นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า จากการติดตามและตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อ พบว่า ธนาคารมีมูลหนี้ 300,000 ล้านบาทที่ต้องติดตามใกล้ชิด เพื่อให้ลูกหนี้มาชำระหนี้ตามกำหนด และมีมูลหนี้อีก 10,000 ล้านบาทเป็นหนี้ที่ตกชั้นหรือเข้าข่ายเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) แบ่งเป็นหนี้เก่า 5,000 ล้านบาท และหนี้ใหม่ 5,000 ล้านบาท ซึ่งเร่งบริหารจัดการเพื่อแก้ปัญหาหนี้เสียเหล่านี้ โดยตั้งเป้าหมายว่าปีนี้หนี้เสียจะอยู่ที่ 4-5% ของวงเงินสินเชื่อทั้งหมด จากเดือน มี.ค.66 หนี้เสียอยู่ที่ 7.68%
สำหรับปัญหาหนี้เสีย เกิดจากเกษตรกรได้รับผลกระทบจากปัญหาภัยพิบัติ น้ำท่วม น้ำแล้ง ราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ทำให้ไม่มีเงินใช้หนี้ ซึ่งหลายรายธนาคารได้ช่วยปรับโครงสร้างหนี้ หาตลาดขายสินค้ารองรับผลผลิตทางการเกษตร ปรับวิธีคิดของเกษตรกร เพื่อประคับประคองให้ลูกหนี้ได้มีอาชีพ ปรับตารางชำระหนี้ใหม่ให้สอดคล้องกับศักยภาพของลูกค้าและที่มาของรายได้.