กสิกรไทย ร่วมทุนกลุ่มคาราบาว พัฒนาร้านถูกดี มีมาตรฐาน ดันสินเชื่อเข้าชุมชน

Personal Finance

Banking & Bond

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

กสิกรไทย ร่วมทุนกลุ่มคาราบาว พัฒนาร้านถูกดี มีมาตรฐาน ดันสินเชื่อเข้าชุมชน

Date Time: 22 ก.ค. 2565 16:46 น.

Video

ล้วงลึกอาณาจักร “PCE” สู่บริษัทมหาชน ปาล์มครบวงจร | On The Rise

Summary

  • ธนาคารกสิกรไทย ทุ่มเงิน 15,000 ล้านบาทร่วมทุน "กลุ่มคาราบาว" ร่วมพัฒนา ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ดันสินเชื่อเข้าชุมชน ตั้งเป้า 30,000 ร้าน ภายในปี 2567

ธนาคารกสิกรไทย ทุ่มเงิน 15,000 ล้านบาทร่วมทุน "กลุ่มคาราบาว" ร่วมพัฒนา ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ดันสินเชื่อเข้าชุมชน ตั้งเป้า 30,000 ร้าน ภายในปี 2567

เมื่อวันที่ 20 ก.ค. 65 นายพัชร สมะลาภา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย หรือ KBANK กล่าวว่า เราได้เตรียมเงินลงทุน 15,000 ล้านบาทเพื่อร่วมกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาวลงทุนผ่านตราสารการลงทุนที่ให้สิทธิลงทุนในหุ้นของ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด และเตรียมลงนามในสัญญาร่วมทุนจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อให้บริการสินเชื่อเต็มรูปแบบ รวมถึงการสนับสนุนทางการเงินให้กับ บริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาว

ทั้งนี้ ธนาคารกสิกรไทยมองว่า ชุมชนนอกตัวเมืองในจังหวัดต่างๆ เป็นพื้นที่ที่ลูกค้ามีความต้องการใช้บริการการเงิน บางส่วนไม่มีบัญชีเงินฝาก ไม่มีหลักฐานการเงินที่ทำให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ และเป็นพื้นที่ที่สาขาของธนาคารยังเข้าไม่ถึง

โดยการร่วมลงทุนกับ บริษัทในกลุ่มธุรกิจ คาราบาว เป็นยุทธศาสตร์ของธนาคารที่ตั้งใจพัฒนาร้าน ถูกดี มีมาตรฐาน ให้เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจของชุมชน ทำให้ทุกคนที่อยู่ในวงจรของ ร้านถูกดี มีมาตรฐาน ตั้งแต่เจ้าของร้าน คู่ค้า ชาวบ้านในชุมชน สามารถจับจ่ายใช้สอยและใช้บริการการเงินได้สะดวกมากยิ่งขึ้น รวมถึงสามารถเข้าถึงสินเชื่อธนาคารได้ง่ายขึ้น สร้างรายได้หมุนเวียนขับเคลื่อนเศรษฐกิจในชุมชน

สำหรับการพัฒนาร้านถูกดี มีมาตรฐานที่ธนาคารมีแผนดำเนินการร่วมกับบริษัทในกลุ่มธุรกิจคาราบาว ประกอบด้วย 3 ด้าน ได้แก่

1. ส่งเสริมศักยภาพของร้านถูกดี มีมาตรฐาน ให้เป็นร้านสะดวกซื้อชุมชนที่เป็นรากฐานเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ โดยใช้เทคโนโลยีการบริหารจัดการร้านและระบบการชำระเงินต่างๆ

2. เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันและค้าขายต่างๆ โดยธนาคารนำข้อมูลการจับจ่ายในชีวิตประจำวันมาใช้ในการพิจารณาสินเชื่อ ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่ไม่มีหลักฐานแสดงรายได้ประจำ หรือเจ้าของร้านค้าที่ต้องการเงินทุนหมุนเวียนภายในร้าน

3. เป็นจุดให้บริการธุรกรรมการเงินที่ใช้ในชีวิตประจำวันกับคนในชุมชน เช่น บริการถอนเงิน จ่ายบิล เป็นต้น รวมทั้งเพิ่มบริการดิจิทัลต่างๆ เช่น สแกนจ่ายด้วยคิวอาร์ โค้ด ซึ่งคนในชุมชน ส่วนใหญ่เริ่มคุ้นเคยแล้ว เป็นผลจากนโยบายส่งเสริมจากภาครัฐในช่วงผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19

"ความร่วมมือนี้ จะทำให้ธนาคารมีจุดบริการเคแบงก์ เซอร์วิสเพิ่มขึ้นอีก 30,000 จุด จากเดิมมีจำนวนกว่า 27,000 จุด เพิ่มช่องทางการให้บริการได้ลึกถึงแหล่งชุมชนและครอบคลุมทั่วประเทศ ปัจจุบันธนาคารมีช่องทางให้บริการผ่านสาขาจำนวน 830 สาขา ตู้เอทีเอ็มและตู้ฝากถอนเงินอัตโนมัติ รวม 11,000 ตู้ และ K PLUS ที่มีลูกค้าใช้งานกว่า 18 ล้านราย"

นายเสถียร เศรษฐสิทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท ทีดี ตะวันแดง จำกัด กล่าวว่า การร่วมมือในครั้งนี้จะช่วยเสริมสร้างกำลังซื้อให้กับชุมชน และความแข็งแกร่งให้กับร้านถูกดี มีมาตรฐาน เช่นการให้บริการแก่ผู้บริโภคมากขึ้นโดยเฉพาะสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของร้านซึ่งเป็นพาร์ทเนอร์ในปัจจุบัน

รวมถึงเปิดโอกาสให้ผู้สนใจเปิดร้านรายอื่นๆ ที่จะเข้ามาเป็นพาร์ทเนอร์ในอนาคต ตลอดจนซัพพลายเออร์และผู้ผลิตสินค้าต่างๆ ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันให้กับ ร้านถูกดี มีมาตรฐานในตลาดค้าปลีกได้มากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ เราวางเป้าหมายให้ร้านถูกดีเป็นเสมือน แพลตฟอร์ม และโครงข่าย ที่เชื่อมโยงกันเพื่อตอบสนองความต้องการของคนในชุมชนทั่วประเทศ และเชื่อมต่อผู้ผลิต และผู้ให้บริการต่างๆ ที่คนในชุมชนเคยเข้าถึงได้ยาก เช่น บริการทางการเงิน, เป็นจุดรับส่งสินค้าในชุมชน, บริการสินค้าทางการเกษตร ฯลฯ โดยเฉพาะในชุมชน หมู่บ้านที่ห่างไกล ที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ยังเข้าไม่ถึงอีกด้วย

"ร้านถูกดี มีมาตรฐาน เป็นโมเดลร้านค้าชุมชน โดยชุมชน เพื่อชุมชนร้านสะดวกซื้อชุมชนสมัยใหม่ ที่สนิทใจลูกค้า เพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน และมุ่งแบ่งปันผลประโยชน์ให้กับทุกฝ่ายมาโดยตลอด กับแนวคิด กินแบ่ง ไม่กินรวบ โดยถือเป็นร้านสะดวกซื้อชุมชนที่เติบโตเร็วที่สุด ปัจจุบันมีจำนวนร้านที่เปิดแล้วกว่า 5,000 ร้านค้าทั่วประเทศ"


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ