บัตรเคทีซี เผยมาตรการ easy e–receipt ช่วยให้คนไทยรูดปรื๊ดผ่านบัตรเครดิต ใช้จ่ายคล่องมากขึ้น เมื่อรวมตรุษจีนยิ่งช่วยเพิ่มกำลังซื้อ ตั้งเป้าปีนี้ยอดเปิดบัตรเครดิตใหม่เพิ่ม 250,000 ใบ ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 10% หรือ 30,000 ล้านบาท ยอมรับสินเชื่อบุคคล–สินเชื่อรถแลกเงิน ปีนี้ท้าทายสูง รุกพัฒนาไอที ช่วยเพิ่มความปลอดภัยทางไซเบอร์เข้มข้น ทั้งบัตรและแอป
นางพิทยา วรปัญญาสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือเคทีซี กล่าวถึงยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตของเคทีซี ในเดือน ม.ค. ว่ายังคงขยายตัวดี โดยเฉพาะตั้งแต่กลางเดือน ม.ค.หลังจากในช่วงต้นเดือน การใช้จ่ายผ่านบัตรชะลอลงเล็กน้อย เพราะคนรอมาตรการ easy e-receipt ของรัฐบาล แต่เมื่อมาตรการออกมา ทำให้การใช้จ่ายเร่งตัวขึ้น เพราะคนเห็นว่า หากมีเป้าหมายอยู่แล้ว ว่าจะซื้อสินค้าที่มีราคาหรือสินค้าชิ้นใหญ่ เครื่องใช้ไฟฟ้า การซื้อในช่วงนี้จะได้รับสิ่งตอบแทน เป็นการคืนภาษี และการที่ช่วงสิ้นเดือน ม.ค.เป็นช่วงเทศกาลตรุษจีน และการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุ ช่วยส่งผลดีต่อการใช้จ่ายมากขึ้น
“หากเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ของเคทีซี ทั้ง 3 ผลิตภัณฑ์ของเราในปีนี้คาดว่า บัตรเครดิตจะขยายตัวได้ดีที่สุด ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลและพี่เบิ้ม สินเชื่อรถแลกเงิน อาจมีความท้าทายในการปล่อยสินเชื่อ จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังขยายตัวไม่ดีมาก และความเสี่ยงของลูกหนี้ที่อาจจะสูงขึ้น”
ทั้งนี้ คาดว่าไตรมาส 1 ปีนี้ ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเคทีซี จะเพิ่มขึ้น 9-10% ส่วนไตรมาสที่ 2 เป็นต้นไป หวังว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยจะช่วยคงกำลังซื้อ และยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้ต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยมีความท้าทายสูงมาก โดยปีนี้ตั้งเป้ายอดเปิดบัตรเครดิตใหม่ เพิ่มรวม 250,000 ใบ และยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเติบโต 10% หรือ 30,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 290,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในยุคดิจิทัล ทำให้ต้องปรับตัวให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสมาชิก โดยต้องมีผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพและปลอดภัย ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ที่จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและไว้วางใจ ล่าสุดได้แต่งตั้งนางวิไลวรรณ นพรัตน์ ที่มีประสบการณ์คร่ำหวอดอยู่ในวงการโทรคมนาคมมามากกว่า 20 ปี มาดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารสูงสุด สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. โดยมีบทบาทในการกำหนดแผนยุทธศาสตร์ด้านเทคโนโลยี พัฒนาขีดความสามารถในเชิงลึก วางรากฐานโครงสร้างการทำงานไอทีกับบุคลากรให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้
“ภายใต้การเร่งพัฒนา นำนวัตกรรมดิจิทัล มาประยุกต์ใช้กับโครงสร้างการทำงาน (Digital Transformation) ซึ่งได้เลือกเทคโนโลยีที่ได้รับการยอมรับระดับโลกมาใช้ จะช่วยลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มกลุ่มลูกค้าที่หลากลาย และเฉพาะเจาะจงมากขึ้น รวมทั้งสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นขึ้นระหว่างลูกค้าและเคทีซี รองรับการเติบโตในอนาคต สิ่งที่จะเห็นจากการพัฒนานี้ หนึ่งคือ ผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จะออกมาเพื่อสร้างความ หลากหลาย ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น รวมทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆเข้ามาช่วยดูแลเรื่องความปลอดภัย ทางไซเบอร์ จากมิจฉาชีพออนไลน์ให้มากขึ้น จากที่เราติดตามและพัฒนาเรื่องนี้มาต่อเนื่อง ทั้งในส่วนของบัตรเครดิตและแอปพลิเคชันเคทีซี”
นอกจากนี้ การดูแลความปลอดภัยทางการเงินลูกค้า ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก โดยไม่นานมานี้ เคทีซีได้ออกบัตรใส ที่ไม่มีเลขบัตร และเลขหลังบัตร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น หากบัตรถูกขโมย และยังใช้ระบบ Dynamic CVV ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่สามารถขอเปลี่ยนรหัส CVV ผ่านแอป KTC Mobile และรหัสที่ได้รับจะมีอายุการใช้งานเพียง 24 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้ไม่มีใครเข้าถึงหรือรับรู้รหัส CVV ได้ หากไม่ใช่ผู้ใช้งานจริง.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม