ธนาคารรัฐพร้อมขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ นำโดย ธอส. ยืนยันค่างวดบ้านผ่อนเท่าเดิม

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

ธนาคารรัฐพร้อมขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ นำโดย ธอส. ยืนยันค่างวดบ้านผ่อนเท่าเดิม

Date Time: 26 ม.ค. 2566 11:12 น.

Video

ศิรเดช โทณวณิก Gen 3 ดุสิตธานี ธุรกิจที่เป็นมากกว่าโรงแรม | On The Rise

Summary

  • ธนาคารของรัฐ พร้อมขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ รับ กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ต่อปี นำโดย ธอส. พร้อมยืนยันค่างวดบ้านผ่อนเท่าเดิม

Latest


ธนาคารของรัฐ พร้อมขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ รับ กนง.ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.25% ต่อปี นำโดย ธอส. พร้อมยืนยันค่างวดบ้านผ่อนเท่าเดิม

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ หรือ ธอส. และในฐานะประธานกรรมการสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ หรือ GFA กล่าวว่า จากกรณีที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในการประชุมเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2566 โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% ต่อปี จาก 1.25% ต่อปี เป็น 1.50% ต่อปี

ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจและเงินเฟ้อโดยให้มีผลทันที ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายครั้งที่ 4 ติดต่อกัน รวมปรับขึ้น 1% ต่อปี นับตั้งแต่การปรับขึ้นครั้งแรกในเดือนส.ค.65 โดยสถาบันการเงินของรัฐยังคงตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ที่ระดับเดิมตลอดปี 2565 เพื่อให้ลูกค้าประชาชนได้มีเวลาปรับตัวรับกับภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นในอนาคตและช่วยบรรเทาค่าใช้จ่ายของลูกค้ากลุ่มที่ยังได้รับผลกระทบด้านรายได้จากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของโควิดนั้น

อย่างไรก็ตาม สถาบันการเงินของรัฐ มีความจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ โดยเริ่มมีผลตั้งแต่เดือนมกราคม 2566 เป็นต้นไป เพื่อให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในตลาดและจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากไปแล้วก่อนหน้านี้ รวมถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและสถานการณ์โควิดที่คลี่คลายลง

สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ดังกล่าวยังเป็นระดับที่ต่ำกว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และจะไม่ส่งผลกระทบให้เงินงวดของลูกค้าส่วนใหญ่ต้องปรับขึ้นแต่อย่างใด สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ และสมาชิก ยังคงตระหนักถึงผลกระทบต่อลูกค้า และยังคงให้ความสำคัญในการดูแลลูกค้ากลุ่มเปราะบาง ที่รายได้ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และได้รับผลกระทบจากค่าครองชีพที่เพิ่มสูงขึ้น

ขณะเดียวกัน เรายังคงพร้อมให้ความช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบผ่านมาตรการความช่วยเหลือของแต่ละสถาบันการเงิน ที่มุ่งเน้นการให้ความช่วยเหลือที่เหมาะสม ตรงจุด และทันเหตุการณ์ ครอบคลุมทั้งการลดภาระทางการเงินและการปรับปรุงโครงสร้างหนี้เดิม

โดยคำนึงถึงศักยภาพและโอกาสในการปรับตัวของลูกค้าในอนาคต การเสริมสภาพคล่องและการปรับโครงสร้างหนี้ต่างๆ ทั้งนี้ สถาบันการเงินของรัฐจะติดตามความคืบหน้าและประสิทธิผลของมาตรการต่างๆ อย่างใกล้ชิด และพร้อมพิจารณาดำเนินการเพิ่มเติมหากมีความจำเป็นในระยะต่อไป โดยสถาบันการเงินของรัฐพร้อมปฏิบัติตามนโยบายและร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว

นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า สำหรับธนาคารอาคารสงเคราะห์นั้น จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม 2566 เป็นต้นไป โดยถือยังเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ครั้งแรกในรอบ 2 ปี 9 เดือน นับตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. 63 อีกด้วย โดยมีรายละเอียด ดังนี้

- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี หรือ MRR จาก 6.15% ต่อปี ปรับเพิ่มขึ้นเป็น 6.40% ต่อปี

- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้แบบมีระยะเวลา หรือ MLR จาก 5.75% ต่อปี ปรับเพิ่มขึ้น เป็น 6.00% ต่อปี

- อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลูกค้ารายใหญ่ชั้นดี ประเภทเงินกู้เบิกเกินบัญชี หรือ MOR จาก 5.90% ต่อปี ปรับเพิ่มขึ้น เป็น 6.15% ต่อปี

"ธอส. ยืนยันว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในครั้งนี้ จะไม่ส่งผลให้ลูกค้าส่วนใหญ่ของธนาคารต้องผ่อนชำระเงินงวดเพิ่มขึ้น เนื่องจากธนาคารได้จัดทำผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่มีการคำนวณเงินงวดให้มีจำนวนเผื่อกรณีมีการปรับอัตราดอกเบี้ยไว้ให้กับลูกค้าอยู่แล้ว"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ