นายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทยปี 2567 โดยการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทยในกรณีฐานของธนาคารประเมินว่า ปีนี้จะอยู่ที่ 3.1% และหากรวมโครงการดิจิทัลวอลเล็ตการเติบโตของเศรษฐกิจจะอยู่ที่ 3.6% จากปี 2566 ที่คาดจีดีพีไทยเติบโตอยู่ที่ 2.5% อย่างไรก็ตามตลาดเห็นโอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะเข้าสู่ภาวะถดถอยเพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 15%
“เศรษฐกิจเราโตช้าในรอบ 10 กว่าปีที่ผ่านมา ถ้าเปรียบเทียบกับเศรษฐกิจประเทศอื่น สิ่งที่เราขาดคือการลงทุนภาคเอกชน หากเรามีแค่มาตรการมากระตุ้นก็คงช่วยได้แค่ในระยะสั้น เราต้องปรับโครงสร้างเพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ซึ่งเห็นได้จากปีก่อนต่างชาติขายหุ้นไทยต่อเนื่อง เพราะการลงทุนเอกชนลดลง ซึ่งการลงทุนเอกชนคิดเป็น 18% ต่อจีดีพี ส่วนกำไรต่อหุ้นโตอยู่ที่ 6.7% ก็ถือว่าต่ำเมื่อเทียบกับอดีต และเพื่อนบ้าน เพราะฉะนั้น การปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ”
สำหรับเศรษฐกิจโลกยังเผชิญกับความท้าทายมากมาย ทั้งความไม่แน่นอนจากนโยบายดอกเบี้ยในธนาคารกลางต่างๆทั่วโลก ปัญหาเงินเฟ้อ และความขัดแย้งในหลายๆประเทศ โดยเฉพาะความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯกับจีนส่งผลกระทบต่อการค้าโลก รวมไปถึงจีนที่เจอปัญหาโครงสร้างทางเศรษฐกิจ และทำให้เศรษฐกิจจีนอ่อนแอ
นายกอบสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ดุลบัญชีเดินสะพัดปีนี้จะฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยประเทศไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัดไม่เกิน 40,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯมาเป็นเวลานานแล้ว ซึ่งในขณะนั้นทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีการออกมาตรการสกัดไม่ให้เงินบาทแข็งค่าจนเกินไป แต่จากการที่ ธปท. มองว่าดอกเบี้ยในปัจจุบันอยู่ในระดับที่เหมาะสม ทำให้ตลาดคาดว่า ใน 1 ปีดอกเบี้ยจะทรงตัว และไม่เปลี่ยนการคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยจะลงได้ลึก.
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่