กฤษณ์ จันทโนทก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า การดำเนินงานตามกลยุทธ์ Digital Bank with Human Touch สร้างผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งต่อเนื่อง และสามารถพิชิตทุกเป้าหมายที่วางได้ โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ของปี 2567 ธนาคารไทยพาณิชย์มีกำไรสุทธิ 3.85 หมื่นล้านบาท เติบโต 5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รายได้ดอกเบี้ยสุทธิเติบโต 3.1% รายได้จากธุรกิจการบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ระดับ 12.1% ซึ่งสูงที่สุดเมื่อเทียบกับธนาคารขนาดใหญ่ที่มีความสำคัญต่อระบบในประเทศ (Domestic Systemically Important Bank: D-SIBs) มีต้นทุนต่อรายได้ที่ 36.7% ต่ำที่สุดในระบบ D-SIBs นอกจากนี้ ในเรื่องความยั่งยืนนั้น ธนาคารไทยพาณิชย์ตอกย้ำบทบาทพันธมิตรในการพาลูกค้าทุกกลุ่มเร่งปรับตัวสู่สังคมคาร์บอนต่ำมากที่สุดในประเทศไทย ด้วยสินเชื่อเพื่อความยั่งยืนกว่า 1.34 แสนล้านบาท (ณ พ.ย. 2567) จากเป้าหมาย 1.5 แสนล้านบาทในปี 2568
จากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 แสดงให้เห็นพัฒนาการทางด้านดิจิทัลแบงก์ ด้วย 5 ผลงานสำคัญ ได้แก่ 1. รายได้จากช่องทางดิจิทัลต่อรายได้รวมเพิ่มขึ้นสู่ 15% จาก 7% ณ ปลายปี 2566 2. นำการใช้ AI ครอบคลุมมิติสำคัญของธนาคาร อาทิ การใช้ AI อนุมัติสินเชื่อ 100% และเพิ่มขีดความสามารถด้านการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแบบเฉพาะบุคคล (Hyper-personalization) รวมถึงการใช้ AI เสริมประสิทธิภาพให้กับพนักงานดูแลลูกค้าและบริการสาขา เป็นต้น 3. การเปลี่ยนกระบวนการจากระบบมือสู่อัตโนมัติได้มากกว่า 1,000 กระบวนการ 4. การเพิ่มเสถียรภาพให้แก่ SCB EASY ซึ่งสามารถลด Downtime จาก 4 ช.ม. ในปี 2566 เป็น 1 ช.ม. ในปีนี้ และ 5. การวางรากฐานการเป็นธนาคารแห่งอนาคต ด้วยการลงทุนระบบหลักของธนาคาร (Core Bank) บนระบบคลาวด์
ขณะที่ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ได้สร้างผลงานโดดเด่นเชิงประจักษ์อย่างมาก โดยรายได้การบริหารความมั่งคั่งเติบโต 19% yoy ขณะที่มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการในส่วนของการลงทุน (Asset Under Advisory) เติบโต 11% สูงกว่าค่าเฉลี่ยอุตสาหกรรมที่เติบโต 1.5% นอกจากนี้ ธนาคารยังครองอันดับหนึ่งสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการประเภทอนุพันธ์แฝง (Structured Product) ครองอันดับหนึ่ง Wealth Lending และรักษาอันดับหนึ่งยอดประกันผ่านช่องทางการจัดจำหน่ายผ่านธนาคาร (Bancassurance) ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 23%
ทั้งนี้ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เป็นการดำเนินงานเพื่อปักหมุดเป้าหมายและวางแผนการทำงาน โดยเน้นสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพื่อวางรากฐานสู่การเป็น AI First Bank หลังจากนี้ไปจะเข้าสู่ช่วงการปรับโครงสร้างองค์กรเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมาย Digital Bank with Human Touch ผ่าน 3 กลยุทธ์
1. พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการโดยใช้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง
2. ปรับโครงสร้างและวิถีการทำงาน ลดกำแพงความซ้ำซ้อน เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับพนักงาน
3. สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีให้กลุ่ม SCBX แม้ในสภาวะที่ผันผวน โดยมีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 10%
ดังนั้นเพื่อความอยู่รอดขององค์กรธนาคารไทยพาณิชย์ ต้องเลือกกลุ่มลูกค้าให้ชัด และให้บริการสอดคล้องกับมูลค่าทางเศรษฐกิจของลูกค้า ลูกค้ามีมูลค่ามากใช้คนบริการมาก ลูกค้ามูลค่าน้อยใช้ระบบดิจิทัลเข้ามาช่วย
ทั้งนี้การพัฒนาโครงสร้างระบบ AI และการเก็บข้อมูลคาดว่าจะแล้วเสร็จในปีหน้า เมื่อทำได้แล้วจะช่วยปลดล็อกการเข้าถึงข้อมูลลูกค้า ผสานทุก Touch Point ให้เกิด Single Source of Truth
การวางรากฐานไปสู่ Digital Bank จะทำให้ธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมแข่งขันกับธนาคารไร้สาขา (Virtual Bank) ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศผู้ที่ได้ใบอนุญาต Virtual Bank อย่างเป็นทางการภายในไตรมาส 2 ของปี 2568 ซึ่งจะเป็นอีกจุดเปลี่ยนที่สำคัญในระบบการเงินของไทย โดยธนาคารมีความพร้อมใน 3 มิติ
1. Cost to Income ด้วยข้อได้เปรียบจากการมีประสบการณ์ดำเนินธุรกิจธนาคารมาอย่างยาวนาน ปัจจุบันธนาคารมีอัตราส่วนค่าใช้จ่ายดำเนินงานต่อรายได้รวมที่ 36% ด้วยการปรับโครงสร้างการทำงาน คาดว่าจะสามารถทำให้ต้นทุนลดลงมาอยู่ที่ 30% ภายในปี 2569 เพื่อให้อยู่ในระดับใกล้เคียงกับต้นทุนเฉลี่ย Virtual Bank ทั่วโลกที่ 31%
2. รักษาฐานลูกค้า ผ่านการบริหารต้นทุนคนและเครื่องจักรให้เกิดสมดุล ในระหว่างที่ผู้เล่นรายใหม่ต้องแบกรับการขาดทุนในช่วงแรก เพื่อดึงดูดลูกค้า เปรียบเสมือนสมรภูมิค้าปลีกออนไลน์ ที่ต้องลดแลกแจกแถม เพื่อแย่งชิงส่วนแบ่งทางการตลาด
3. 90% ของ Virtual Bank ทั่วโลก ดำเนินงานแบบขาดทุน มีเพียง 10% เท่านั้นที่ทำกำไร
“ธนาคารไทยพาณิชย์พร้อมที่จะแข่งขันกับ Virtual Bank ทุกเจ้าไม่ว่าจะเจ้าไหน ชนะหรือแพ้ต้องดูหนังยาว แต่โจทย์คือเราเตรียมตัวให้มีความเข้มแข็ง เราเชื่อว่าเรามีความพิเศษไม่เหมือนคนอื่น คือใช้ดิจิทัลเมื่อจำเป็น การถัวเฉลี่ยระหว่างต้นทุนคนกับดิจิทัลจะสามารถกดต้นทุนให้ใกล้เคียงกับ Virtual Bank ได้”
ทั้งในปี 2568 การบริหารต้นทุนจะไม่สามารถลดลงได้มากเหมือนในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารอยู่ในช่วงการเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Bank ต้องลงทุนพัฒนาระบบและวางรากฐานเพื่อนำ AI มาปรับใช้ อย่างไรก็ตามคาดหวังว่าสองปีหลังจากนี้ เมื่อระบบทุกอย่างนิ่งแล้ว ธนาคารจะมีประสิทธิภาพในการดำเนินงานแบบก้าวกระโดด
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
การเก็บรวบรวมข้อมูลนี้นำไปใช้เพื่อ กิจกรรมทางการตลาดโดย ยึดหลัก ปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล