คงไม่มีอะไร ทำให้เราที่ทำงานหนักมาตลอดทั้งปี หายเหนื่อยได้ นอกจาก “เงินโบนัส” ก้อนใหญ่ ที่บริษัท หรือเจ้าของกิจการมอบให้ ในแต่ละปี มากน้อย ตามแต่ผลประกอบการของช่วงเวลานั้นๆ กำไรมาก โบนัสก็มากตาม
ในทางกลับกัน ผลประกอบการไม่ดี กำไรน้อย เรื่อยไปจนถึง “ขาดทุน” ก็อาจต้องกินแห้วไปตามๆ กัน ทั้งนี้ การจ่ายโบนัส ยังมักขึ้นอยู่กับการทำงานและการปฏิบัติตน ในฐานะพนักงานคนหนึ่งของบริษัทด้วย
อย่างไรก็ตาม ในบทความนี้ อยากนำเสนอว่าด้วยเรื่อง “เงินโบนัส” ที่ได้มาปีละครั้ง บ้างได้รับการแบ่งจ่ายเป็น 2 ครั้งต่อปี แล้วแต่นโยบายของแต่ละบริษัท แต่นับเป็นเงินพิเศษ ก้อนใหญ่ ที่หลายคนเลือกนำไปเปย์ตนเอง ใช้จ่ายให้รางวัลกับชีวิต เป็นลำดับแรก แต่จะดีกว่าไหม? ถ้าแปลงสภาพ “เงินโบนัส” มาช่วยเสริมสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีให้เราได้ ทั้งในระยะสั้น และในระยะยาว
ข้อมูลแนะนำจาก หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย ระบุว่า แม้การเก็บให้เงินโบนัสอยู่กับตัว หรือใช้ประโยชน์ได้ เป็นเรื่องไม่ง่าย แต่เราสามารถจัดสรรได้ ด้วย 4 เทคนิค ดังนี้
เพื่อสร้างความมั่งคั่งทางการเงิน เป็นการต่อยอดเงินผ่านการลงทุนตามเป้าหมายที่เราต้องการ โดยอาจเลือกลงทุนผ่านกองทุนรวม เช่น กองทุนลดหย่อนภาษี SSF, RMF หรือ ThaiESG
เนื่องจากดอกเบี้ยเดินอยู่ทุกวัน การลดเงินต้น จึงเป็นส่วนสำคัญ ดังนั้นเราควรใช้เงินโบนัสบางส่วน ไปปิดหนี้หรือทยอยลดเงินต้นให้ได้มากที่สุด
เงินส่วนนี้เพื่อสร้างความอุ่นใจ และเสริมสภาพคล่องทางการเงินให้พร้อมสำหรับรองรับกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นมาแบบไม่คาดคิด โดยสัดส่วนจะขึ้นอยู่กับค่าใช้จ่ายที่เหลือจากส่วนที่ 2 (โปะหนี้)
เงินส่วนนี้เพื่อเป็นการเติมพลังให้กับชีวิตและสภาพจิตใจ ให้มีกำลังใจในการทำงาน หรือเพื่อกระชับความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
ขณะเดียวกัน หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย ยังแนะว่า แม้ต่อให้เราไม่มีเงินโบนัส เราก็ควรแบ่งเงินขั้นต่ำ 10% สำหรับไว้ลงทุนในทุกๆ เดือน เพื่อเป็นการต่อยอดความมั่งคั่งทางการเงิน และสร้างวินัยต่อการมีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีในอนาคตได้
ที่มา : หลักทรัพย์จัดการกองทุนกสิกรไทย
อ่านข่าวหุ้น และการลงทุน กับ Thairath Money ได้ที่
ติดตามเพจ Facebook : Thairath Money ได้ที่ลิงก์นี้ https://www.facebook.com/ThairathMoney