ดีเดย์ กรมสรรพากร เปิดให้ยื่น “ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ปี 2566” แล้ว ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 2567 ที่ผ่านมา
- การยื่นภาษีด้วยตนเองแบบกระดาษ ที่สำนักงานสรรพากร จะเปิดให้ยื่นได้ถึงวันที่ 31 มี.ค. 2567
- การยื่นภาษีเงินได้แบบออนไลน์ ที่ www.rd.go.th จะเปิดถึงวันที่ 8 เม.ย. 2567
ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา คือ ผู้ที่มีเงินได้เกิดขึ้นระหว่างปีที่ผ่านมา โดยมีสถานะอย่างหนึ่งอย่างใด ดังนี้
- บุคคลธรรมดา
- ห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
- ผู้ถึงแก่ความตายระหว่างปีภาษี
- กองมรดกที่ยังไม่ได้แบ่ง
- วิสาหกิจชุมชน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เฉพาะที่เป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล
สำหรับบุคคลธรรมดา มีแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา 2 แบบ ได้แก่
1. แบบ ภ.ง.ด.90 คือ ผู้ที่มีรายได้นอกเหนือจากเงินเดือนที่ได้รับ เช่น ค้าขายแบบบุคคลธรรมดา เงินปันผล หรืออื่นๆ
2. แบบ ภ.ง.ด.91 คือ ผู้ที่มีรายได้เป็นเงินเดือนโดยไม่มีรายได้เสริมจากแหล่งงาน หรือรายได้อื่น เช่น พนักงานบริษัทที่รับเงินค่าจ้างเพียงอย่างเดียว
ทั้งนี้ หากเรามีเงินได้สุทธิต่อปี ไม่เกิน 150,000 บาท จะได้รับการยกเว้นทางภาษีตามกฎหมาย ขณะรายได้มากกว่า 150,000 บาทต่อปี มีอัตราการเสียภาษีแตกต่างกันออกไป
ตารางการเสียภาษี ตามฐานเงินเดือน (รายรับต่อปี)
- 150,000-300,000 บาท จะเสียภาษี 5%
- 300,001-500,000 บาท จะเสียภาษี 10%
- 500,001-750,000 บาท จะเสียภาษี 15%
- 750,001-1,000,000 บาท จะเสียภาษี 20%
- 1,000,001-2,000,000 บาท จะเสียภาษี 25%
- 2,000,001-5,000,000 บาท จะเสียภาษี 30%
- 5,000,001 ขึ้นไป จะเสียภาษี 35%
6 เรื่อง ห้ามลืม “ยื่นภาษี 2566”
ซึ่งสิ่งที่ควรรู้นอกจากเอกสารยื่นภาษีมีอะไรบ้าง และการยื่นภาษีมีขั้นตอนอย่างไร? สิทธิลดหย่อนภาษี ก็เป็นสิ่งที่ห้ามลืมกรอกแบบฟอร์มการยื่นจ่ายภาษีเช่นกัน ดังรายละเอียดทั้งหมดต่อไปนี้
1. เตรียมเอกสารสำหรับการยื่นภาษี
- หนังสือรับรองภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย (ใบ 50 ทวิ)
- รายการลดหย่อนภาษีที่รวบรวมทั้งปี เช่น ค่าเลี้ยงดูบุตร, ค่าเลี้ยงดูบิดามารดา
- เอกสารประกอบการลดหย่อนภาษี เพื่อกรอกแบบฟอร์มการยื่นภาษี
2. ดอกเบี้ยบ้าน นำมาลดหย่อนภาษีอย่างไร?
- รายจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้บ้านในรอบปี 2566 สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 100,000 บาท
- กรณีที่ซื้อแบบกู้ร่วม สิทธิลดหย่อนภาษีจะเฉลี่ยตามจำนวนคนกู้ร่วม
- ต้องใช้เอกสารรับรองการจ่ายดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ที่เจ้าหนี้ออกให้เป็นหลักฐาน
3. โครงการช้อปดีมีคืน ปี 2566 นำมาลดหย่อนภาษีได้
การซื้อสินค้า-บริการ ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2566 - 15 ก.พ. 2566 ตามนโยบายช้อปดีมีคืนของรัฐบาล สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ไม่เกิน 40,000 บาท แบ่งเป็น
- 30,000 บาท (ต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ กระดาษ หรืออิเล็กทรอนิกส์ เป็นหลักฐาน)
- 10,000 บาท (ต้องมีใบกำกับภาษีเต็มรูปแบบ แบบอิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น)
4. เงินบริจาค นำมาลดหย่อนภาษีได้
- เงินบริจาคทั่วไป ลดหย่อนได้ตามที่จ่ายจริง แต่สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้ หลังจากหักลดหย่อนภาษีแล้ว
- เงินบริจาค เพื่อการศึกษา การกีฬา การพัฒนาสังคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ และบริจาคเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ ลดหย่อนได้ 2 เท่าของเงินบริจาคจริง สูงสุดไม่เกิน 10% ของเงินได้ หลังจากหักค่าลดหย่อนภาษี
- เงินบริจาคให้กับพรรคการเมือง ลดหย่อนภาษีได้สูงสุดไม่เกิน 10,000 บาท
5. เงินจ่ายเบี้ยประกันให้พ่อแม่ นำมาลดหย่อนภาษีได้
- เบี้ยประกัน ลดหย่อนได้ไม่เกิน 15,000 บาท
- พ่อแม่ จะต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท แต่ไม่จำเป็นต้องมีอายุ 60 ปีขึ้นไป
6. ค่าใช้จ่ายเลี้ยงดูพ่อแม่ นำมาลดหย่อนภาษีได้
- จำนวนคนละ 30,000 บาท สูงสุดไม่เกิน 4 คน
- พ่อแม่จะต้องมีรายได้ต่อปีไม่เกิน 30,000 บาท และมีอายุมากกว่า 60 ปี
- พี่น้องใช้สิทธิลดหย่อนซ้ำซ้อนกันไม่ได้
ติดตามข้อมูลด้านเศรษฐกิจและนโยบายรัฐบาล กับ ThairathMoney ได้ที่