นายอภินันท์ เกลียวปฏินนท์ ซีอีโอธนาคารเกียรตินาคินภัทร เปิดเผยว่า แนวโน้มผลดำเนินงานไตรมาส 2 จะทรงตัวจากไตรมาส 1 ที่ธนาคารมีกำไรสุทธิที่ 1,506 ล้านบาท ซึ่งธนาคารพิจารณาปล่อยสินเชื่อเข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย เนื่องจากเศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัว และหนี้ครัวเรือนสูง เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัยได้หันมาเน้นกลุ่มที่มีความสามารถซื้อบ้านราคาเกิน 5-7 ล้านบาท ขึ้นไป ปัจจุบันมีสินเชื่อรายย่อย อยู่ที่ 60,000 ล้านบาท คิดเป็น 15% ของพอร์ตสินเชื่อรวมของธนาคารที่มีอยู่ 400,000 ล้านบาท
โดยการมาเจาะลูกค้ากลุ่มบนมาก แม้มีการแข่งขันด้านราคาและดอกเบี้ยสูง แต่เป็นการแข่งขันบนอัตราดอกเบี้ยลอยตัว ดังนั้นแม้แข่งขันสูง ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไม่มาก แต่ไม่ขาดทุน “ยอมรับว่าขณะนี้แบงก์อยู่ในโหมดหลบภัย ไม่เน้นกำไรโตมาก ตอนนี้แบงก์เข้มทุกสินเชื่อ ยกเว้นสินเชื่อที่ยังแข็งแรงอยู่ เช่น กลุ่มบน บริษัทขนาดใหญ่ที่ยังไปได้ แต่หากเป็นบริษัทขนาดกลางยังต้องระวัง โดยเฉพาะการชำระคืนหุ้นกู้ ส่วนภาพรวมสินเชื่อเอสเอ็มอียังมีความเปราะบางมากกว่าบริษัทใหญ่ และส่วนใหญ่เอสเอ็มอีไม่มีหลักประกันที่รักษามูลค่าได้ ขณะที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ คาดว่าจะทรงตัว.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่