ผู้สื่อข่าวรายงานว่า Krungthai COMPASS ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจของธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ออกรายงานโดยประเมินว่า จากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน มี.ค. ติดลบที่ -0.47% จากระยะเดียวกันของปีก่อน จากราคาอาหารสดหดตัวตามราคาเนื้อสุกรที่ปรับลดลง และราคาพลังงานซึ่งหดตัวตามราคาน้ำมันดีเซลและค่ากระแสไฟฟ้าที่อยู่ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน จากมาตรการช่วยเหลือค่าครองชีพของภาครัฐ
ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานแตะ 0.37% จากระยะเดียวกันของปีก่อน ชะลอจากเดือนก่อนที่ 0.43% และอัตราเงินเฟ้อทั้งปีมีแนวโน้มอยู่ในระดับต่ำ จะหนุนให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายในปีนี้ลง 2 ครั้งติดต่อกัน สู่ระดับ 2.0%
โดยแม้อัตราเงินเฟ้อในระยะข้างมีแนวโน้มกลับมาเป็นบวกในไตรมาสที่ 2 แต่คาดว่าทั้งปีเงินเฟ้อเฉลี่ยจะอยู่ต่ำกว่า 1% ขณะที่ปัจจัยเสี่ยงกดดันให้เงินเฟ้อเร่งตัวสูงยังมีน้อย % ทั้งนี้ Krungthai COMPASS ประเมินเศรษฐกิจปีนี้ขยายตัว 2.7% ต่ำกว่า 3% ซึ่งเคยเป็นระดับศักยภาพในอดีต สะท้อนถึงเศรษฐกิจไทยมีความอ่อนแอและต้องการนโยบายที่ผ่อนคลายมากขึ้น
ดังนั้น ภายใต้ภาวะเงินเฟ้อที่อยู่ในระดับต่ำ อาจเป็นปัจจัยหนุนให้ กนง.ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อประคองเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า สอดคล้องกับวัฏจักรดอกเบี้ยขาลงในอดีต ซึ่ง ธปท.จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเมื่ออัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ โดยคาดว่า กนง.จะปรับลดดอกเบี้ยในการประชุมวันที่ 10 เม.ย.67 ที่จะถึงนี้ และวันที่ 12 มิ.ย.67 ครั้งละ 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายลดสู่ระดับ 2.0% ต่อปี.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่