เศรษฐีไทยรวยทะลุ 10 ล้านล้านบาท

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

เศรษฐีไทยรวยทะลุ 10 ล้านล้านบาท

Date Time: 20 ส.ค. 2565 06:10 น.

Summary

  • วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “คนรวย” สวนกระแสเศรษฐกิจกันสักวันนะครับ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลกจากโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เศรษฐกิจในประเทศร่ำรวย

Latest

ปลดล็อกเรื่องภาษี!


วันเสาร์สบายๆวันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “คนรวย” สวนกระแสเศรษฐกิจกันสักวันนะครับ ท่ามกลางวิกฤติเศรษฐกิจโลกจากโควิด-19 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา จนถึงวันนี้เศรษฐกิจในประเทศร่ำรวย เช่น สหรัฐฯ ยุโรป อังกฤษ กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย เพราะผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน และการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐฯและยุโรป ทำให้เกิดภาวะวิกฤติพลังงานและเงินเฟ้อพุ่ง จนเดือดร้อนกันทั่วโลก

แต่ท่ามกลางวิกฤติก็ยังมีโอกาสมากมาย มหาเศรษฐีโลกที่รํ่ารวยอยู่แล้วกลับร่ำรวยยิ่งขึ้น เช่น อีลอน มัสก์ แห่งเทสลา สเปซเอ็กซ์ รวยขึ้นเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 1 ของโลก ด้วยความมั่งคั่ง 219,000 ล้านดอลลาร์ อันดับ 2 เจฟฟ์ เบซอส แห่งอเมซอน รวยกว่า 171,000 ล้านดอลลาร์ อันดับ 3 ที่พุ่งขึ้นมาอย่างรวดเร็วคือ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ เจ้าของสินค้าแบรนด์เนมหรู LVMH เจ้าของ หลุยส์ วิตตอง คริสเตียน ดิออร์ เฟนดิ จิวองชี่ ฯลฯ รํ่ารวยกว่า 158,000 ล้านดอลลาร์ เพราะช่วงวิกฤติโควิด และเงินเฟ้อ 3 ปีที่ผ่านมา คนรวยแห่ซื้อสินค้าแบรนด์เนมกันกระหน่ำ ทั้งที่ราคาสินค้าได้ปรับเพิ่มจากเดิม 2-3 เท่า ในไทยยอดขายก็เติบโตกว่า 400%

วารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับเดือนสิงหาคมได้รายงานถึงความมั่งคั่งของมหาเศรษฐีไทย ก็รวยเพิ่มขึ้นไม่แพ้เศรษฐีชาติอื่น ปีที่ผ่านมา “เศรษฐีไทยรวยทะลุ 10 ล้านล้านบาท” ทำให้ธุรกิจ Private Banking ของธนาคารพาณิชย์เจริญรุ่งเรืองกันถ้วนหน้า คุณลลิตภัทร ธรณวิกรัย รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Private Banking ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยกับ วารสาร “การเงินธนาคาร” ว่า ช่วงสองปี ที่ผ่านมา กลุ่มบุคคลที่มีความมั่งคั่งสูง High Net Worth (HNW) ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้จะเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19

ตลาดที่มีการเติบโตมากที่สุดคือ สหรัฐฯ จากการเติบโตของกลุ่มเทคโนโลยี รองลงมาที่ยังเติบโตได้ดีคือ ยุโรป ตามมาด้วย ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้ง ประเทศไทย ในปี 2021 ความมั่งคั่งของเศรษฐีไทยเติบโตเพิ่มขึ้น 5% แต่ก็ยังมีสัดส่วนเล็กมากเมื่อเทียบกับทั่วโลก

คุณลลิตภัทร กล่าวว่า ลูกค้ากลุ่ม High Net Worth ของไทยที่มีสินทรัพย์ 50 ล้านบาทขึ้นไป คาดว่ามีอยู่ราว 3-4 หมื่นคน มีการถือครองทรัพย์สินมูลค่ากว่า 8.8 ล้านล้านบาท ยังไม่นับทรัพย์สินที่ถือครองอยู่ในต่างประเทศที่คาดว่าจะมีอยู่ราว 2 ล้านล้านบาท รวมแล้วกว่า 10 ล้านล้านบาท โดย ธนาคารไทยพาณิชย์ มีส่วนแบ่งการตลาดราว 1 ใน 3 มีลูกค้าราว 10,000 คน มีมูลค่าทรัพย์สินภายใต้การบริหารราว 8-9 แสนล้านบาท

ส่วน ลูกค้าที่มีความมั่งคั่งมากกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป และสนใจลงทุนในต่างประเทศทำธุรกรรมการเงินในสกุลเงินต่างประเทศ ธนาคารไทยพาณิชย์ ก็มีบริการจาก SCB Julius Baer ให้บริการเติมเต็มที่แตกต่างออกไป

คุณจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Private Banking Group Head ของ ธนาคารกสิกรไทย ก็เปิดเผยกับ “การเงินธนาคาร” ว่า ภาพรวมการเติบโตของกลุ่มบุคคลมั่งคั่งสูง (HNW) ในปีที่ผ่านมายังเติบโตต่อเนื่อง แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ประเทศที่มีการเติบโตมากที่สุดคือสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะการเติบโตจากเศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ทั้งบริษัทเทคโนโลยีและสตาร์ตอัพประเทศไทยมีการเติบโตระดับ 4-5% ลูกค้าของ KBank Private Banking มีการขยับจากกลุ่มที่มีสินทรัพย์น้อยกว่า 50 ล้านบาท ขึ้นมาเป็น 50 ล้านบาทขึ้นไปราว 400-500 ราย จากเดิมที่มีลูกค้ากว่า 1 หมื่นราย ทำให้ปัจจุบันมีสินทรัพย์ให้บริหารรวม 6-7 แสนล้านบาท

ความมั่งคั่งเหล่านี้ยังไม่นับรวมทรัพย์สินที่เป็น Passion Investment เช่น นาฬิกาหรู ไวน์แพง มีการเติบโต 16% ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การประมูลนาฬิกาหรูมีมูลค่าเพิ่มขึ้นกว่า 110% มากกว่าดัชนีหุ้นดาวโจนส์ที่เพิ่มขึ้น 84% ในช่วงเวลาเดียวกัน

การบริหารความมั่งคั่ง กำลังเป็นธุรกิจใหม่ที่เฟื่องฟู วารสาร “การเงินธนาคาร” ฉบับนี้รายงานรายละเอียดไว้เยอะ เศรษฐีท่านใดสนใจคงต้องไปซื้อมาอ่านเอง.

“ลม เปลี่ยนทิศ”


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ