Thairath OnlineThairath PlusThairath SportThairath TVMIRROR

ควบรวม "ทีเอ็มบีธนชาต" โค้งสุดท้าย เปิดหมาย 3 ปี สู่ท็อป 3 ดิจิทัลแบงก์กิ้ง

Date Time: 10 พ.ค. 2564 05:05 น.

Summary

การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย หรือทีเอ็มบี กับธนาคารธนชาต ภายใต้ “One Dream, One Team, One Goal” เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ต้นปี 2562 และสามารถเดินไปตามแผนที่วางไว้

การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย หรือทีเอ็มบี กับธนาคารธนชาต ภายใต้ “One Dream, One Team, One Goal” เริ่มนับหนึ่งตั้งแต่ต้นปี 2562 และสามารถเดินไปตามแผนที่วางไว้ จนกำหนดเสร็จสมบูรณ์ภายในเดือน ก.ค.2564

ธนาคารใหม่ภายใต้ชื่อ “ธนาคารทหารไทยธนชาต” หรือ “ทีเอ็มบีธนชาต” มีขนาดสินทรัพย์ใหญ่เป็นอันดับ 6 ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไทยถึง 2 ล้านล้านบาท มีพนักงาน 15,000 คน สาขาทั่วประเทศ 682 แห่ง ความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น มีเป้าหมายธุรกิจที่ต้องการเดินหน้าสร้างสรรค์สินค้าและบริการด้านการเงินใหม่ๆ

ทีเอ็มบีธนชาต ภายใต้ผู้ถือหุ้นใหญ่ นำโดย ไอเอ็นจี แบงก์ จากเนเธอร์แลนด์ ถือหุ้นมากสุดในสัดส่วน 23.02% ของทุนจดทะเบียน ตามมาด้วยบริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน) ถือหุ้น 20.52% และกระทรวงการคลัง ถือหุ้น 11.79%

การนำ 2 องค์กรขนาดใหญ่ 2 แห่งมารวมกัน มีพนักงานทำหน้าที่ซ้ำซ้อนกันเป็นจำนวนมาก การจัดคนให้เหมาะกับงานถือเป็นหัวใจสำคัญ อีกทั้งแผนธุรกิจต้องกำหนดเป้าหมายชัดเจน เพื่อใช้ขับเคลื่อนธนาคารให้ประสบความสำเร็จในวันข้างหน้า

“ทีมเศรษฐกิจ” ได้สัมภาษณ์ “ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศอธิบดีกรมสรรพากร ในฐานะประธานกรรมการ ธนาคารทหารไทย จำกัด (มหาชน) หรือทีเอ็มบี คีย์แมนคนสำคัญ ที่ได้รับมอบหมายจากกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ใน 3 ให้เข้ามาขับเคลื่อนการควบรวมและวางแผนธุรกิจ ดังที่เขาได้อธิบายความดังต่อไปนี้...

ดีเดย์ 5 ก.ค.ควบรวม 100%

การเข้ามาดำรงตำแหน่งประธานกรรมการทีเอ็มบีในครั้งนี้ มีภารกิจหลักในการขับเคลื่อนการควบรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตให้เป็นหนึ่งเดียว เป้าหมายที่ชัดเจนคือการควบรวมกิจการในครั้งนี้ ต้องสร้างประโยชน์ให้กับธนาคาร ประเทศชาติ ลูกค้า และพนักงาน สิ่งที่สำคัญต้องช่วยให้คนไทยมีชีวิตการเงินที่ดีขึ้น

“ดีลนี้เป็นงานยาก เพราะมีการนำธนาคารพาณิชย์ขนาดกลางถึง 2 แห่ง มาควบรวมกิจการกัน หลังควบรวมมีขนาดสินทรัพย์สูงถึง 2 ล้านล้านบาท มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 6 ของธนาคารพาณิชย์ไทย มีฐานลูกค้ารวมกัน 10 ล้านราย ณ ตอนนี้ใช้เวลาดำเนินการมาแล้ว 18 เดือน ทุกขั้นตอนยังเดินหน้าไปตามแผนที่กำหนดไว้ต้องแล้วเสร็จเดือน ก.ค.2564”

ธนาคารได้มีการโอนย้ายธุรกิจและกิจการสาขาเข้าด้วยกัน ธนาคารธนชาตได้โอนย้ายพนักงานกว่า 11,000 คน มารวมกับพนักงานของทีเอ็มบี 8,000 คน รวมมีพนักงานทั้งหมด 19,000 คน มีการจัดอบรม เพิ่มทักษะความรู้ให้กับพนักงาน พร้อมจัดสรรหาตำแหน่งที่เหมาะสม และเปิดโครงการ “ร่วมใจจาก” ทำให้เบ็ดเสร็จธนาคารใหม่มีพนักงานทั้งหมดเหลือ 15,000 คน มีสาขาทั่วประเทศ 682 แห่ง ปิดสาขาที่ซ้ำซ้อนหรือที่ตั้งใกล้กัน ไปทั้งหมด 152 แห่ง

ล่าสุดผู้ถือหุ้นอนุมัติให้เปลี่ยนชื่อธนาคารใหม่เป็น “ธนาคาร ทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน)” หรือทีเอ็มบีธนชาต ชื่อภาษาอังกฤษ “TMBThanachart Bank Public Company Limited” ใช้ตัวย่อ “TTB” พร้อมกับโลโก้ “ttb” ที่เปิดตัวใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ที่ 7 พ.ค.ที่ผ่านมา

โลโก้ ttb ที่มี t ด้วยกันสองตัวนั้น t ตัวแรกมาจาก TMB (ทีเอ็มบี) และอีกตัวมาจาก Thanachart (ธนชาต) ส่วน b มาจากคำว่า Bank (ธนาคาร) ตัวอักษรทั้ง 3 ตัว เชื่อมต่อกัน เพื่อมุ่งไปข้างหน้า เหมือนกับการที่ทีเอ็มบีและธนชาตเชื่อมต่อสององค์กร รวมพนักงานให้เป็นหนึ่งเดียว และพร้อมเชื่อมต่อประสบการณ์ทางการเงินที่ดีที่สุดไปยังลูกค้า เพื่อเติบโตและก้าวไปข้างหน้า

“การควบรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตเป็นหนึ่งเดียว จะเสร็จสมบูรณ์ 100% และมีกำหนดเปิดตัวในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.นี้”

2 แบงก์ศักยภาพแข่งขันเพิ่มขึ้น

ข้อดีของการควบรวมกิจการในครั้งนี้ จะทำให้ฐานะการเงินเข้มแข็งขึ้น สะท้อนได้จากบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือ S&P Global Ratings หรือเอสแอนด์พี ได้เพิ่มอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของธนาคารทหารไทย จาก BBB- เป็น BBB โดยเอสแอนด์พีให้ความเห็นว่า การรวมกิจการระหว่างทีเอ็มบีและธนชาต ส่งผลให้กลุ่มธนาคารมี Systemic Importance หรือมีความสำคัญต่อระบบการเงินในระดับสูง อีกทั้งยังสามารถดำเนินการตามแผนรวมกิจการได้ตามเป้าหมายเดือน ก.ค.นี้

พิจารณาจากธุรกิจของทีเอ็มบีและธนาคารธนชาต ที่แตกต่างกันชัดเจน ทำให้น่าจะสามารถทำธุรกิจที่เอื้อต่อกันได้มาก โดยทีเอ็มบีมีต้นทุนการเงินต่ำ หาเงินฝากเก่ง มีผลิตภัณฑ์เงินฝากที่ตรงใจลูกค้า ทั้งผลิตภัณฑ์เงินฝากทีเอ็มบีโนฟิกซ์ เงินฝากทีเอ็มบีออลฟรี ผลิตภัณฑ์เงินฝากที่หากลูกค้ามีเงินหรือพักเงินไว้ในบัญชี 5,000 บาท จะได้ประกันอุบัติเหตุฟรี ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์การเงินที่ดีมาก

ขณะที่ฝั่งของธนาคารธนชาต มีฐานลูกค้าสินเชื่อรายย่อยจำนวนมาก แต่มีต้นทุนการเงินสูง จ่ายดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราสูง เมื่อธนาคาร 2 แห่ง มารวมกัน จะทำให้ส่วนต่างดอกเบี้ย เงินกู้และเงินฝากหรือรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (NIM : Net Interest Margin) ปรับเพิ่มขึ้นจาก 2.8% เป็น 3% ในทันที ทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น

อีกจุดแข็งของธนาคารธนชาต คือมีฐานลูกค้าสินเชื่อเช่าซื้อ รถยนต์เป็นอันดับ 1 ของตลาดเช่าซื้อรถยนต์ ครองส่วนแบ่งการตลาด 28% มีฐานลูกค้าทั้งหมด 6 ล้านราย รวมกับลูกค้าทีเอ็มบีอีก 4 ล้านราย รวมกันเป็น 10 ล้านราย เมื่อเข้าดูในรายละเอียดของลูกค้าทั้ง 2 แห่ง พบว่ามีลูกค้าที่ซ้ำกันหรือใช้ผลิตภัณฑ์การเงินทั้ง 2 แห่ง 1 ล้านราย ซึ่งถือว่าเป็นข้อดี เพราะธนาคารสามารถนำฐานลูกค้ามาต่อยอด สร้างโอกาสในการขายผลิตภัณฑ์การเงินได้เพิ่มขึ้น อาทิ ลูกค้าเช่าซื้อรถยนต์ของธนาคารธนชาต สามารถต่อยอด
มาใช้ผลิตภัณฑ์เงินฝากของทีเอ็มบี เป็นต้น

ส่วนความยากลำบากของการควบรวมกิจการ เกิดจากการต้องทำงานใหญ่ 2 เรื่องไปพร้อมกัน โดยงานควบรวมกิจการก็ต้องเดินหน้า ขณะที่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งธนาคารทหารไทย มีกระทรวงการคลังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ มีบทบาทสำคัญต้องเข้าไปช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้

ธนาคารต้องเข้าไปช่วยเหลือลูกค้า ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างเต็มที่ มีทั้งการเข้าไปช่วยปรับโครงสร้างหนี้พักหนี้ ยืดระยะเวลาชำระ มีลูกค้าเข้าโครงการรับความช่วยเหลือมากถึง 750,000 ราย หรือคิดเป็น 40 % ของสินเชื่อรวม ณ ปัจจุบันลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการช่วยเหลือ ส่วนใหญ่สามารถกลับไปทำธุรกิจได้เป็นปกติ ยังเหลือเพียง 14 % ของลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการ ยังอยู่ในความช่วยเหลือของธนาคารต่อไป จนมาเกิดโควิด-19 ระลอกที่ 3 ธนาคารพร้อมเข้าไปช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และหากลูกค้ารายใดต้องการเข้าร่วมโครงการโกดังพักหนี้ หรือ Asset warehousing ตามมาตรการของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)

ตั้งเป้า 3 ปีติดท็อป 3 ดิจิทัลแบงก์กิ้ง

ทีเอ็มบีธนชาต ได้จัดทำแผนธุรกิจ 3 ปี (2564-2566) มีการกำหนดเป้าหมายชัดเจน ต้องการเป็น “ธนาคารที่ลูกค้าเลือกใช้ ชื่นชอบ แล้วบอกต่อ” มีโฟกัสการทำธุรกิจชัดเจน ไม่แข่งขัน กับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ หรือเร่งเพิ่มขนาดสินทรัพย์ แต่จะเน้นไปที่ธุรกิจรายย่อย ลูกค้ารายย่อย สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ และยังคงยืนหยัดครองความเป็นผู้นำสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์อันดับ 1 ต่อไป พร้อมทั้งมีการนำดิจิทัลแพลตฟอร์มเข้ามาทำธุรกิจเพิ่มขึ้น

โดยในปีนี้ (2564) ซึ่งเป็นปีแรกของการควบรวมกิจการ จะเสร็จสมบูรณ์ในวันที่ 5 ก.ค. 64 โดยมีงานเร่งด่วนคือต้องช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 อย่างเต็มที่ ขณะเดียวกันธนาคารยังเร่งขยายสินเชื่อ เน้นการเติบโตของสินเชื่อบ้านและสินเชื่อรถยนต์ มุ่งการเติบโตของเงินฝากอย่างมีคุณภาพ เน้นขยายผลิตภัณฑ์เงินฝาก ออลฟรีและโนฟิกซ์

“ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ ที่กลับมาสร้างแรงกดดันให้กับการฟื้นตัวของธุรกิจ และอาจส่งผลต่อการชำระหนี้ ทำให้ธนาคารกำหนดกรอบการตั้งสำรองหนี้จัดชั้นอยู่ในระดับสูง เพื่อเตรียมรับมือกับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในอนาคต นอกจากนี้ ธนาคารยังลดความเสี่ยงของพอร์ตสินเชื่อ หรือ De-risking portfolio ส่งผลให้หนี้สงสัยจะสูญ หรือ NPL ratio บนงบการเงินรวม ยังคงรักษาระดับต่ำที่ 2.75%”

ส่วนแผนธุรกิจระยะกลาง (ปี 2565-2566) ตั้งเป้าหมายติดอันดับ 1 ใน 3 ดิจิทัลแบงก์กิ้ง (Top 3 digital banking) มีการนำดิจิทัลแพลตฟอร์ม ที่ผสานกันระหว่างพนักงานและช่องทางดิจิทัล หรือที่เรียกว่า Humanized digital platform เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดและสร้างสุขภาพการเงินที่แข็งแรง

ขณะเดียวกัน ต้องสร้างโอกาสทางธุรกิจด้วยการใช้ประโยชน์จากฐานลูกค้าที่มีมากถึง 10 ล้านราย มาใช้ผลิตภัณฑ์ทางการเงินของธนาคารมากขึ้น ทำให้ธนาคารมีรายได้เพิ่มขึ้น สร้างประโยชน์สูงสุดให้กับลูกค้า

“ในปี 2566 ได้ตั้งเป้าหมายให้ลูกค้ามากกว่า 75% ใช้บริการการเงินผ่านช่องทางดิจิทัล และธุรกรรมการขายผลิตภัณฑ์ทางการเงินผ่านช่องทางดิจิทัลต้องมีสัดส่วน 1 ใน 3 หากสามารถทำได้ตามเป้าหมายจะช่วยให้ธนาคารมีต้นทุนต่อรายได้ใกล้ 40% ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการแข่งขันระยะยาวมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น”

การนำแพลตฟอร์มดิจิทัล เข้ามาใช้จะสนองตอบความต้องการของผู้บริโภค และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปใช้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น เห็นได้จากการทำธุรกรรมการเงินผ่านช่องทางแอปพลิเคชันบนสมาร์ทโฟน ของธนาคารมีอัตราการเติบโตสูงมาก ซึ่งในอนาคตหากลูกค้าใช้บริการผ่านสาขาลดลง ย่อมจำเป็นต้องปรับลดสาขาลงด้วย

แบล็กลิสต์สินเชื่อ 27 ธุรกิจ

นอกจากนี้อีกนโยบายที่สำคัญ คือได้มีการผลักดันให้เกิดธนาคารเพื่อความยั่งยืน (Sustainable Banking) มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวมากกว่าผลตอบแทนในระยะสั้น ธนาคารจึงได้กำหนดนโยบายชัดเจนว่า สินเชื่อที่ปล่อยใหม่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม โดยนำปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล มาร่วมพิจารณา พร้อมตั้งเป็นกฎเกณฑ์ สินเชื่อที่ธนาคารไม่สนับสนุนหรือไม่ปล่อยสินเชื่อ มีอยู่ 27 ประเภทธุรกิจใน 11 อุตสาหกรรม อาทิ

อุตสาหกรรมพลังงาน ได้แก่ พลังงานนิวเคลียร์ ทรายน้ำมัน และเหมืองถ่านหิน ครอบคลุมไปถึงกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเหมืองถ่านหินทั้งหมด เพราะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและมลพิษทางอากาศ ส่งผลกระทบต่อสังคมในด้านสุขภาพ และความปลอดภัยของชุมชนรอบพื้นที่โครงการ

อุตสาหกรรมประมง ได้แก่ การประมงแบบอวนลอย ที่มีความยาวอวนเกินกว่า 2.5 กิโลเมตร การที่ใช้ระเบิด หรือสารพิษสำหรับการจับสัตว์น้ำ สร้างผลกระทบต่อระบบนิเวศทางน้ำ และส่งผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ
การดัดแปลงพันธุกรรมที่ทำในพืชหรือสัตว์ ที่อาจเป็นอันตรายต่อมนุษย์ในด้านสุขภาพ หรือเป็นการใช้ที่ผิดศีลธรรม เช่น การทดลองในสัตว์ที่เกิดการทารุณจากการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม เป็นต้น.

ทีมเศรษฐกิจ


เราใช้คุ้กกี้

เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น

อ่านเพิ่มเติมคลิก(Privacy Policy) และ (Cookie Policy)