หนี้ 15,000 บาทผ่อนกว่าจะหมด 18 ปี

สัปดาห์ที่ผ่านมา แบงก์ชาติ ได้ออกมารายงานสถานการณ์หนี้ครัวเรือนของไทย สัดส่วนหนี้ครัวเรือนไทยต่อผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ตัวเลขล่าสุดไตรมาส 4 ของปีที่ผ่านมา อยู่ที่ 91.3% และคาดว่า ด้วยฐานของจีดีพีที่มากขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ สัดส่วนหนี้ครัวเรือนในไตรมาสแรกปีนี้จะต่ำลง

แต่ทั้งนี้ เป็นการลดของสัดส่วนหนี้เมื่อเทียบกับจีดีพีเท่านั้น ตัวเลขมูลค่ารวมของหนี้ครัวเรือนไม่ได้ลดลงตามด้วยแต่ประการใด นอกจากนั้น ที่น่าเป็นห่วงคือเริ่มเห็นหนี้เสียอยู่ในขาขึ้น โดยเฉพาะหนี้อุปโภคบริโภครายย่อย ที่มีรายได้ 15,000-20,000 บาทต่อเดือนและสินเชื่อบ้านที่มีมูลค่า 3 ล้านบาทมากขึ้น

ในฝั่งของธนาคารพาณิชย์ “กฤษณ์ จันทโนทก” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ ยังได้ออกมาเตือนถึงปัญหาเศรษฐกิจในปัจจุบัน ซึ่งเดิมเราพบว่า คนที่มีรายได้น้อย ครัวเรือนละ 20,000-30,000 บาท ซึ่งเป็นกลุ่มที่เหนื่อยหนักมาก และล่าสุดแบงก์เริ่มเห็นสัญญาณของครัวเรือนที่มีรายได้ 60,000 บาท ที่จะเหนื่อยมากตามมา

ขณะที่ลูกหนี้อีกกลุ่มหนึ่งที่ “แบงก์ชาติ” เป็นห่วง และออกมาตรการมาเพื่อช่วยลดภาระการผ่อนส่งหนี้ คือ ลูกหนี้ที่เข้าข่ายเป็นหนี้เรื้อรัง หนี้ที่ผ่อนเท่าไรก็ไม่ยอมหมด เพราะเงินส่วนใหญ่ไปตัดดอกเบี้ยแต่ไม่ได้ตัดเงินต้น

โดยแบงก์ชาติยกตัวอย่างลูกหนี้บัตรกดเงินสดรายหนึ่ง ซึ่งมีเงินหมุนเวียนในบัตร 15,000 บาท โดยลูกหนี้ผ่อนขั้นต่ำ 3% ของยอดหนี้ต่อเดือน โดยเงินที่ผ่อนมานั้น ตัดดอกเบี้ยไป 2.1% ตัดเงินต้นเพียง 0.9% ผ่อนมา 5 ปี จ่ายดอกเบี้ยไปแล้ว 15,000 บาท ตัดเงินต้นไป 6,300 บาท ยังเหลือเงินต้นอีก 8,700 บาท

และหากลูกหนี้รายนี้จะสู้ต่อด้วยการผ่อนต่อไปด้วยอัตราเท่าเดิม ด้วยดอกเบี้ย 25% ต่อปีเหมือนเดิม จะต้องใช้เวลาผ่อนอีก 13 ปี 5 เดือน จ่ายดอกเบี้ยเพิ่มอีก 14,000 บาท เพื่อจบต้นที่เหลือ 8,700 บาท โดยสรุปคือ จ่ายต้นหนี้ 15,000 บาท จ่ายดอกเบี้ย 29,000 บาท ด้วยเวลาทั้งหมด 18 ปี 3 เดือน

แบงก์ชาติจึงอยากให้ปรับจากสินเชื่อหมุนเวียน หรือบัตรกดเงินสด มาเป็นสินเชื่อมีระยะเวลา โดยในกรณีข้างต้น หากลูกหนี้ปรับมาเป็นหนี้ปกติ ปรับดอกเบี้ยลดลงเป็น 15% โดยลูกหนี้ขยับขึ้นมาจ่ายเงิน เดือนละ 260 บาท จะสามารถจบหนี้ที่เหลือ 8,700 บาท ได้ภายใน 3 ปี 6 เดือนข้างหน้า โดยจ่ายดอกเบี้ยเพิ่ม 2,500 บาทเท่านั้น หรือรวมทั้งโครงการ จ่ายเงินต้น 15,000 บาท ดอกเบี้ย 17,500 บาท จบภายใน 8 ปี 6 เดือน

กรณีผ่อนหนี้แบบนี้มีจริงๆในประเทศไทย หลายคนผ่อนหนี้จบไปแล้วอย่างยากลำบาก และหลายคนกำลังประสบปัญหากับตัวเอง แต่สิ่งหนึ่งที่แบงก์ชาติแปลกใจคือเมื่อออกโครงการแก้หนี้เรื้อรังไป ลูกหนี้กลับให้ความสนใจน้อย ส่วนหนึ่งอาจจะเพราะไม่เข้าใจ และอีกส่วนอาจจะอยู่ในสภาพที่ขยับเพดานการผ่อนขึ้นมาไม่ได้จริงๆ

การเพิ่มรายได้หลัก หรือมีช่องทางหารายได้เสริม จึงเป็นทางตรงทางเดียวในการแก้หนี้ และสำหรับคนที่มีปัญหาหนี้เรื้อรัง แต่คิดว่าตัวเองคงแก้ไม่ได้ ไม่มีเงินส่งเพิ่ม อย่าเพิ่งท้อใจ ลองคุยกับแบงก์ชาติ ที่สายด่วน 1213 กด 99 ก่อน อาจจะมีทางออกที่ดีกว่าก็เป็นได้.

มิสเตอร์พี

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่