มีข้อมูลประจักษ์ชัดเจนว่า ในแต่ละปี ประเทศไทยโอน “รถยนต์มือสอง” ในปริมาณที่มากกว่า “รถใหม่” อยู่นับเท่าตัว เช่น ช่วงปี 2566 ที่ผ่านมา อยู่ที่ราว 2 ล้านคันต่อ 1 ล้านคน
สะท้อนรถยนต์มือสองทั้งสภาพเก่าและใหม่ ยังเป็นทางเลือกหลักของคนไทยกลุ่มใหญ่ โดยเฉพาะในยุคที่เศรษฐกิจยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ การเอื้อมถึงรถใหม่ราคาสูงจึงเป็นเรื่องยาก
ข้อมูลจากทีเอ็มบีธนชาต เจ้าของแพลตฟอร์ม Roddonjai เว็บไซต์ซื้อ-ขายรถมือสอง ซึ่งเปิดตัวมาประมาณ 1 ปี เปิดเผยว่า แม้ปัจจุบัน ตลาดรถมือสองจะไม่คึกคักเหมือนก่อนหน้านี้ จากภาวะปัญหาการกู้ขอสินเชื่อไม่ผ่านเป็นจำนวนมากของ “ผู้ซื้อ”
แต่ตลาดยังมีโอกาสไปต่อ จากยอดการประกาศขายรถบน Roddonjai.com กว่า 65,000 คัน ผู้เข้าใช้งานแพลตฟอร์มเกือบ 2 ล้านคนต่อเดือน และมีขายรถยนต์ (ผ่านดีลเลอร์หรือเต๊นท์รถ) ได้แล้วถึง 38,000 คัน คาดสิ้นปี 2567 แตะ 40,000 คัน และมียอดเข้ามาในระบบสินเชื่อรถยนต์ ทีทีบีไดรฟ์ ของธนาคารไปแล้วกว่า 13,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 70% จากยอดขายทั้งหมด
“ชัชฤทธิ์ ตั้งเถกิงเกียรติ์” รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หัวหน้าผลิตภัณฑ์สินเชื่อรถยนต์และทรานส์ฟอร์เมชัน ทีเอ็มบีธนชาต ยังประเมินว่า ตลาดรถมือสองจะกระเตื้องขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงปี 2568 จากแนวโน้มเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวได้ดี และเทรนด์ดอกเบี้ยขาลง ทำให้การเข้าถึงสินเชื่อเริ่มมีทิศทางดีขึ้น
หากแต่ปัจจัยสำคัญยังมาจากข้อเท็จจริงที่พบว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีจำนวนผู้มีรถยนต์มากกว่า 18 ล้านคัน ซึ่งเป็นรถที่มีอายุใช้งานในระหว่าง 4-7 ปี คาดการณ์โอกาสในการเปลี่ยนรถอาจมีมากเกือบ 11 ล้านคัน กลายเป็นโอกาสของกลุ่มธุรกิจในตลาด “รถบ้าน” ลักษณะขายเก่า - ซื้อใหม่
เนื่องจากหากเจาะลึกตลาดรถมือสองอย่างแท้จริง จะพบว่า ใน 11 ล้านคันดังกล่าว กลับมียอดซื้อ-ขายรถยนต์มือสองทั้งประเทศอยู่ที่ 700,000 คันเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่กระจุกตัวอยู่ในเต็นท์รถต่างๆ นั่นหมายถึงยังมีอีกเกือบ 10 ล้านคันยังหาผู้ขายไม่เจอ
ผู้บริหารทีเอ็มบีธนชาตยังระบุว่า ปัจจุบันพฤติกรรมการซื้อและขายรถยนต์ของคนไทยเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน
1. การพึ่งพาช่องทางออนไลน์เป็นหลักในการประกาศขายรถ หรือหาข้อมูลซื้อรถ ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆ ทั้ง Instagram, TikTok กำลังเป็นช่องทางใหม่
2. เน้นสะดวก รวดเร็ว ผ่านการซื้อขายออนไลน์ และแพลตฟอร์มดิจิทัล
3. ตามหารถที่มีประวัติการใช้งานชัดเจน ถี่ถ้วนมากขึ้น แม้แต่ประวัติการชนต่างๆ
4. มีการใช้บริการตรวจสภาพรถมากขึ้น
5. มองหาข้อมูลรถที่โปร่งใส พิสูจน์ข้อมูลตัวตนผู้ขายได้
อย่างไรก็ตาม จากเทรนด์ข้างต้น กลายเป็นโอกาสของแพลตฟอร์ม Roddonjai ในระยะที่ 2 ภายใต้เป้าหมายเป็นเบอร์ 1 ในตลาดรถมือสองของประเทศไทย
“Roddonjai จะเดินกลยุทธ์การเป็นดิจิทัลแพลตฟอร์มเชื่อมวงจรของผู้ซื้อและผู้ขาย พร้อมจบกระบวนการสินเชื่อในคราวเดียวกัน ดึงผู้ขายรถ ไม่ว่าจะเป็นดีลเลอร์ /เต๊นท์ /OEM /บริษัทรถเช่า /รถบ้าน มาเจอกับผู้ซื้อ เชื่อมด้วยพันธมิตรทางธุรกิจต่างๆ และระบบสินเชื่อรถของธนาคาร ตั้งเป้ายอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 50,000 คัน ภายในปี 2568 และเป้าสินเชื่อ 30,000 คัน”
สำหรับจุดแข็งของแพลตฟอร์มซื้อ-ขายรถมือสอง Roddonjai นั้น จะเข้าไปแก้ปัญหาใหญ่ในฝั่งผู้ประกาศขายรถ ที่มักเจอกับปัญหาขายยาก ประกาศขายนานก็ยังขายไม่ออก หรือการถูกกดราคารถลงมากกว่า 50% จากดีลเลอร์หรือเต๊นท์รถ ขณะผู้ซื้ออาจเจอกับรถผิดกฎหมาย รถโจร รถที่ไม่มีคุณภาพ เพราะไม่สามารถหาประวัติผู้ขายและประวัติรถได้ ด้วยคอนเซ็ปต์ “ขายง่าย - ได้ราคา”
ทั้งนี้ ล่าสุด Roddonjai ยังดึง “มาริโอ้ เมาเร่อ” ดารานักแสดง ผู้คร่ำหวอดในวงการรถมือสอง เป็นพรีเซนเตอร์อย่างต่อเนื่อง ตอกย้ำมุมมองใหม่ของการขายรถบ้าน และ Pain Point ต่างๆ ของผู้ขายรถบ้าน ที่มักถูกประเมินค่ารถต่ำกว่ามาตรฐานเมื่อลงขายเอง โดยชูผู้ขายสามารถตั้งราคาขายได้เองตามมาตรฐานตลาดด้วย ttb bluebook
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney