ธุรกิจไทยลุยซื้อกิจการยุโรป “เอ็กซิมแบงก์” มั่นใจพร้อมปล่อยเงินกู้เต็มสตรีม

นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (ธสน.) หรือเอ็กซิมแบงก์ เปิดเผยว่า จากส่งออกไทยปีนี้มีสัญญาณลดลงและมีแนวโน้มติดลบสูง โดยมีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจโลกและกำลังซื้อของคู่ค้าที่ชะลอตัวแรงกว่าที่คาด แต่ยังมีความหวังจากตลาดตะวันออกกลาง และจีนที่กลับมาเปิดประเทศ อย่างไรก็ตามแม้ส่งออกปีนี้จะติดลบ แต่จะไม่กระทบต่อเอ็กซิมแบงก์ เนื่องจากธนาคารมีสัดส่วนปล่อยกู้เพื่อการลงทุนต่างประเทศมากถึง 70% ขณะที่อีก 30% เป็นสินเชื่อเพื่อการค้า โดยการลงทุนในต่างแดนก็ยังมีการขยายตัวดี จึงมั่นใจว่าปีนี้จะปล่อยกู้ใหม่ได้ 20,000 ล้านบาท และมีสินเชื่อคงค้าง 175,000 ล้านบาท ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด เศรษฐกิจโลกถดถอย ตลาดเงินมีปัญหา และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ทำให้ได้เห็นบริษัทไทยขยายการลงทุนไปต่างประเทศเพิ่มขึ้น ทั้งลงทุนสร้างโรงงาน และซื้อธุรกิจในต่างประเทศ โดยเฉพาะการซื้อกิจการในสหภาพยุโรป ที่มีการขายกิจการให้นักลงทุนเอเชียและไทยจำนวนมาก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ตรงกันข้ามกับช่วงวิกฤติต้มยำกุ้ง โดยขณะนั้นชาติตะวันตกจะมาไล่ซื้อกิจการจากเอเชีย

นายรักษ์ กล่าวต่อว่า สำหรับธุรกิจไทยที่ขยายกิจการไปลงทุนต่างประเทศ อาทิ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้เข้าซื้อกิจการโรงงานแปรรูปสินค้าเกษตรและอาหาร และขยายกิจการในยุโรป นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจพลังงานที่บริษัทไทยสนใจเข้าซื้อกิจการต่างประเทศ อาทิ บมจ.บางจากคอร์ปอเรชั่น กลุ่มบมจ.ปตท. และกลุ่มธุรกิจค้าปลีกกลุ่มเซ็นทรัล หรือกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ก็เข้าไปลงทุนในหลายประเทศ ซึ่งเอ็กซิมแบงก์พร้อมจะเติมเงินให้บริษัทไทยออกไปลงทุนต่างประเทศ นอกจากนี้ ช่วงไตรมาส 2 ปีนี้ ธนาคารเปิดตัวสินเชื่อใหม่ 2 สเต็ป วงเงิน 5,000 ล้านบาท สำหรับปล่อยกู้ให้ผู้ส่งออกรายใหญ่ หรือเจ้าสัว นำไปปล่อยกู้ต่อให้ผู้ประกอบการรายเล็กที่เป็นซัพพลายเชนของตัวเอง เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการรายเล็กที่เป็นคู่ค้ากับเจ้าสัวมีโอกาสการเข้าถึงแหล่งทุนง่ายขึ้นและเสียดอกเบี้ยถูกลง จากปกติที่เสียกว่า 10% จะลดเหลือ 4-5% เนื่องจากการกู้โครงการนี้จะใช้เครดิตของธุรกิจรายใหญ่เข้ามาขอ และนำไปปล่อยกู้ต่อให้รายเล็กใช้.