สัปดาห์นี้มีงานใหญ่ทางการเงินระดับชาติ มหกรรมการเงิน Money Expo กรุงเทพฯ ครั้งที่ 22 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บนพื้นที่ขนาด 40,000 ตารางเมตร จัดในช่วงจังหวะที่ไทยเปิดประเทศ เศรษฐกิจกำลังเริ่มฟื้นพอดี มี ธนาคารรัฐ ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงิน บริษัทหลักทรัพย์ บริษัทจัดการกองทุน บริษัทประกันชีวิต บริษัทประกันภัย บริษัทสินทรัพย์ดิจิทัล แพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล รวมเกือบ 100 แห่งร่วมออกบูธในงาน
ประเทศไทยวันนี้ มีความต้องการสินเชื่อและการลงทุนเพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในภาพรวม มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้น กำลังซื้อในประเทศเพิ่มขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติก็กำลังเข้ามาเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัวมากขึ้น
ธนาคารแห่งประเทศไทย เพิ่งเปิดเผยสำรวจ แนวโน้มสินเชื่อไตรมาส 2 ปี 2565 ซึ่งครอบคลุม ธนาคารพาณิชย์ไทย ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ 26 แห่ง Non–banks 25 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 98 ของตลาดเงิน คาดว่า แนวโน้มสินเชื่อภาคครัวเรือนในไตรมาส 2 มีความต้องการขอสินเชื่อเพิ่มขึ้นในทุกประเภทสินเชื่อ ตามความเชื่อมั่นของครัวเรือนที่ปรับตัวดีขึ้น ภาคครัวเรือนมีแนวโน้มต้องการสินเชื่ออุปโภคบริโภคบัตรเครดิต เพื่อใช้จ่ายทั่วไปและซื้อสินค้าคงทนมากขึ้นจากไตรมาส 1 และ ธุรกิจขนาดใหญ่ ธุรกิจเอสเอ็มอี ก็มีแนวโน้ม ต้องการสินเชื่อเพิ่มขึ้นในทุกสาขาธุรกิจ
ตัวเลขผู้ลงทุนในหุ้นก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ข้อมูลจาก ตลาดหลักทรัพย์ เปิดเผยว่า สิ้นปี 2564 มีผู้ลงทุนในหุ้น 5.2 ล้านบัญชี เพิ่มขึ้นถึง 49% จำนวนผู้ลงทุน 3 ล้านราย เพิ่มขึ้น 31% จากปี 2563 เท่ากับว่าปี 2564 มีผู้ลงทุนในหุ้นเพิ่มขึ้นมากกว่าปี 2563 ถึง 2.8 เท่าของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นในปี 2563 ผู้ลงทุนในกองทุนรวมก็มีมากกว่า 8 ล้านบัญชี สินทรัพย์รวมไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 5.2 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี แสดงว่า
ปี 2564 คนไทยหันไปลงทุนในหุ้นและกองทุนรวมเพิ่มขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ใครที่ไม่ได้ลงทุนถือว่าตกรถไปหนึ่งปี
คุณภาคนี วิริยะรังสฤษฎ์ ประธานจัดงานร่วม มหกรรมการเงิน Money Expo กรุงเทพฯ ครั้งที่ 22 เปิดเผยถึงแนวคิดการจัดงานปีนี้ว่า มาในธีม Wealth to Wellness สอดรับกับ เทรนด์การลงทุน และ เทรนด์การใช้ชีวิต หลังยุคโควิด มีสินเชืี่อและการลงทุนรองรับทุกรูปแบบ รวมทั้ง สินทรัพย์ดิจิทัล และ การลงทุนในต่างประเทศ รูปแบบการจัดงานเป็นแบบ Hybrid Exhibition มีทั้ง On Site และ Online สามารถทำธุรกรรมได้ทั้งสองแบบ
ผู้สนใจลงทุนในงาน สามารถเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นในประเทศและต่างประเทศพร้อมโปรพิเศษในงานได้ จะซื้อผ่านกองทุนรวมหรือหุ้นรายตัวก็ได้ รวมทั้งผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น ETF DR และ DW ตราสารทางการเงินที่่ช่วยให้ผู้ลงทุนสามารถลงทุนได้ทั้งตลาดขาขึ้นและขาลง กองทุนต่างประเทศ (FIF) ไปจนถึง สินเชื่อบุคคล สินเชื่อธุรกิจต่างๆ เช่น สินเชื่อนำเข้าและส่งออก สินเชื่อเอสเอ็มอี ดอกเบี้ยพิเศษ 1.99% สินเชื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ดอกเบี้ย 2% นาน 2 ปี เป็นต้น
ผู้ที่ต้องการ ลงทุนระยะยาว เพื่อ ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต หรือ สร้างกองมรดก ก็มีรูปแบบการลงทุนให้เลือกทั้ง ประกันสะสมทรัพย์ เพื่อตอบโจทย์ผู้ที่ต้องการออมเงินรับผลตอบแทนสูงไปจนถึง เบี้่ยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย วงเงินคุ้มครอง 100 ล้านบาท เบี้ยประกันมีตั้งแต่หลักพัน หลักหมื่น ไปจนถึงหลักล้าน เบี้ยประกันสูงสุด 4 ล้านบาท แถมทองคำแท่ง 10 บาท ที่น่าสนใจก็คือ การประกันสุขภาพ ที่มีโปรมากมาย เพื่อลดความเสี่ยงจากค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% ทุกปี เบี้่ยหลักพันคุ้มครองหลักล้านไปจนถึง ประกันโรคร้ายแรง เช่น มะเร็ง เจอ จ่าย จบ เป็นต้น
ชีวิตหลังโควิดมีความเสี่ยงทุกมิติ การลงทุนเพื่อป้องกันความเสี่ยงในอนาคต จึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง การเพิ่มความมั่งคั่งที่มั่นคง มีสุขภาพที่ดีขึ้น ทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ก็เป็นผลิตภัณฑ์ในงาน มหกรรมการเงิน Money Expo กรุงเทพฯ ครั้งที่ 22 ระหว่างวันที่ 12-15 พฤษภาคม ณ อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ที่นำมาเล่าสู่กันฟัง เพื่อไม่ให้พลาดโอกาส โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการสินเชื่อและลงทุนในช่วงนี้.
“ลม เปลี่ยนทิศ”
(ภาพประกอบจาก : แฟ้มภาพ)