การดำเนินธุรกิจในประเทศมานานกว่า 20 ปี เป็นเส้นทางที่ท้าทายและไม่เคยหยุดนิ่งสำหรับ “ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย”
Thairath Money สัมภาษณ์พิเศษ “วีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล” กรรมการผู้จัดการ Retail and Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กับเป้าหมาย The Most Preferred Retail Bank ในประเทศไทยและอาเซียน
“วีระอนงค์” เริ่มต้นสนทนาโดยเล่าถึงการทำกิจการในประเทศไทยของยูโอบี ว่า เริ่มตั้งแต่ครั้งที่ธนาคารยูโอบี สิงคโปร์เข้าซื้อกิจการของธนาคารรัตนสิน ในปี 2542 และ เข้าซื้อธนาคารเอเชียในปี 2547 และต่อมาจัดตั้งขึ้นเป็นธนาคารยูโอบี ประเทศไทย ในปี 2548
ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นธนาคารต่างประเทศที่ดำเนินการเป็นธนาคารพาณิชย์อย่างเต็มรูปแบบที่ใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศไทย
และหลังจากการเข้าซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยจากซิตี้ (Citi) ปัจจุบันธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เป็นอันดับสองของกลุ่มธนาคารยูโอบี
อีกก้าวย่างสำคัญที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา คือ หลังการเข้าซื้อกิจการลูกค้ารายย่อยจาก Citi ส่งผลให้ธนาคารยูโอบีขยายเครือข่ายพันธมิตร ร้านค้า แบรนด์ต่างๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ และช่วยเพิ่มฐานลูกค้ารายย่อยของธนาคารยูโอบีในประเทศไทยเป็น 2.4 ล้านราย
ทำให้ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยติดอันดับ 6 ในธนาคารลูกค้ารายย่อย และเป็น 3 อันดับแรกสำหรับธุรกิจบัตรเครดิต
กรรมการผู้จัดการ Retail and Brand ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เล่าถึงกลยุทธ์เพื่อเดินหน้าสู่เส้นทาง The Most Preferred Retail Bank ด้วยว่า หลังการเข้าซื้อกิจการเสร็จสมบูรณ์ ธนาคารยูโอบีมุ่งมั่นบริหารจัดการหน้าบ้านและหลังบ้าน สร้างระบบและกระบวนการทำงาน ตลอดจนผลิตภัณฑ์, บริการ, ประสบการณ์การใช้งานประสานเข้าด้วยกันอย่างราบรื่นไม่สะดุด
เธอย้ำว่า ลูกค้าสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ซิตี้แบงก์ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องทำอะไร เคยใช้ช่องทางไหน ระบบ หรือแอปพลิเคชันใด ก็ใช้ต่อได้เลย จนกว่าการรวมระบบจะเสร็จสมบูรณ์ ประมาณสิ้นเมษายน 2567
นอกจากนี้ ธนาคารยูโอบียังมุ่งหวังสร้างอนาคตของภูมิภาคอาเซียนร่วมกับพันธมิตรของธนาคาร ด้วยสิทธิประโยชน์ที่ครอบคลุมทั้งภูมิภาคอาเซียน เพื่อทำให้ธนาคารยูโอบี แตกต่างจากธนาคารอื่นๆ ในประเทศ และทำให้ยูโอบีเป็นธนาคารสำหรับอาเซียนอย่างแท้จริง โดยร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำระดับโลก อาทิ สายการบินสิงคโปร์ มิชลิน ไกด์ Robert Parker ทีมนักวิจารณ์ไวน์ผู้ทรงอิทธิพลของโลก และแบรนด์ Paul Smith รวมถึงพันธมิตรกว่า 40 รายในหมวดหมู่ต่างๆ ทั้งท่องเที่ยว ร้านอาหาร และช็อปปิ้ง เพื่อมอบสิทธิประโยชน์มากกว่า 1,000 ดีล สำหรับผู้ถือบัตรยูโอบีโดยเฉพาะ
พร้อมยกตัวอย่างเมื่อปี 2565 ที่ผ่านมา ยูโอบีสร้างปรากฏการณ์สิทธิประโยชน์ระดับภูมิภาคที่โดดเด่น และเป็นที่พูดถึงของผู้บริโภคในระดับอาเซียน ได้แก่การเป็นผู้สนับสนุนคอนเสิร์ตระดับภูมิภาคของ Taylor Swift The Eras Tour ในสิงคโปร์และ Ed Sheeran: + – = ÷ × (Mathematic) ทัวร์ในสิงคโปร์ ไทย มาเลเซีย และอินโดนีเซีย โดยผู้ถือบัตรเครดิต/เดบิตของธนาคารสามารถเพลิดเพลินไปกับสิทธิพิเศษก่อนใครกับการพรีเซลบัตรคอนเสิร์ต
หลังจากการประกาศขายบัตรพรีเซลของ Taylor Swift : The Eras Tour ในสิงคโปร์และ Ed Sheeran: + – = ÷ × (Mathematic) Tour พบว่าปริมาณการสมัครบัตรเพิ่มขึ้นอย่างมากในประเทศไทย โดยจากข้อมูลของ UOB พบว่าการสมัครบัตรเครดิตและเดบิตยูโอบีโดยเฉลี่ยรายวันในช่วงหนึ่งสัปดาห์ก่อนขายบัตร Pre Sales ของ Taylor Swift และ Ed Sheeran เพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้าในเดือนนั้นๆ โดยมีการสมัครบัตรเดบิตในไทยเพิ่มขึ้นถึง 145%
อีกทั้งกิจกรรมนี้ ทำให้ธนาคารเข้าถึงคนรุ่นใหม่มากขึ้น สำหรับบัตรเครดิตที่ได้รับการอนุมัติในช่วงเดือนมิถุนายน-ตุลาคม ปี 2566 เป็นลูกค้าที่เป็น Gen Y อายุ 30-40 ปี คิดเป็น 3 ใน 5 ของจำนวนผู้สมัครทั้งหมด และบัตรเครดิต UOB Premier ก็ติดอันดับสูงสุดในบรรดาบัตรเครดิตที่ออกในช่วงเวลานี้เช่นกัน
ด้วยเป้าหมายมุ่งสู่ The Most Preferred Retail Bank ในประเทศไทยและอาเซียน “วีระอนงค์” เล่าต่อว่า ยูโอบีต้องการให้ธนาคารเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของลูกค้า ไม่ว่าลูกค้าจะมีไลฟ์สไตล์อย่างไร
ล่าสุดจึงได้ร่วมมือกับ The EM District และ AEG เพื่อให้ธนาคารสามารถมอบประสบการณ์ความบันเทิงที่ยอดเยี่ยมแก่ลูกค้าผ่าน UOB LIVE ที่ชั้น 6 ศูนย์การค้า EMSphere โดยเนรมิตให้ทั้ง Floor นี้ คือศูนย์กลางการจัดงานอินดอร์ที่ครบครันและล้ำสมัยที่สุดในอาเซียน ด้วยการเป็น World Class Arena ที่สามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้ถึง 6,000 ที่นั่ง ตอบโจทย์รูปแบบการจัดงานที่หลากหลาย ซึ่งมีแพลนที่จะเปิดอย่างเป็นทางการในเดือนกุมภาพันธ์ 2567
“UOB LIVE ถือเป็นข้อพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของธนาคารในประเทศไทย”
นอกจากนี้ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยยังร่วมมือกับ 5 แบรนด์ชั้นนำในหลากหลายไลฟ์สไตล์ เปิดตัวบัตรเครดิต โคแบรนด์ UOB-Grab, UOB-Lazada, UOB-ROP, UOB-Makro และ UOB-Mercedes เพื่อเพิ่มสิทธิประโยชน์ที่เหมาะกับแต่ละประเภทการใช้จ่ายและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า
โดยการเปิดตัวบัตร Co Brand ทั้ง 5 ใบนี้ ธนาคารตั้งเป้าหมายจะเพิ่มฐานลูกค้า 15% ภายใน ปี 2567
รวมถึงทำกิจกรรมการตลาดให้ลูกค้าซิตี้แบงก์และยูโอบีเพลิดเพลินกับสิทธิประโยชน์ร่วมกัน อย่าง Friday Surprise, Airport Privileges ที่เป็นสิทธิประโยชน์ของลูกค้ายูโอบี ในตอนนี้ลูกค้าซิตี้ก็สามารถเอ็นจอยกับสิทธิประโยชน์นี้ได้เช่นเดียวกัน
ตลอดจนผลิตภัณฑ์ทางการเงินต่างๆ เช่น สินเชื่อที่อยู่อาศัยสำหรับลูกค้า Citi / ผลิตภัณฑ์การลงทุนในต่างประเทศสำหรับลูกค้า UOB เป็นต้น
อีกทั้งการดำเนินการปิดช่องว่างต่างๆ อาทิ จัดสรรทีมงานผู้รับผิดชอบแต่ละหัวข้อ ให้ทำ Action Plan หรือแผนการปิดช่องว่าง มีการติดตามผลทุกเดือน จัดให้มี Service Ambassador จากทุกหน่วยงานมาช่วยกันระดมความคิด รับฟังคำติชม / เสียงของลูกค้า เพื่อนำไปสู่การปรับประสบการณ์ให้ดียิ่งขึ้นในทุกช่องทาง เช่น จุดให้บริการที่สาขา, TMRW Chat BOT, Call Centre IVR และหลังจากการย้ายฐานลูกค้า Citi เข้ามาใช้ระบบของยูโอบีในเดือนเมษายนปี 2567 ลูกค้า Citi จะเปลี่ยนมาใช้ช่องทางการติดต่อ แอปพลิเคชัน และมีการทยอยเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ เช่น ออกการ์ดใหม่ให้เป็นหน้าบัตร UOB ต่อไป
ส่วนการเข้าซื้อกิจการธนาคารลูกค้ารายย่อยของ Citi ที่มีความโดดเด่นด้านสินเชื่อที่ไม่มีหลักประกัน จะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับสินเชื่อที่อยู่อาศัยที่แข็งแกร่งของยูโอบี สินเชื่อที่ไม่มีหลักประกันจะเพิ่มขึ้นจาก 7% เป็น 21% ในขณะที่สินเชื่อที่อยู่อาศัยและสินเชื่อเพื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่จะอยู่ที่ประเภทละประมาณ 40% และช่วยให้กลุ่มลูกค้าธุรกิจมีความหลากหลายมากขึ้น
“เราอยากให้ลูกค้ามีผลิตภัณฑ์เป็น multi product อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นของซิตี้หรือยูโอบี เราต้องการให้ใช้ multi product เพราะเรามีแคมเปญพิเศษและสิทธิประโยชน์เพื่อดึงลูกค้าตลอดปี จากปัจจุบันลูกค้า 1 คน มีบัตรเฉลี่ย 1.4-1.5 ใบ เราต้องการให้ลูกค้าหนึ่งคนมีบัตรเครดิตหลัก 1 ใบและบัตรพันธมิตรร่วม Co-brand อีก 1 ใบ” วีระอนงค์ กล่าว
สำหรับก่อนสิ้นปี 2566 ธนาคารยูโอบี ประเทศไทยมีโปรโมชันสำหรับลูกค้าที่ชื่นชอบการช็อปปิ้ง ธนาคารยูโอบีเอาใจขาช็อปด้วยสิทธิประโยชน์พิเศษในช่วงปลายปี ของ Luxury Fashion Brand ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Brand ในเครือ Club 21, PP Group หรือเครือ Pacifica หรือ High Street brand อย่าง Zara, Massimo Dutti, Mango, และเครือ Jaspal ลูกค้าจะได้รับเครดิตเงินเพิ่มสูงสุด 10% จากส่วนลดของแบรนด์ต่างๆ จากเทศกาล End of Season Sales
สำหรับลูกค้าที่มีแพลนไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ อย่าลืมหยิบบัตรเครดิตยูโอบี หรือ Citi มาใช้จ่าย ก็จะได้สิทธิพิเศษตั้งแต่สนามบิน ด้วยแคมเปญ Airport Privileges รับอาหารและครื่องดื่มฟรี พกบัตรไปรูดที่ ต่างประเทศ ได้ทั้ง point ได้ทั้งเครดิตเงินคืนจากการใช้จ่ายในต่างประเทศสูงสุดถึง 20,000 บาท
หรือถ้าใครอยากจะไปเฉลิมฉลองกับครอบครัว จะร้าน Michelin หรือ Fine Dining หรือ Mass Chain ไม่ว่า HaiDiLao Sizzler หรือจะร้านแฮงเอาต์สังสรรค์กับเพื่อน ก็มีโปรทั้งส่วนลด และ special privileges พิเศษให้กับลูกค้า UOB เท่านั้น
ที่สำคัญลูกค้าทั้ง UOB และ Citi มีสิทธิ์ลุ้นรางวัลใหญ่เป็นรถ MINI Limited Edition ที่มีคันเดียวในประเทศไทยและเพียง 5 คันในโลกด้วย