7 ล้านบัญชี-ต่อเวลา “คุณสู้-เราช่วย”

ครม.เคาะมาตรการช่วยลูกหนี้รายย่อยนอนแบงก์ 2 มาตรการในโครงการคุณสู้-เราช่วย “ลดต้น ลดดอก-จ่าย ปิด จบ” “เมืองไทย แคปปิตอล-อิออน” นำร่องร่วมโครงการ แลกออมสินหนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ คาดลูกหนี้เข้าข่าย 1.7 ล้านบัญชี ยอดคงค้าง 50,000 ล้านบาท ด้าน ธปท.ขยายเวลามาตรการไปสิ้นสุด 30 เม.ย. ล่าสุด ลูกหนี้เข้าโครงการคุณสู้-เราช่วย แล้วกว่า 7.46 แสนบัญชี

นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 11 ก.พ.68 ได้เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยของผู้ประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่ออื่นๆ ที่ไม่ได้เป็นธนาคารพาณิชย์ หรือนอนแบงก์ ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” เพื่อแบ่งเบาภาระหนี้สินของประชาชน ตามนโยบายแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างเป็นรูปธรรมของรัฐบาล โดยการช่วยลูกหนี้รายย่อยกลุ่มนอนแบงก์นี้ เนื่องจากเป็นกลุ่มที่ไม่เข้าข่ายที่ได้รับการช่วยเหลือจากธนาคารพาณิชย์ และสถาบันการเงินของรัฐ ที่รัฐบาลได้อนุมัติความช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้

ส่วนกรณีธุรกิจลีสซิ่งที่ให้บริการเช่าซื้อรถยนต์ไม่ยอมปล่อยสินเชื่อ ซึ่งส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์นั้น กระทรวงการคลังไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้พยายามหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ลีสซิ่งปล่อยสินเชื่อรถกระบะ “ยอมรับว่าไม่ใช่เรื่องง่าย แต่จะพยายามหาทางช่วยให้เต็มที่ จะหารือทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางออกร่วมกัน ลดความเสี่ยงของลีสซิ่ง เพื่อให้ประชาชนได้ซื้อรถกระบะไปต่อยอดสร้างงาน สร้างรายได้”

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวเพิ่มเติมว่า นอนแบงก์ที่เข้าร่วมโครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ในครั้งนี้ ได้แก่ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท อิออน ธนสินทรัพย์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โดยทั้งสองรายจะได้รับการสนับสนุนสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยผ่อนปรน (Soft loan) จากธนาคารออมสิน เพื่อลดต้นทุนการส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังลูกหนี้ เป็นเวลา 3 ปี วงเงินสินเชื่อต่อรายสูงสุดไม่เกิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งแต่ละรายจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับการเข้าไปช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อย โดยรัฐบาลจะชดเชยต้นทุนเงินให้กับธนาคารออมสินในอัตรา 2.00% ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี รวมทั้งสิ้นไม่เกิน 3,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะมีลูกหนี้นอนแบงก์เข้าข่ายได้รับความช่วยเหลือ 1.7 ล้านบัญชี ยอดคงค้าง 50,000 ล้านบาท

วันเดียวกันธนาคารแห่งประเทศไทยได้ออกประกาศการขยายเวลาการสมัครเข้าร่วมโครงการคุณสู้ เราช่วย และเพิ่มความช่วยเหลือลูกหนี้นอนแบงก์ 2 มาตรการ ประกอบด้วย มาตรการที่ 1 คือ มาตรการ “ลดผ่อน ลดดอก” ช่วยเหลือลูกหนี้รายย่อยด้วยการลดภาระค่างวดและภาระดอกเบี้ย 3 ปี สำหรับ 1.ลูกหนี้สินเชื่อรถยนต์ไม่เกิน 800,000 บาท สินเชื่อรถจักรยานยนต์ไม่เกิน 50,000 บาท สินเชื่อส่วนบุคคลไม่เกิน 200,000 บาท สินเชื่อส่วนบุคคลดิจิทัลไม่เกิน 20,000 บาท สินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ไม่เกิน 50,000 บาท โดยให้ชำระค่างวดขั้นต่ำที่ 70% ของค่างวดเดิม

2.สินเชื่อวงเงินหมุนเวียน (revolving credit) ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคล ประเภทบัตรกดเงินสด โดยให้แปลงเป็นสินเชื่อแบบผ่อนชำระรายเดือน ชำระค่างวดไม่ต่ำกว่า 2% ของยอดคงค้างสินเชื่อก่อนปรับโครงสร้างหนี้ โดยลูกหนี้จะได้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 10% จากสัญญาเดิม แค่ต้องเป็นลูกหนี้สินเชื่อก่อนวันที่ 1 ม.ค.2567 ขณะที่มาตรการที่ 2 “จ่าย ปิด จบ” เป็นการช่วยลดภาระหนี้ให้แก่ลูกหนี้รายย่อยที่เป็นหนี้เสีย (NPL) และมียอดคงค้างหนี้ไม่เกิน 5,000 บาท ผ่านการปรับโครงสร้างหนี้แบบผ่อนปรน โดยลูกหนี้จะชำระหนี้บางส่วนเพื่อให้สามารถปิดจบหนี้ได้เร็วขึ้น

ขณะเดียวกันยังได้ขยายเวลาการสมัครเข้าร่วมโครงการคุณสู้ เราช่วยออกไปถึงวันที่ 30 เม.ย.2568 จากเดิมที่สิ้นสุดวันที่ 28 ก.พ.2568 เนื่องจากพบว่า ล่าสุด ณ วันที่ 10 ก.พ. 2568 มีผู้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 746,912 บัญชี จากลูกหนี้ 642,030 ราย และยังพบว่า มีลูกหนี้ทยอยสมัครเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง ธปท.จึงขยายระยะเวลาการสมัครเข้าโครงการเพื่อเพิ่มโอกาสที่ลูกหนี้จะได้รับความช่วยเหลือและสามารถกลับมาชำระหนี้ได้ตามปกติในระยะข้างหน้าเมื่อรายได้ฟื้นตัวลูกหนี้ของนอนแบงก์ทั้ง 2 รายข้างต้น ที่สนใจเข้าร่วมมาตรการภายใต้โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” สมัครได้ที่ https:// www.bot.or.th/khunsoo ตั้งแต่วันที่ 13 ก.พ.-30 เม.ย.2568 หรือสมัครโดยตรงที่นอนแบงก์ที่เข้าร่วมโครงการ.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่