เชื่อว่ามนุษย์เงินเดือนหลายคน เริ่มวางแผนการเกษียณของตนเองกันแล้ว เพื่อให้ชีวิตบั้นปลายอยู่ดี-มีสุข และไม่เป็นภาระของลูกหลาน ซึ่งนอกจากเงินเก็บรายเดือนที่เราเก็บหอมรอมริบกันมาตั้งแต่วัยหนุ่ม-สาวแล้ว คำถามที่ส่วนใหญ่ อยากรู้กันก็คือ เมื่อเราเกษียณแล้ว จะได้เงินคืนจากประกันสังคมเป็นจำนวนเท่าไร ซึ่งนับเป็นสิทธิประโยชน์ที่พึงจะได้รับในยามวัยเกษียณ ซึ่งเรียกโดยรวม ว่า “เงินชราภาพ” นั่นเอง
ข้อมูลจาก บมจ.ธรรมนิติ บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจชื่อดัง สรุปรายละเอียด “เงินชราภาพ” ไว้ดังนี้
เงินชราภาพ ใครบ้าง? มีสิทธิได้
- ผู้ประกันตน ตามมาตรา 33 / มาตรา 39 อายุ 55 ปีบริบูรณ์ สิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน หรือเสียชีวิต หรือสิ้นสภาพการเป็นลูกจ้าง
- ผู้ประกันตน ตามมาตรา 40 อายุ 60 ปีบริบูรณ์ แจ้งสิ้นสุดการเป็นผู้ประกันตน หรือเสียชีวิต
ซึ่งกรณีผู้ประกันตนได้เสียชีวิต ตามกฎหมายสามารถให้ บุตร / บุตรบุญธรรมที่ชอบด้วยกฎหมาย / สามี-ภริยา ที่ชอบด้วยกฎหมาย / บิดา-มารดา ที่มีชีวิตอยู่ / บุคคลที่ผู้ประกันตนได้ทำหนังสือระบุชื่อไว้ เป็นผู้รับเงินได้
ประเภทของเงินชราภาพ
แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
เงินบำเหน็จ : บำเหน็จจ่ายให้ครั้งเดียว
- ข้อดี ได้เงินก้อนใหญ่มาเลยทีเดียว เหมาะกับคนที่ต้องการใช้เงินก้อน
- ข้อเสีย จะได้บำเหน็จน้อยกว่าบำนาญ และมีโอกาสที่จะใช้เงินหมดก่อน หากอายุยืนอาจไม่มีเงินเพียงพอใช้ในบั้นปลายชีวิต
เงินบำนาญ : จ่ายรายเดือนตลอดชีวิต
- ข้อดี ได้เงินมากกว่าและมีเงินใช้รายเดือนไปจนเสียชีวิต
- ข้อเสีย ไม่มีเงินก้อนสำหรับการลงทุน หากมีความต้องการ
- หากผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบน้อยกว่า 180 เดือน จะได้รับ “เงินบำเหน็จ”
- ส่วนผู้ประกันตนที่จ่ายเงินสมทบตั้งแต่ 180 เดือน (15 ปี) ขึ้นไป จะได้รับ “เงินบำนาญ” ที่ประกันสังคมจ่ายให้เป็นรายเดือนตลอดชีวิต
ยื่นขอรับเงินชราภาพอย่างไร?
เอกสารหลักฐานที่สำคัญ : กรณีผู้ประกันตนยื่นขอรับเงินด้วยตนเอง
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กองทุนประกันสังคม (สปส.2-01) (กรณีมาตรา 33, 39)
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กองทุนประกันสังคม (สปส. 2-01 / ม.40) (กรณีมาตรา 40)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร)
- บัตรประจำตัวประชาชน (ฉบับจริง)
เอกสารหลักฐานที่สำคัญ : กรณีทายาทยื่นขอรับแทน
- แบบคำขอรับประโยชน์ทดแทน กองทุนประกันสังคม (สปส.2-01) หรือ สปส. 2-01 / ม.40 (ฉบับจริง 1 ฉบับ)
- สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารประเภทออมทรัพย์ หน้าแรกที่มีชื่อและเลขที่บัญชีของผู้ประกันตน (กรณีขอรับเงินทางธนาคาร)
- ใบมรณบัตร (ฉบับจริงพร้อมสำเนา 1 ฉบับ)
- สูติบัตรของบุตร (สำเนา 1 ฉบับ)
- บัตรประจำตัวประชาชน พร้อมทะเบียนบ้านของผู้มีสิทธิรับเงิน (สำเนาอย่างละ 1 ฉบับ)
วิธียื่นขอรับเงินชราภาพ
- สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานคร พื้นที่ 1-12 หรือสำนักงานประกันสังคมจังหวัดและสาขาทั่วประเทศ
- ระบบการเบิกจ่ายประโยชน์ทดแทนด้วยตนเองของผู้ประกันตน ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เว็บไซต์ www.sso.go.th
- ลงทะเบียน พร้อมเพย์ กับบัญชีเงินฝากธนาคาร
สิทธิประโยชน์ทางภาษีของวัยเกษียณ
- ยกเว้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ ที่มีระยะเวลาการฝากตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป ไม่เกิน 30,000 บาทต่อปีภาษี
- ยกเว้นเงิน / ผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เมื่อออกจากงาน (เป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 5 ปีติดต่อกัน)
- ยกเว้นบำเหน็จ / บำนาญ กรณีชราภาพ ที่ได้รับจากกองทุนประกันสังคม
- ยกเว้นเงิน หรือผลประโยชน์ที่ได้รับ จากกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ เมื่ออายุครบ 60 ปี หรือลาออก เมื่ออายุครบ 50 ปีบริบูรณ์
- ยกเว้นบำเหน็จดำรงชีพ ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จ บำนาญ ข้าราชการ และกฎหมายว่าด้วยกองทุนบำเหน็จ บำนาญ ข้าราชการ
- ยกเว้นเงินได้ทุกประเภท ที่มีผู้มีเงินได้ซึ่งเป็นผู้อยู่ในประเทศไทยได้รับ เฉพาะ ส่วนที่ไม่เกิน 1.9 แสนบาทในปีภาษี
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ Thairath Money ได้ที่