ลูกหนี้ไหวไหม อัปเดต ดอกเบี้ยเงินกู้ล่าสุด 10 ธนาคารไทย หลัง กนง.ขึ้นดอกเบี้ย

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ลูกหนี้ไหวไหม อัปเดต ดอกเบี้ยเงินกู้ล่าสุด 10 ธนาคารไทย หลัง กนง.ขึ้นดอกเบี้ย

Date Time: 6 ต.ค. 2566 18:00 น.

Video

บัญชีม้า เกลื่อนเมือง คนไทยอยู่อย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ ? | Money Issue

Summary

  • อัปเดตดอกเบี้ยเงินกู้ล่าสุดของ 10 ธนาคารในไทย หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 2.25% เป็น 2.50% ต่อปี โดยให้มีผลทันที ส่งผลให้บรรดาธนาคารต่างทยอยปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ แต่กระนั้นก็ยังคงมีบางสถาบันการเงินยังคงประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จนถึงสิ้นปี 2566

Latest


ในครั้งนี้ #Thairath Money ได้ทำการอัปเดตอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ (ต่อปี) ของ 10 สถาบันการเงินในไทยล่าสุด ไว้ดังนี้ 

  • ธนาคารกรุงเทพ ถือเป็นรายแรกที่ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อปรับขึ้น 0.25% โดยเอ็มอาร์อาร์ (MRR) หรืออัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) เป็น 7.30% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเอ็มแอลอาร์ (MLR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) เป็น 7.10% ต่อปี และเอ็มโออาร์ (MOR) หรืออัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) เป็น 7.55% ต่อปี โดยเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 29 กันยายน 2566 

  • ธนาคารกรุงไทย ปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท เพิ่มขึ้น 0.25% ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (MLR) อยู่ที่ระดับ 7.05% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทวงเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) อยู่ที่ระดับ 7.52% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้รายย่อย (MRR) อยู่ที่ระดับ 7.57% ต่อปี มีผลตั้งแต่วันที่ 5 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป 
     
  • ธนาคารกสิกรไทย ได้ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ 0.25% เพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางดอกเบี้ยนโยบายและส่งเสริมเศรษฐกิจให้เข้าสู่ภาวะสมดุล อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เพิ่มจาก 7.02% เป็น 7.27% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มจาก 7.34% เป็น 7.59% อัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เพิ่มจาก 7.05% เป็น 7.30% โดยมีผลวันที่ 4 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

  • ธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมเพื่อสะท้อนต้นทุนทางการเงินในระบบที่สูงขึ้น โดยปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.05% เป็น 7.30% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี (Minimum Loan Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 6.80% เป็น 7.05% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยที่เรียกเก็บจากลูกค้ารายใหญ่ชั้นดีประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) จากปัจจุบันอยู่ที่ 7.325% เป็น 7.575% ต่อปี โดยอัตราดอกเบี้ยใหม่จะมีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (MLR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 7.280% สำหรับลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (MOR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 7.575% สำหรับลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) เพิ่มขึ้น 0.25% เป็น 7.400% ทั้งนี้ อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไป

  • ธนาคารทหารไทยธนชาต ปรับด้านอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพิ่มขึ้น 0.25% สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภท ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี MLR (Minimum Loan Rate) ปรับขึ้นเป็น 7.725% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี MOR (Minimum Overdraft Rate) ปรับขึ้นเป็น 7.85% และอัตราดอกเบี้ยรายย่อยชั้นดี MRR (Minimum Retail Rate) ปรับขึ้นเป็น 7.83% โดยอัตราดอกเบี้ยที่ปรับขึ้นดังกล่าว มีผลตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2566 เป็นต้นไปเช่นกัน

  • ธนาคารยูโอบี ได้ทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินให้สินเชื่อ 0.25% ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) อยู่ที่ 8.25% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) อยู่ที่ 8.35% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) อยู่ที่ 8.80% ต่อปี มีผลตั้งแต่ 4 ตุลาคม 2566 

  • ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) อยู่ที่ 8.550% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) อยู่ที่ 7.825% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) อยู่ที่ 8.200% ต่อปี ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2566 

  • ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) MRR อยู่ที่ 6.900% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) อยู่ที่ 6.500% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) อยู่ที่ 6.650% ต่อปี ซึ่งเป็นข้อมูล ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2566 ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด

  • ธนาคารทิสโก้ ประกอบด้วย อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate) MRR อยู่ที่ 8.150% ต่อปี อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา (Minimum Loan Rate) อยู่ที่ 8.100% ต่อปี และอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินเบิกเกินบัญชี (Minimum Overdraft Rate) อยู่ที่ 8.100% ต่อปี มีผลบังคับใช้ล่าสุด วันที่ 3 ตุลาคม 2566

Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ