นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า ธนาคารสมาชิกพร้อมช่วยเหลือลูกค้ากลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ และช่วยประคับประคองชะลอการขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ให้นานที่สุด แต่การปรับขึ้นดอกเบี้ยจะเป็นไปตามกลไกของตลาด ซึ่งต้องติดตามผลกระทบจากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากโครงสร้างการเงินของธนาคารแต่ละแห่งไม่เหมือนกัน ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ของลูกค้ารายใหญ่นั้นจะปรับขึ้นตามต้นทุนการเงินที่เพิ่มขึ้น
“การให้ความช่วยเหลือในครั้งนี้ ให้ความสำคัญกับการดูแลการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อชะลอผลกระทบกับลูกค้ากลุ่มเปราะบาง กลุ่มที่อยู่ระหว่างการปรับตัวให้ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด เพื่อให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ค่อยๆกลับมา สามารถเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้สามารถมีรายได้สมดุลกับรายจ่ายมากขึ้น”
สำหรับลูกค้ากลุ่มเปราะบางที่ธนาคารสมาชิกเข้ามาดูแลเป็นพิเศษ จะเป็นไปตามมาตรการช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุด ณ เดือน พ.ค.65 ลูกค้าภายใต้มาตรการลดลงเหลือ 1.6 ล้านบัญชี คิดเป็นยอดหนี้เกือบ 2 ล้านล้านบาท มีการเสริมสภาพคล่องให้ธุรกิจเอสเอ็มอีผ่านสินเชื่อฟื้นฟูและสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) 320,000 ล้านบาทช่วยให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้ สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ของระบบไม่สูงขึ้นมาก และคุณภาพสินเชื่อมีแนวโน้มดีขึ้น สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวชัดเจน
ด้านนางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือลูกค้าสินเชื่อที่ยังลำบากอยู่ เป็นผลกระทบจากโควิด-19 และเมื่อธนาคารไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยก็จะเป็นการไม่ปรับทั้ง 2 ขา ทั้งดอกเบี้ยเงินฝากและดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้เกิดความสมดุล “การขึ้นดอกเบี้ย กนง.ในรอบนี้ ธนาคารยังทนได้และจะยังคงไม่ขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่หาก กนง.ปรับขึ้นดอกเบี้ยอีกรอบ ธนาคารคงอั้นไม่ไหว นอกจากนั้น หากต้องการให้ขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากก็ต้องขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย”
ด้านนายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ธอส.จะตรึงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ไว้ให้นานที่สุด อย่างน้อยถึงสิ้นปี 2565 เพื่อสนับสนุนนโยบายรัฐบาลในการช่วยให้ลูกค้าเงินกู้ของ ธอส.ที่มีจำนวนเงินสินเชื่อคงค้างในปัจจุบันมากกว่า 1.52 ล้านล้านบาท ได้มีเวลาปรับตัวรับกับดอกเบี้ยขาขึ้น และพร้อมปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากเพื่อรักษาสภาพคล่องให้กับธนาคาร และหากในปี 2566 ธอส.มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินกู้ 0.15-0.25% ต่อปี จะไม่ส่งผลให้ลูกค้าต้องผ่อนชำระเงินงวดเพิ่มขึ้น เนื่องจากได้คำนวณเงินงวดเผื่อไว้ให้แล้ว.