สศค.เก็บรายได้เกินเป้าแสนล้าน ผลจากการฟื้นตัวเศรษฐกิจ

นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า สิ้นปีงบประมาณ 65 รัฐบาลจัดเก็บรายได้เกินเป้าหมาย 130,000 ล้านบาท หรือ 5.4% ของเป้าหมายรายได้ที่กำหนดไว้ 2.06 ล้านล้านบาท เป็นผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยเพิ่มขึ้น, การบริโภคภายในประเทศเพิ่มขึ้น โดยกรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้สูงสุดถึง 2.166 ล้านล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 290,000 ล้านบาท หรือ 15.5% ส่วนกรมสรรพสามิตจัดเก็บได้ต่ำกว่าเป้าหมาย โดยจัดเก็บได้รวม 503,000 ล้านบาท ต่ำกว่าเป้าหมาย 93,500 ล้านบาท หรือ 15.7% เพราะการลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลตามนโยบายรัฐบาลเพื่อช่วยเหลือประชาชน

ขณะที่กรมศุลกากรจัดเก็บภาษีได้ 110,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้า 10,400 ล้านบาท หรือ 10.5% ส่วนรัฐวิสาหกิจที่มีหน้าที่ต้องนำส่งรายได้ให้กับกระทรวงการคลัง นำส่งรายได้รวม 143,000 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 858 ล้านบาท หรือ 0.6%

สำหรับปีงบประมาณ 66 ตั้งเป้าหมายรายได้สุทธิ 2.49 ล้านล้านบาท คิดเป็น 13.91% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) และตั้งเป้าหมายงบประมาณรายจ่ายไว้ที่ 3.185 ล้านล้านบาท คิดเป็น 17.79% ของจีดีพี พร้อมกับคาดการณ์จีดีพีไว้ที่ 3.8% จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย 40 ล้านคน หลังจากโควิดคลี่คลาย หลายประเทศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ยกเว้นจีน คาดหวังว่ากลางปี 66 จีนจะเปิดประเทศให้ประชาชนเดินทางออกนอกประเทศ เพื่อท่องเที่ยวได้

นายพรชัยกล่าวต่อถึงการจัด “มหกรรมร่วมใจแก้หนี้ มีหนี้ต้องแก้ไข เริ่มต้นใหม่อย่างยั่งยืน” ครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 4-6 พ.ย.65 ณ อิมแพ็ค เมืองทองธานีว่า ประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง ประชาชนและผู้ประกอบการสนใจเข้าร่วมงานกว่า 15,000 ราย โดยประชาชนส่วนใหญ่ขอรับคำปรึกษาด้านการเงินและแนวทางประกอบอาชีพ ถือเป็นสัญญาณดีที่จะส่งผลให้การแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนประสบความสำเร็จในระยะยาว รองลงมา คือ ขอแก้ไขปัญหาหนี้เดิม, ขอสินเชื่อใหม่หรือสินเชื่อเพิ่มเติมเพื่อเสริมสภาพคล่องและสร้างรายได้เพิ่ม และการเข้าร่วมกิจกรรมอื่นๆ เช่น ผลิตภัณฑ์เงินฝากเพื่อส่งเสริมการออม, การตรวจข้อมูลเครดิต เป็นต้น.