ส่งข้อมูล "บัญชีม้า" ข้ามธนาคาร พบเส้นทางเงินเสี่ยงทุจริตสั่งอายัด ปิดบัญชีถาวร

ธปท.-สมาคมธนาคารไทยย้ำเอาจริงจัดการ “บัญชีม้า” โดยเริ่มใช้ “ข้อมูลเส้นทางเงินบัญชีเสี่ยง” ข้ามธนาคาร หรือ CFR ในการอายัดและปิดบัญชีม้า รวมทั้งไม่เปิดบัญชีใหม่มาตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา จากเดิมที่ไม่สามารถทำได้ ทำให้การอายัดเงินล่าช้า โดยใช้ข้อมูลระหว่างธนาคารอายัดบัญชีแล้ว 15,000 รายชื่อ จากบัญชีที่แจ้งมา 34,000 รายชื่อ และจะมีทยอยอายัดเพิ่มขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2 ก.ย.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และสมาคมธนาคารไทยได้ประกาศการจัดทำแนวปฏิบัติของภาคธนาคาร (Industry Standard) เพื่อเพิ่มความเข้มงวดกับการจัดการอายัดและยับยั้งบัญชีม้า ซึ่งเป็นไปตามมาตรการยกระดับมาตรการจัดการภัยทุจริตทางการเงิน เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.67 ที่ผ่านมา ซึ่งได้ยกระดับการจัดการบัญชีม้า จากระดับ “บัญชี” เป็น “บุคคล” ทั้งการอายัดบัญชีที่เปิดอยู่แล้วและการไม่ให้เปิดบัญชีใหม่ โดยได้ออกหนังสือเวียน เรื่องการเพิ่มความเข้มงวดในการจัดการบัญชีเงินฝากหรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ ในกรณีลูกค้ามีความเสี่ยงสูงหรือใช้บัญชีที่มีลักษณะหรือพฤติกรรมผิดปกติ เพื่อให้ธนาคารนำข้อมูลรายชื่อบุคคลที่มีความเสี่ยงในระบบ Central Fraud Registry (CFR) ที่เป็นระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลเส้นทางการเงินของภาคธนาคาร เพื่อใช้ในการสืบสวนสอบสวนและอายัดบัญชีของผู้ต้องสงสัยมาใช้ข้ามธนาคาร เพื่อดำเนินการกับบัญชีต้องสงสัยได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น รวมทั้งเป็นมาตรฐานเดียวกัน

นายรณดล นุ่มนนท์ รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.2567 เป็นต้นมา ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งได้เริ่มแลกเปลี่ยนข้อมูลข้ามธนาคารผ่านระบบ CFR แล้ว จากเดิมที่ไม่สามารถแลกเปลี่ยนข้ามธนาคารได้ ซึ่งจะทำให้การกวาดล้างบัญชีม้าทำได้ครอบคลุมและรวดเร็วขึ้น รวมถึงสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวในการพิจารณาเปิดบัญชีใหม่ด้วย โดยสามารถระงับช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทุกบัญชี จนกว่าผู้ที่ถูกระงับบัญชีจะเข้ามาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น รวมถึงพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ เพื่อป้องกันและจัดการไม่ให้เกิดช่องโหว่ที่บัญชีม้าจะถูกนำไปสร้างความเสียหายกับผู้อื่นได้อีก

โดยบัญชีนั้น รายชื่อบัญชีที่มีการแจ้ง ความหรือมีประกาศของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เจ้าของบัญชีที่ถูกระงับการใช้บัญชีต้องประสานกับศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center) หรือ AOC 1441 เพื่อติดต่อกับเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการสืบสวนสอบสวนความเกี่ยวข้องทางคดีต่อไป

สำหรับกรณีรายชื่อบัญชีที่ธนาคารตรวจพบพฤติกรรมต้องสงสัย แต่ยังไม่มีการแจ้งความกับเจ้าของบัญชี ธนาคารจะดำเนินการตามมาตรการขั้นต่ำ โดยระงับการทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ทันที เพื่อให้เจ้าของบัญชีมาพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างเข้มข้น เพื่อลดความเสี่ยงที่จะถูกมิจฉาชีพนำบัญชีไปใช้ ทั้งนี้ ธปท.จะติดตามการดำเนินการของธนาคารและประเมินผลของมาตรการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจว่าการจัดการบัญชีม้าจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ขณะที่นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกได้ดำเนินการจัดการบัญชีม้าให้เข้มข้นและต่อเนื่อง โดยร่วมกันจัดทำแนวปฏิบัติของภาคธนาคาร ซึ่งเริ่มนำไปปฏิบัติจริงแล้ว เพื่อไม่ให้ระบบธนาคารเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพในการรับส่งเงินที่ได้จากการหลอกลวงประชาชน โดยดำเนินการป้องกันทั้งบัญชีม้าที่จะเปิดใหม่ และการขยายผลตรวจจับบัญชีม้าที่มีอยู่เดิม โดยใช้ข้อมูลจาก ปปง. ข้อมูลการแจ้งเหตุผ่านระบบ CFR ของธนาคารและการรับแจ้งความของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยแต่ละธนาคารนำข้อมูลมาดำเนินการอย่างเข้มงวด เช่น ระงับการใช้งานบัญชีในรายชื่อนั้นทั้งหมดทันที รวมถึงจะพิจารณาไม่อนุญาตให้เปิดบัญชีใหม่ โดยปัจจุบันระบบธนาคารพาณิชย์และธนาคารรัฐได้ดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวไปแล้วกว่า 15,000 รายชื่อ จากบัญชีที่เกี่ยวข้องโดยตรงประมาณ 34,000 บัญชี ตั้งแต่ไตรมาส 4 ปี 2566 จนถึงปัจจุบัน ประมาณ 9 เดือน และคาดว่าจะมีบัญชีที่ถูกระงับเพิ่มทั้งระบบรวมมากกว่านั้น

ธปท. สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกขอให้ประชาชนตระหนักถึงผลกระทบจากการยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตนเป็นบัญชีม้า ทั้งบัญชีเดิมหรือกำลังจะเปิดเพิ่มเติมใหม่ว่า มีโทษอาญาตามกฎหมาย รวมทั้งผลจากมาตรการที่เข้มงวดของภาคธนาคาร ซึ่งจะกระทบการใช้บริการทางการเงินของบุคคลดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้.

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่