ธปท. คุมเข้มบัญชีม้า จับมือทุกภาคส่วนหากพบความเคลื่อนไหวผิดปกติจะแจ้ง ปปง. ทันที เพื่อประสานตำรวจอายัดบัญชี
เมื่อวันที่ 21 ก.ย. 65 นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ปัญหาการเปิดบัญชีเพื่อใช้ในการทำทุจริตนั้น หรือที่เรียกว่าบัญชีม้า ธปท. ได้ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานของรัฐอย่างใกล้ชิด เช่น ตำรวจไซเบอร์ หรือ บช.สอท. กระทรวง DE สำนักงาน ปปง. และ สำนักงาน กสทช. เป็นต้น
รวมถึงสมาคมธนาคารไทยและธนาคารทุกแห่ง แก้ไขปัญหา ตั้งแต่การกำหนดมาตรการป้องกัน ไม่ให้มีเปิดบัญชีไปใช้ในการทำทุจริต การตรวจจับธุรกรรมที่ผิดปกติอย่างเข้มงวดโดยเฉพาะกรณีบัญชีม้า และเมื่อตรวจพบให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและรายงานต่อสำนักงาน ปปง. รวมถึงให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในการอายัดบัญชีและสนับสนุนข้อมูลสำหรับสืบสวนสอบสวนอย่างทันเวลา
ทั้งนี้ จากสถิติของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่าจำนวนบัญชีม้าที่ธนาคารส่งให้สำนักงาน ปปง. ตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกเดือน จาก 6,211 บัญชี ในเดือน พ.ค. เป็น 14,369 บัญชี ในเดือน ส.ค. 65 เนื่องด้วยในช่วงที่ผ่านมา ทางตำรวจและสถาบันการเงินมีความเข้มงวดในการตรวจจับและกวาดล้างบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มิจฉาชีพว่าจ้างให้เยาวชนเปิดบัญชีธนาคาร หรือบัญชีม้า จำนวนมากขึ้น นั้น ในความเป็นจริงแล้ว ธปท.มีหลักเกณฑ์การเปิดบัญชีของเยาวชน โดยปกติธนาคารมีระเบียบการเปิดบัญชีที่กำหนดอายุขั้นต่ำที่สามารถเปิดบัญชีไว้
ทั้งนี้ หากอายุไม่ถึงตามเงื่อนไขจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองและจะต้องให้ผู้ปกครองมาร่วมเปิดบัญชีด้วย อย่างไรก็ตาม เยาวชนยังสามารถเปิดบัญชีได้ด้วยตนเองหากอายุเกินขั้นต่ำที่กำหนด ซึ่งกลุ่มลูกค้าดังกล่าวถูกจัดอยู่ในกลุ่มเปราะบาง ซึ่งอาจไม่เท่าทันเหล่ามิจฉาชีพและอาจตกเป็นเหยื่อได้
ธปท. จึงให้ความสำคัญกับกลุ่มเหล่านี้ โดยได้ให้ ธนาคารมีการติดตามความเคลื่อนไหวธุรกรรมโดยเฉพาะกลุ่มนี้เป็นพิเศษ หากพบธุรกรรมผิดปกติจะต้องดำเนินการตอบสนองโดยเร็ว และมีการจำกัดวงเงินต่อวันในการทำธุรกรรมผ่านช่องทาง Mobile Banking ตามระดับความเสี่ยงของลูกค้า
"ปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดวงเงินมาตรฐานสำหรับกลุ่มเยาวชน ซึ่ง ธปท. อยู่ระหว่างหารือกับธนาคาร เพื่อพิจารณากำหนดวงเงินที่เหมาะสมตามความเสี่ยงของกลุ่มต่อไป"
ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของมิจฉาชีพ ธปท.ขอแนะนำดังนี้
- ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ ที่จะได้จากการรับจ้างเปิดบัญชี เพราะสุดท้ายอาจเข้าข่ายผิดกฎหมาย และถูกดำเนินคดีไม่คุ้มกับสิ่งที่ได้รับ
- หากมีเงินเข้าบัญชีโดยไม่ทราบที่มา ต้องไม่โอนเงินกลับไปให้คนที่ไม่รู้จัก เพราะเราอาจถูกหลอกให้โอนเงินผิดกฎหมายและกลายเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ควรแจ้งธนาคารเมื่อได้รับเงินโดยไม่ทราบที่มาทุกครั้ง
- มีสติ ไม่หลงเชื่อกับรางวัลหรือผลประโยชน์ที่มีการเสนอโดยไม่มีเหตุผล หรือไม่หลงเชื่อใครง่ายๆ โดยเฉพาะโทรมาทางโทรศัพท์หรือออนไลน์ อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือเจ้าหน้าที่ธนาคาร เรียกตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพราะเจ้าหน้าที่รัฐหรือธนาคารไม่มีการดำเนินการลักษณะดังกล่าว.