ใครที่กำลังต้องการซื้อบ้านไม่ว่าจะเป็นบ้านมือหนึ่งหรือบ้านมือสอง ผ่านโครงการหรือผ่านตัวแทน ในปี 2567 นี้ รัฐบาลได้มีการออกมาตรการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน จึงเป็นโอกาสที่ดีของทุกคนที่จะสามารถตัดสินใจซื้อบ้านได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น
โดยปกติการซื้อบ้านเป็นกระบวนการที่มีเอกสารและขั้นตอนที่ต้องจัดการมากมาย แต่ด้วยบริการด้านเอกสารที่ดีในปัจจุบัน ผู้ซื้อส่วนใหญ่เพียงแค่ต้องเซ็นเอกสารเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ความเข้าใจในสัญญาและความพร้อมทางด้านการเงินเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยสามารถตรวจสอบความพร้อมทางการเงินได้ดังนี้
เมื่อมีความพร้อมทางการเงินแล้ว สัญญาแรกที่ควรรู้จักคือ "สัญญาจะซื้อจะขาย" ซึ่งหมายความว่าหลังทำสัญญานี้เสร็จยังไม่เกิดการซื้อขายกันจริง เพียงแค่มีการล็อกไว้เพื่อนำหลักฐานนี้ไปยื่นกู้ สัญญานี้จะระบุชัดเจนว่าใครเป็นผู้ซื้อบ้าน ใครเป็นผู้ขายบ้าน ซื้อขายบ้านไหน ราคาเท่าไร ฯลฯ
หากไม่มีการระบุเพิ่มเติม ตามกฎหมายแล้วผู้ซื้อและผู้ขายต้องเสียค่าโอนคนละครึ่ง ผู้ขายจะต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะ ค่าธรรมเนียมต่างๆ จะไปอยู่ฝั่งผู้ขายซะเยอะ แต่ในสัญญาจะซื้อจะขาย ผู้ขายสามารถเขียนเพื่อผลักภาระไปยังผู้ซื้อได้
ดังนั้น ผู้ซื้อควรอ่านรายละเอียดดีๆ ว่าเรายอมรับเงื่อนไขได้หรือไม่ ในส่วนสุดท้ายก็จะมีวันที่นัดโอนกรรมสิทธิ์ เมื่อเราจะนำเอกสารตรงนี้ไปยื่นกู้ ควรหาข้อมูลให้ดีว่าธนาคารใช้หลักฐานอะไรประกอบบ้าง และทำเรื่องให้เสร็จภายในวันที่นัดโอนกรรมสิทธิ์
ทั้งนี้ การมีความรู้และความเข้าใจในกระบวนการทั้งหมดนี้จะช่วยให้การซื้อบ้านเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ติดตามข่าวสารด้านการตลาด กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney