จับตาปี 68 หุ้นกู้ครบดีล เกือบ 9 แสนล้าน หวั่นเศรษฐกิจโตต่ำ ทำกลุ่ม High Yield เสี่ยงยืดหนี้

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

จับตาปี 68 หุ้นกู้ครบดีล เกือบ 9 แสนล้าน หวั่นเศรษฐกิจโตต่ำ ทำกลุ่ม High Yield เสี่ยงยืดหนี้

Date Time: 9 ม.ค. 2568 15:29 น.

Video

"ROCTEC กับการเติบโตครั้งสำคัญ เมื่อ BTS เข้าถือหุ้น" | Money Issue

Summary

  • ThaiBMA เผยหุ้นกู้ครบกำหนดปี 68 เกือบ 9 แสนล้านบาท หวั่นเศรษฐกิจโตต่ำ ทำกลุ่ม High Yield เสี่ยง Roll over ไม่ได้ ขณะที่สหกรณ์ปรับเกณฑ์ลงทุนใหม่ คาดชะลอซื้อหุ้นกู้ จากปัจจุบันถืออยู่ 5 แสนล้าน หรือ 12% ของตลาด

สถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ไทยในปี 2568 ยังคงเป็นปีที่ท้าทาย หลังจากในอดีตเกิดกรณีบริษัทบางแห่งผิดนัดชำระหนี้หรือขยายเวลาการไถ่ถอน ส่งผลให้ความเชื่อมั่นนักลงทุนในตลาดหุ้นกู้เริ่มเปราะบางมากขึ้น

ขณะเดียวกัน สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย หรือ ThaiBMA เปิดเผยว่า หุ้นกู้ระยะยาวที่ครบกำหนดในปีนี้มีมูลค่ารวมกว่า 893,275 ล้านบาท ซึ่งหุ้นกู้กลุ่ม High yield ยังคงต้องจับตาอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวที่อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการออกหุ้นกู้รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิม (Roll over)

อริยา ติรณะประกิจ รองกรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) เปิดเผยว่า ปี 2568 มีหุ้นกู้ระยะยาวครบกำหนดมูลค่ารวมกว่า 893,275 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตกลุ่ม Investment grade จำนวน 85% และหุ้นกู้กลุ่ม High yield จำนวน 15% ส่วนใหญ่อยู่ในอุตสาหกรรมการเงิน อสังหาริมทรัพย์ และพลังงาน

อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ที่จะครบกำหนดส่วนใหญ่ 85% เป็นหุ้นกู้ที่มีอันดับเครดิตกลุ่ม Investment grade จึงเชื่อว่าในปี 2568 จะไม่มีปัญหาในการออกหุ้นกู้รุ่นใหม่เพื่อทดแทนรุ่นเดิม (Roll over)

ส่วนกลุ่ม High yield นั้น ยังต้องติดตามสถานการณ์การชะลอตัวทางเศรษฐกิจ อาจมีความเสี่ยงในการ Roll over ทำให้บางบริษัทอาจต้องหาแนวทางอื่นในการหาแหล่งเงินทุน และอาจเห็นการขอขยายระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอนหุ้นกู้ออกไป

นอกจากนี้ การปรับเกณฑ์การฝากเงินและการลงทุนของสหกรณ์ออมทรัพย์ ทำให้มีการชะลอลงทุนในหุ้นกู้ของนักลงทุนสหกรณ์ในปีนี้ลง เนื่องจากมีการกำหนดให้ลงทุนได้ไม่เกิน 1 เท่าจากทุนเรือนหุ้น โดยให้เวลาปรับภายใน 10 ปี โดยสหกรณ์ถือเป็นผู้ลงทุนในตลาดหุ้นกู้ที่มีเม็ดเงินขนาดใหญ่ ปัจจุบันถืออยู่ราว 5 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 12% ของตลาดหุ้นกู้ ทำให้หลังจากนี้ยอดตอบรับอาจไม่สูงเท่าในอดีต

ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ สมาคมตลาดตราสารหนี้ไทย (ThaiBMA) กล่าวว่า ในปี 2567 การขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทยชะลอตัวต่อเนื่องจากปีก่อนหน้า การออกหุ้นกู้ภาคเอกชนได้ปรับตัวลดลง 10% จากปีที่แล้ว มีมูลค่าการออกเท่ากับ 913,141 ล้านบาท ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ไทยมีอัตราการขยายตัว 3.6% จากการเพิ่มขึ้นของตราสารหนี้ที่ออกโดยรัฐบาลเป็นสำคัญ

ด้านกระแสเงินลงทุนจากต่างประเทศ (Fund flow) ของนักลงทุนต่างชาติในปี 2567 เป็นการขายสะสมสุทธิตราสารหนี้ไทยจำนวน 67,395 ล้านบาท ทำให้การถือครองตราสารหนี้ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ณ สิ้นปี 2567 เท่ากับ 8.7 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 5% ของมูลค่าคงค้างตลาดตราสารหนี้ไทย โดยตราสารหนี้ไทยที่ต่างชาติถือครองมีอายุคงเหลือเฉลี่ย 8.7 ปี เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 8.6 ปีเมื่อสิ้นปี 2566

ขณะที่ผลสำรวจการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบายในปี 2568 จากผู้ร่วมตลาดส่วนใหญ่คาดว่า กนง. จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายประมาณ 2 ครั้ง รวม 0.50% เหลือ 1.75% โดย กนง. อาจเริ่มมีการปรับลดในช่วงไตรมาสที่สองของปีนี้

สำหรับการคาดการณ์ Bond yield ไทยในปี 2568 ผู้ตอบแบบสอบถามคาดว่า Bond yield ไทยรุ่นอายุ 5 ปี และ 10 ปี จะปรับตัวลงเฉลี่ย 5-15 bps. จากปลายปี 2567 จากปัจจัยเรื่องทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทย ทิศทางอัตราดอกเบี้ยของประเทศเศรษฐกิจชั้นนำ ส่วนต่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยกับสหรัฐฯ และกระแสเงินลงทุน (Fund Flow) เป็นสำคัญ

อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
https://www.thairath.co.th/money/investment
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้
https://www.facebook.com/ThairathMoney


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ