ยืดชำระหนี้ ธอส.80-85 ปี "พิชัย" หวังลดยอดผ่อนต่องวด-เพิ่มเงินใช้จ่าย

นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง เปิดเผยภายหลังการเปิดงานมหกรรมแก้ไขหนี้และไกล่เกลี่ยภาคครัวเรือนของธนาคารอาคารสงเคราะห์ วานนี้ (1 ก.ค.) ว่า ได้มอบนโยบายให้ ธอส.ช่วยเหลือแบ่งเบาภาระลูกหนี้ของ ธอส. ด้วยการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระ หรืองวดการชำระหนี้ จากเดิม 60-70 ปี เป็น 80-85 ปี เพื่อแบ่งเบาภาระประชาชน ให้มีเงินจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกหนี้เสีย (เอ็นพีแอล) และกลุ่มลูกหนี้ที่ต้องจับตาเป็นพิเศษ ซึ่งจะช่วยให้ความสามารถในการผ่อนชำระหนี้มากขึ้น

“การขยายระยะเวลาการผ่อนชำระหนี้ครั้งนี้ เป็นการช่วยเหลือคนไทย ที่มีรายได้น้อย แต่ต้องการรักษาบ้านไว้ ให้สามารถผ่อนได้นาน 80 ปี ซึ่งยังน้อยกว่าหลายประเทศ เพราะมีบางประเทศให้ผ่อนนานถึง 100 ปี เพราะทุกวันนี้ประชาชนรายได้ไม่พอจ่าย จากการมีภาระผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ผ่อนบัตรเครดิต หากยืดผ่อนชำระหนี้ได้ ก็จะทำให้มีเงินใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม เมื่อมีหนี้ก็ต้องชำระหนี้ เพราะไม่ทางที่หนี้จะลดลงได้ และไม่เสียวินัยการเงินด้วย”

นอกจากนี้ ยังมอบนโยบายให้ ธอส.ออกมาตรการกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ด้วยการให้ ธอส.ขยายวงเงินการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยตั้งแต่5-10 ล้านบาทขึ้นไป จากเดิมที่ ธอส.เน้นปล่อยลูกหนี้รายย่อย วงเงินกู้ไม่ถึง 3 ล้านบาท โดยปัจจุบัน ธอส.ปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยทั้งระบบ 5 ล้านล้านบาท เมื่อเทียบกับขนาดเศรษฐกิจไทยที่มีมูลค่า 19 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 30% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) หาก ธอส.ขยายวงเงินปล่อยสินเชื่อ จะทำให้พอร์ตการปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพิ่มเป็น 50% ของจีดีพี ครอบคลุมการมีที่อยู่อาศัยของประชาชนมากยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน ยังให้ ธอส.พิจารณาอัตราดอกเบี้ยสำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในอัตราที่เหมาะสม เช่น ดอกเบี้ยต่ำ โดยไม่คิดดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนถึง 1 ปี หรืออัตราดอกเบี้ยคงที่ในระยะเวลายาวขึ้น จากปัจจุบัน 1-3 ปี หรือปรับเงื่อนไขการชำระหนี้ให้ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น สำหรับงานมหกรรมแก้ไขหนี้และไกล่เกลี่ยภาคครัวเรือน ที่ ธอส.ร่วมกับสำนักงานศาลยุติธรรม เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกค้ากลุ่มเฝ้าระวังเป็นพิเศษ และกลุ่มเอ็นพีแอลมาเจรจากับ ธอส. โดยมีเจ้าหน้าที่ศาลเป็นคนกลางไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ เพื่อทำให้คนไทยรักษาบ้านไว้ได้ล่าสุดมีผู้สมัครแล้ว 40,000 ราย

ด้านนายกมลภพ วีระพละ กรรมการผู้จัดการธอส. กล่าวว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ธอส.เตรียมวงเงินปล่อยสินเชื่อที่อยู่อาศัย 170,000 ล้านบาท โดยจะเน้นการปล่อยสินเชื่อให้กลุ่มผู้มีรายได้น้อยเป็นหลัก ส่วนกลุ่มราคาที่อยู่อาศัย 5-1 0 ล้านบาทขึ้นไป ได้แบ่งวงเงินไว้แล้ว 2,000 ล้านบาท จากวงเงินทั้งหมด โดยปีนี้ ธอส.ตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อใหม่ 250,000 ล้านบาท และล่าสุดช่วง 6 เดือนปีนี้ ปล่อยสินเชื่อแล้ว 90,000 ล้านบาท และเตรียมอนุมัติสินเชื่อจากโครงการ Happy Home อีก 10,000 ล้านบาท

สำหรับการขยายเวลาชำระหนี้เป็น 80 ปี สำหรับ ประชาชนทั่วไป และเป็น 85 ปี สำหรับข้าราชการและรัฐวิสาหกิจนั้น ลูกค้า ธอส.สามารถเข้ามาติดต่อได้ ที่สาขาทั่วประเทศเพื่อเข้าร่วมโครงการ หากมีการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระแล้ว จะทำให้ค่างวดลดลง ยกตัวอย่าง วงเงินกู้ 1 ล้านบาท จากเดิมผ่อนชำระ 4,100 บาทต่องวด จะลดลงไปอีก 500-2,000 บาทต่องวด ซึ่งเม็ดเงินที่ลดลงทำให้ประชาชนมีเงินนำไปจับจ่ายใช้สอยในชีวิตประจำวันได้

“การขยายระยะเวลาชำระหนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนี้เสียลดลงได้ ปัจจุบัน ธอส.มีเอ็นพีแอล 5.7% ของสินเชื่อรวม และจะทำให้ ลดลงไม่เกิน 5% ส่วนสินเชื่อที่อยู่อาศัยปล่อยใหม่ จากนี้ไปไตรมาสละ 50,000-70,000 ล้านบาท อย่างไร ก็ตาม ธอส.ยังไม่รับรี ไฟแนนซ์จากธนาคาร อื่นๆ เพราะต้องการช่วย เหลือและดูแลลูกหนี้ของ ธอส.ก่อน”.

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่