โครงการคลินิกแก้หนี้ ปรับเกณฑ์ใหม่ครอบคลุมลูกหนี้ NPL ก่อน 1 เม.ย. 65

โครงการคลินิกแก้หนี้ พร้อมปรับเกณฑ์ใหม่ครอบคลุมลูกหนี้ NPL ก่อน 1 เม.ย. 65 สามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 เป็นต้นไป

เมื่อวันที่ 6 พ.ค. 65 นางธัญญนิตย์ นิยมการ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 2 ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. กล่าวว่า ที่ผ่านมา โครงการคลินิกแก้หนี้ให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีสถานะเป็นหนี้เสีย หรือ NPL ในกลุ่มสินเชื่อบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด และสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกันมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายระยะเวลาจ่ายคืนและลดอัตราดอกเบี้ย

ทั้งนี้ เพื่อให้ภาระรายเดือนของลูกหนี้ลดลงมาอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้ และจากการแพร่ระบาดของโควิด 19 ในช่วงปี 2563-2564 โครงการคลินิกแก้หนี้มีมาตรการเพิ่มเติมให้กับลูกหนี้ในโครงการฯ ที่ได้รับผลกระทบโดยผ่อนปรนการชำระหนี้ให้สอดคล้องกับรายได้ที่ลดลง ภายใต้มาตรการช่วยเหลือ ระยะที่ 3 ยาสูตรจ่ายเท่าที่ไหว (ก.ค.-ธ.ค.64) กำหนดให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ตั้งแต่ 40% ของค่างวดเดิมขึ้นไป จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 1-2% ต่อปี

อย่างไรก็ดี ที่ผ่านมา พบว่า รายได้ของลูกหนี้แต่ละอาชีพยังฟื้นตัวต่างกัน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นช้ากว่ากลุ่มอื่น คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ หรือ กคน. จึงเห็นชอบให้ปรับเกณฑ์คุณสมบัติลูกหนี้ที่สมัครเข้าร่วมโครงการฯ เพื่อขยายความช่วยเหลือให้ครอบคลุมลูกหนี้ที่มีสถานะเป็น NPL ก่อนวันที่ 1 เม.ย. 65 จากเดิมที่กำหนดให้เป็นวันที่ 1 ต.ค. 64 โดยลูกหนี้ที่เข้าเงื่อนไขดังกล่าว จะสามารถเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค. 65 เป็นต้นไป

อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เปิดโครงการคลินิกแก้หนี้ จนถึงสิ้นเดือน มี.ค. 65 มีลูกหนี้เข้าร่วมโครงการสะสมทั้งสิ้นจำนวน 26,701 ราย รวม 80,844 บัญชี ภาระหนี้เงินต้น 6,120 ล้านบาท โดยเฉลี่ยลูกหนี้ 1 ราย มีเจ้าหนี้ 2 ราย และมีค่าเฉลี่ยเงินต้นคงเหลือ 233,457 บาท ในจำนวนนี้เป็นลูกหนี้ที่เข้าโครงการในช่วงปี 2563-2564 ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 จำนวน 20,425 ราย 60,356 บัญชี สำหรับมาตรการช่วยเหลือ ระยะที่ 3 ยาสูตรจ่ายเท่าที่ไหว พบว่า ในช่วงดังกล่าว มีลูกหนี้ในโครงการถึง 85% ที่ได้รับส่วนลดดอกเบี้ยเพิ่มเติม